เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [2. ปุริสวิมาน] รวมเรื่องวิมานที่มีในวรรค
[1045] โดยอุบายนี้ ข้าพเจ้าได้ถวายทานที่มีลิ่มสลักออกแล้วนี้1
อันมีความบริสุทธิ์ 3 ประการ ละร่างมนุษย์แล้ว
รื่นรมย์อยู่ในเทวบุรี เสมอเหมือนกับพระอินทร์
[1046] ท่านพระมุนี บุคคลผู้มุ่งหวังอายุ วรรณะ สุขะ พละ
และรูปที่ประณีต มีใจไม่ติดข้องในอะไร ๆ
พึงถวายข้าวและน้ำซึ่งปรุงดีแล้วให้มากแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
[1047] ไม่ว่าในโลกนี้หรือโลกหน้า
ผู้ที่ประเสริฐกว่า หรือเสมอด้วยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่มี
บรรดาผู้ควรบูชาทั้งหลาย
พระพุทธเจ้าถึงความเป็นผู้ควรบูชาอย่างยิ่ง
ของเหล่าชนผู้ต้องการบุญหวังผลอันไพบูลย์
มหารถวิมานที่ 14 จบ
มหารถวรรคที่ 5 จบ

รวมเรื่องวิมานที่มีในวรรคนี้ คือ

1. มัณฑูกเทวปุตตวิมาน 2. เรวตีวิมาน
3. ฉัตตมาณวกวิมาน 4. กักกฏกรสทายกวิมาน
5. ทวารปาลวิมาน 6. ปฐมกรณียวิมาน
7. ทุติยกรณียวิมาน 8. ปฐมสูจิวิมาน
9. ทุติยสูจิวิมาน 10. ปฐมนาควิมาน
11. ทุติยนาควิมาน 12. ตติยนาควิมาน
13. จูฬรถวิมาน 14. มหารถวิมาน

ภาณวารที่ 3 จบ

เชิงอรรถ :
1 บริจาคสมบัติของตนทั้งหมด (ขุ.วิ.อ. 1043/330)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :130 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [2. ปุริสวิมาน] 6. ปายาสิกวรรค 1. ปฐมอคาริยวิมาน
6. ปายาสิกวรรค
หมวดว่าด้วยเทพบุตรผู้เคยเป็นคนรับใช้เจ้าปายาสิ
1. ปฐมอคาริยวิมาน
ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่สองสามีภรรยา
ผู้เป็นดังอู่ข้าวอู่น้ำของพระสงฆ์ เรื่องที่ 1
(พระมหาโมคคัลลานเถระถามเทพบุตรตนหนึ่งว่า)
[1048] สวนจิตรลดาเป็นสวนประเสริฐชั้นดีเยี่ยม
ของทวยเทพชั้นไตรทศ ส่องแสงสว่างไสวฉันใด
วิมานของท่านนี้ก็มีอุปมาฉันนั้น
ส่องแสงสว่างไสวอยู่ในอากาศ
[1049] ท่านได้บรรลุเทวฤทธิ์ มีอานุภาพมาก
เมื่อท่านเกิดเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้
เพราะบุญอะไรท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรือง
และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้
[1050] เทพบุตรนั้นดีใจที่พระมหาโมคคัลลานเถระถาม
จึงตอบปัญหาผลกรรมไปตามที่พระเถระถามว่า
[1051] ข้าพเจ้าและภรรยาเมื่อยังครองเรือนอยู่ในมนุษยโลก
ได้เป็นดังอู่ข้าวอู่น้ำ มีจิตเลื่อมใส
ได้ถวายข้าวและน้ำเป็นทานอย่างไพบูลย์โดยเคารพ
[1052-1053] เพราะบุญนั้นข้าพเจ้าจึงมีผิวพรรณงามเช่นนี้ ฯลฯ
และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้
ปฐมอคาริยวิมานที่ 1 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :131 }