เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา [5. ปัญจกนิบาต] 4. สุมนเถรคาถา
4. สุมนเถรคาถา
ภาษิตของพระสุมนเถระ
(พระสุมนเถระเมื่อเปล่งอุทานจึงได้กล่าว 5 คาถาไว้ดังนี้ว่า)
[330] พระอุปัชฌาย์ปรารถนาธรรมข้อใด ในบรรดาธรรมทั้งหลาย
จึงได้อนุเคราะห์เราผู้มุ่งหวังแต่นิพพาน
กิจที่ควรทำ เราได้ทำเสร็จสิ้นแล้ว
[331] ธรรม1เราได้บรรลุแล้ว
ทำให้แจ้งประจักษ์ด้วยตนเองแล้ว
เรานั้นมีญาณบริสุทธิ์ หมดความสงสัย
จึงประกาศให้แจ้งในสำนักท่าน
[332] เรารู้จักขันธ์ที่อาศัยอยู่มาก่อน2
ชำระทิพยจักษุให้หมดจดแล้ว
เราได้บรรลุประโยชน์ตน ได้ทำตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว
[333] เราไม่ประมาท
ศึกษาสิกขามาอย่างดีในคำสอนของท่าน
กิเลสอาสวะทั้งมวลของเราสิ้นไปแล้ว
บัดนี้ ไม่มีการเกิดอีก
[334] ท่านมีแต่ความเอ็นดู
ได้อนุเคราะห์สั่งสอนเรา ด้วยข้อวัตรปฏิบัติที่ประเสริฐ
คำสอนของท่านไม่ไร้ค่า
เราเป็นอันเตวาสิกศึกษาแล้วในสำนักของท่าน

เชิงอรรถ :
1 มรรค 4 (1) โสดาปัตติมรรค (2) สกทาคามิมรรค (3) อนาคามิมรรค (4) อรหัตตมรรค
(ขุ.เถร.อ. 2/331/55)
2 บุพเพสันนิวาส

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :395 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา [5. ปัญจกนิบาต] 6. นทีกัสสปเถรคาถา
5. วัฑฒเถรคาถา
ภาษิตของพระวัฑฒเถระ
(พระวัฑฒเถระได้กล่าว 5 คาถากึ่งไว้ดังนี้ว่า)
[335] ทราบว่า โยมมารดาของเราดีแท้
ได้ชี้ให้เราเห็นประตักอันเป็นคำสั่งสอน
ซึ่งเราได้ถูกท่านผู้ให้กำเนิด พร่ำสอน ฟังคำมาแล้ว
ก็ได้ปรารภความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว
ได้บรรลุสัมโพธิญาณอันยอดเยี่ยม
[336] เราเป็นพระอรหันต์ ผู้ควรแก่ทักษิณา
บรรลุวิชชา 3 เห็นอมตธรรม
ชนะเสนามารได้แล้ว อยู่อย่างไม่มีอาสวะ
[337] อาสวะที่มีแก่เราทั้งภายในและภายนอก
เราถอนได้หมดสิ้นแล้ว และจะเกิดขึ้นไม่ได้อีก
[338] โยมมารดาเป็นหญิงผู้มีความแกล้วกล้า
ได้กล่าวเนื้อความนี้แก่เรา
แม้เมื่อเราเป็นบุตรของท่านผู้ไม่มีกิเลส
กิเลสอันเปรียบเหมือนหมู่ไม้ในป่าก็ย่อมไม่มีแก่ท่านแน่
[339] ทุกข์เราทำให้สิ้นสุดแล้ว
อัตภาพนี้มีเป็นครั้งสุดท้าย
สังสารวัฏคือความเกิดและความตายหมดสิ้นแล้ว
บัดนี้ ไม่มีการเกิดอีก

6. นทีกัสสปเถรคาถา
ภาษิตของพระนทีกัสสปเถระ
(พระนทีกัสสปเถระได้กล่าว 5 คาถาไว้ดังนี้ว่า)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :396 }