พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ [2. ทุกนิบาต] 1. ปฐมวรรค 4. อตปนียสูตร
4. อตปนียสูตร
ว่าด้วยธรรมไม่เป็นเหตุให้เดือดร้อน
[31] แท้จริง พระสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคตรัสไว้แล้ว พระสูตรนี้ พระอรหันต์
กล่าวไว้แล้ว ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
ภิกษุทั้งหลาย ธรรมไม่เป็นเหตุให้เดือดร้อน 2 ประการนี้
ธรรม 2 ประการ อะไรบ้าง คือ
บุคคลบางคนในโลกนี้ ทำความดีไว้ ทำกุศลไว้ ทำบุญเครื่องต่อต้านความ
หวาดกลัวทุกข์ไว้ ไม่ได้ทำความชั่ว ไม่ได้ทำความหยาบช้า ไม่ได้ทำความร้ายกาจไว้
1. เขาคิดว่า เราทำความดีไว้ จึงไม่เดือดร้อน
2. เขาคิดว่า เราไม่ได้ทำความชั่วไว้ จึงไม่เดือดร้อน
ภิกษุทั้งหลาย ธรรมไม่เป็นเหตุให้เดือดร้อน 2 ประการนี้แล
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความดังกล่าวมานี้แล้ว ในพระสูตรนั้น จึงตรัส
คาถาประพันธ์ดังต่อไปนี้
บุคคลผู้มีปัญญา ละกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต
และอกุศลกรรมอื่น ๆ ซึ่งประกอบด้วยโทษได้แล้ว
ไม่ทำอกุศลกรรมไว้ ทำแต่กุศลกรรมไว้มากมาย
หลังจากตายแล้วจะไปบังเกิดในสวรรค์
แม้เนื้อความนี้ พระผู้มีพระภาคก็ตรัสไว้แล้ว ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้แล
อตปนียสูตรที่ 4 จบ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ [2. ทุกนิบาต] 1. ปฐมวรรค 5. ปฐมสีลสูตร
5. ปฐมสีลสูตร
ว่าด้วยศีลและทิฏฐิ สูตรที่ 1
[32] แท้จริง พระสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคตรัสไว้แล้ว พระสูตรนี้ พระอรหันต์
กล่าวไว้แล้ว ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
ภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 2 ประการ ย่อมดำรงอยู่ในนรก
เหมือนถูกนำไปฝังไว้
ธรรม 2 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. ศีลวิบัติ (ความวิบัติแห่งศีล)
2. มิจฉาทิฏฐิ (ความเห็นผิด)
ภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 2 ประการนี้แล ย่อมดำรงอยู่ในนรก
เหมือนถูกนำไปฝังไว้
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความดังกล่าวมานี้แล้ว ในพระสูตรนั้น จึงตรัส
คาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
นรชนผู้มีปัญญาทราม ประกอบด้วยธรรม 2 ประการนี้
คือ ศีลวิบัติ และมิจฉาทิฏฐิ
หลังจากตายแล้ว จะไปเกิดในนรก
แม้เนื้อความนี้ พระผู้มีพระภาคก็ตรัสไว้แล้ว ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้แล
ปฐมสีลสูตรที่ 5 จบ