เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ [2. อุพพริวรรค] 10. อุตตรมาตุเปติวัตถุ
[333] ตั้งแต่ดิฉันตายจากมนุษยโลกเป็นเวลา 55 ปีแล้ว
ยังไม่ได้กินข้าวและดื่มน้ำเลย
ขอท่านจงให้น้ำดื่มแก่ดิฉันผู้กระหายน้ำด้วยเถิด เจ้าค่ะ
(ภิกษุนั้นกล่าวว่า)
[334] แม่น้ำคงคานี้มีน้ำเย็น ไหลมาจากภูเขาหิมพานต์
เธอจงตักน้ำจากแม่น้ำคงคานั้นดื่มเถิด จะมาขอเราทำไม
(นางเปรตนั้นตอบว่า)
[335] ท่านผู้เจริญ ถ้าดิฉันตักน้ำในแม่น้ำคงคาดื่มเอง
น้ำนั้นจะกลายเป็นเลือด (เพราะผลแห่งบาปกรรม)ของดิฉัน
เพราะฉะนั้น ดิฉันจึงขอน้ำดื่ม
(ภิกษุนั้นถามว่า)
[336] เมื่อก่อนเธอได้ทำกรรมชั่วทางกาย วาจา ใจอะไรไว้หรือ
เพราะผลกรรมอะไรน้ำในแม่น้ำคงคาจึงกลายเป็นเลือดปรากฏแก่เธอ
(นางเปรตนั้นตอบว่า)
[337] ดิฉันมีลูกชายคนหนึ่งชื่ออุตตระ เป็นอุบาสกมีศรัทธา
และเขาได้ถวายจีวร บิณฑบาต ที่นอน ที่นั่ง และยาสำหรับแก้ไข้
แก่สมณะทั้งหลายด้วยความไม่พอใจของดิฉัน
[338] ดิฉันถูกความตระหนี่ครอบงำ ได้ด่าเขาว่า
[339] เจ้าถวายจีวร บิณฑบาต ที่นอน ที่นั่ง
และยาสำหรับแก้ไข้ ด้วยความไม่พอใจของแม่
[340] เจ้าอุตตระ สิ่งนั้นจงกลายเป็นเลือดปรากฏแก่เจ้าในปรโลก
เพราะผลกรรมนั้นน้ำในแม่น้ำคงคาจึงกลายเป็นเลือดปรากฏแก่ดิฉัน
อุตตรมาตุเปติวัตถุที่ 10 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :220 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ [2. อุพพริวรรค] 11. สุตตเปตวัตถุ
11. สุตตเปตวัตถุ
เรื่องหญิงผู้ถวายด้ายได้ไปอยู่กับเปรต
(หญิงคนหนึ่งไปอยู่กับเวมานิกเปรตเป็นเวลา 700 ปี เกิดความเบื่อหน่าย
จึงกล่าวกับเวมานิกเปรตนั้นว่า)
[341] เมื่อก่อน ฉันได้ถวายด้ายแก่ภิกษุซึ่งเข้าไปขอถึงเรือนของฉัน
ฉันได้เสวยวิบากซึ่งเป็นผลแห่งการถวายด้ายนั้น
อนึ่ง ผ้ามากมายหลายโกฏิบังเกิดมีแก่ฉัน
[342] วิมานของฉันดารดาษไปด้วยดอกไม้ น่ารื่นรมย์ แสนจะงดงาม
ทั้งเทพบุตรเทพธิดาพากันมาชมไม่ขาดสาย
ฉันเลือกใช้สอยนุ่งและห่มตามปรารถนาถึงเพียงนี้
สรรพวัตถุซึ่งเป็นอุปกรณ์เครื่องปลื้มใจมากมายก็ยังไม่สิ้นไป
[343] ฉันได้รับความสุขและความสำราญในวิมานนี้
เพราะอาศัยวิบากแห่งกรรมนั้นเอง
กลับไปยังมนุษยโลกแล้วจักทำบุญให้มากขึ้น
ลูกเจ้า ขอเจ้าจงนำฉันกลับไปยังมนุษยโลกเถิด
(เวมานิกเปรตกล่าวว่า)
[344] ท่านมาอยู่ในวิมานนี้กว่า 700 ปี เป็นคนแก่เฒ่าแล้ว
จะไปอยู่ในมนุษยโลกทำไม อนึ่ง ญาติของท่านตายไปหมดแล้ว
ท่านจากเปตโลกนี้ไปยังมนุษยโลกนั้นแล้วจักทำอะไรได้
(หญิงนั้นกล่าวว่า)
[345] เมื่อฉันอยู่ที่วิมานนี้ 7 ปี1 ได้เสวยทิพสมบัติและความสุข
อิ่มหนำแล้วกลับไปยังมนุษยโลกตามเดิม จักทำบุญให้มาก
ลูกเจ้า ขอท่านจงนำฉันไปส่งยังมนุษยโลกเถิด

เชิงอรรถ :
1 คำว่า 7 ปี ในที่นี้หมายถึง 700 ปี นั้นเอง เพราะผู้ที่เสวยความสุขอันเป็นทิพย์ ย่อมไม่กำหนด
วันเวลาที่ผ่านไป (ขุ.เป.อ. 345/158)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :221 }