เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต [5. ปารายนวรรค] 1. อชิตมาณวกปัญหา
1. อชิตมาณวกปัญหา1
ว่าด้วยปัญหาของอชิตมาณพ
[1039] (อชิตมาณพทูลถามดังนี้)
โลกถูกอะไรเล่าหุ้มห่อไว้
เพราะอะไรเล่า โลกจึงไม่สดใส
ขอพระองค์โปรดตรัสบอกว่า
อะไร เป็นเครื่องฉาบทาโลกนี้ไว้
อะไรเล่า เป็นภัยใหญ่ของโลกนั้น
[1040] (พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า อชิตะ)
โลกถูกอวิชชาหุ้มห่อไว้
โลกไม่สดใสเพราะความตระหนี่2 และความประมาท
เราเรียกความอยากว่า เป็นเครื่องฉาบทาโลกไว้
ทุกข์เป็นภัยใหญ่ของโลกนั้น
[1041] (อชิตมาณพทูลถามดังนี้)
กระแส3ทั้งหลายย่อมไหลไปในที่ทั้งปวง4
อะไรเป็นเครื่องกั้นกระแสทั้งหลาย
ขอพระองค์โปรดตรัสบอกธรรมเป็นเครื่องป้องกันกระแสทั้งหลาย
อะไรปิดกั้นกระแสทั้งหลายได้

เชิงอรรถ :
1 ดูเทียบ ขุ.จู. (แปล) 30/57-64/11-12
2 ความตระหนี่ มี 5 อย่าง (1) อาวาสมัจฉริยะ (ความตระหนี่ที่อยู่) (2) กุลมัจฉริยะ (ความตระหนี่ตระกูล)
(3) ลาภมัจฉริยะ (ความตระหนี่ลาภ) (4) วัณณมัจฉริยะ (ความตระหนี่วรรณะ) (5) ธัมมมัจฉริยะ (ความ
ตระหนี่ธรรม) (ขุ.จู. (แปล) 30/2/49)
3 กระแส ในที่นี้หมายถึงตัณหา ทิฏฐิ กิเลส ทุจริต และอวิชชา (ขุ.จู. (แปล) 30/3/53)
4 ที่ทั้งปวง ในที่นี้หมายถึงอายตนะทั้งปวง (ขุ.จู. (แปล) 30/3/53)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 25 หน้า :745 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต [5. ปารายนวรรค] 1. อชิตมาณวกปัญหา
[1042] (พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า อชิตะ)
กระแสเหล่าใดในโลก
สติเป็นเครื่องกั้นกระแสเหล่านั้นได้
เรากล่าวธรรมเครื่องป้องกันกระแสทั้งหลาย
ปัญญาปิดกั้นกระแสเหล่านั้นได้
[1043] (อชิตมาณพทูลถามดังนี้)
ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ปัญญา สติ
นาม1และรูป2นี้ ดับที่ไหน

เชิงอรรถ :
1 นาม หมายถึงขันธ์ที่มิใช่รูป 4 อย่าง (เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ) (ขุ.จู. (แปล) 30/5/58)
2 รูป หมายถึงมหาภูตรูป 4 และรูปที่อาศัยมหาภูตรูปทั้ง 4
มหาภูตรูป คือ รูปใหญ่ รูปต้นเดิม คือ ธาตุ 4 ได้แก่ (1) ปฐวีธาตุ สภาวะที่แผ่ไปหรือกินเนื้อที่
สภาพอันเป็นหลักที่ตั้งที่อาศัยแห่งสหชาตรูป เรียกสามัญว่า ธาตุแข้นแข็ง หรือธาตุดิน (2) อาโปธาตุ
สภาวะที่เอิบอาบหรือดูดซึม ซ่านไป ขยายขนาด ผนึก พูนเข้าด้วยกัน เรียกสามัญว่า ธาตุเหลว หรือธาตุน้ำ
(3) เตโชธาตุ สภาวะที่ทำให้ร้อน เรียกสามัญว่า ธาตุไฟ (4) วาโยธาตุ สภาวะที่ทำให้สั่นไหว เคลื่อนที่ ค้ำจุน
เรียกสามัญว่า ธาตุลม (ที.สี.(แปล) 9/487-499/216-220, ขุ.จู. (แปล) 30/5/58)
รูปที่อาศัยมหาภูตรูป 4 หรือที่เรียกว่า อุปาทายรูป มี 24 คือ
ปสาทรูป 5 (รูปที่เป็นประธานสำหรับรับอารมณ์) (1) ตา (2) หู (3) จมูก (4) ลิ้น (5) กาย
โคจรรูป หรือวิสัยรูป 5 (รูปที่เป็นอารมณ์หรือแดนรับรู้ของอินทรีย์) (6) รูป (7) เสียง (8) กลิ่น
(9) รส (10) โผฏฐัพพะ (ข้อนี้ไม่นับเพราะเป็นอันเดียวกันกับมหาภูตรูป 3 คือ ปฐวี เตโช วาโย)
ภาวรูป 2 (รูปที่เป็นภาวะแห่งเพศ) (10) อิตถัตตะ อิตถินทรีย์ ความเป็นหญิง (11) ปุริสัตตะ ปุริสินทรีย์
ความเป็นชาย
หทัยรูป 1 (รูปคือหทัย) (12) หทัยวัตถุ ที่ตั้งแห่งใจ หัวใจ
ชีวิตรูป 1 (รูปที่เป็นชีวิต) (13) ชีวิตินทรีย์ อินทรีย์คือชีวิต
อาหารรูป 1 (รูปคืออาหาร) (14) กวฬิงการาหาร อาหารคือคำข้าว
ปริจเฉทรูป 1 (รูปที่กำหนดเทศะ) (15) อากาสธาตุ สภาวะคือช่องว่าง
วิญญัติรูป 2 (รูปคือการเคลื่อนไหวให้รู้ความหมาย) (16) กายวิญญัติ การเคลื่อนไหวให้รู้ความ
หมายด้วยกาย (17) วจีวิญญัติ การเคลื่อนไหวให้รู้ความหมายด้วยวาจา
วิการรูป 4 (รูปคือการที่ดัดแปลงทำให้แปลกให้พิเศษได้) (18) (รูปัสส) ลหุตา ความเบา (19) (รูปัสส)
มุทุตา ความอ่อนสลวย (20) (รูปัสส) กัมมัญญตา ความควรแก่การงาน ใช้การได้
ลักขณรูป 4 (รูปคือลักษณะหรืออาการเป็นเครื่องกำหนด) (21) อุปจยะ ความก่อตัว (22) สันตติ
ความสืบต่อ (23) ชรตา ความทรุดโทรม (24) อนิจจตา ความแปรแตกสลาย (ขุ.จู. (แปล) 30/5/58,
อภิ.สงฺ. (แปล) 34/584-984/169-255)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 25 หน้า :746 }