พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน [8. ปาฏลิคามิยวรรค] 6. ปาฏลิคามิยสูตร
ประตูโคดมและท่าโคดม
พระผู้มีพระภาค ครั้นทรงอนุโมทนามหาอำมาตย์สุนีธะและมหาอำมาตย์วัสสการะ
แคว้นมคธด้วยพระคาถาเหล่านี้แล้ว ทรงลุกขึ้นจากอาสนะเสด็จจากไป สมัยนั้น
มหาอำมาตย์สุนีธะและมหาอำมาตย์วัสสการะแคว้นมคธ ตามส่งเสด็จพระผู้มี
พระภาคไปเบื้องพระปฤษฎางค์ด้วยคิดว่า วันนี้ ประตูที่ท่านพระสมณโคดมเสด็จ
ออกไป จะได้ชื่อว่า ประตูโคดม ท่าที่พระองค์เสด็จข้ามแม่น้ำคงคา จะได้ชื่อว่า
ท่าพระโคดม
ต่อมา ประตูที่พระผู้มีพระภาคเสด็จผ่านไปนั้นได้ปรากฏนามว่า ประตูพระโคดม
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จไปทางแม่น้ำคงคา เวลานั้น แม่น้ำคงคามีน้ำเต็ม
เสมอตลิ่ง นกกาพอดื่มกินได้ คนทั้งหลายผู้ปรารถนาจะข้ามฟาก บางพวกเที่ยว
หาเรือ บางพวกเที่ยวหาแพ บางพวกผูกทุ่น พระผู้มีพระภาคพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์
ทรงหายไปจากฝั่งนี้แห่งแม่น้ำคงคา ไปปรากฏพระวรกายที่ฝั่งโน้น เหมือนบุรุษมี
กำลังเหยียดแขนออกหรือคู้แขนเข้า ฉะนั้น
พระผู้มีพระภาคทอดพระเนตรเห็นคนเหล่านั้นผู้ปรารถนาจะข้ามฟาก บางพวก
เที่ยวหาเรือ บางพวกเที่ยวหาแพ บางพวกผูกทุ่น
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนั้นแล้ว จึงทรงเปล่งอุทานนี้
ในเวลานั้นว่า
พุทธอุทาน
คนพวกหนึ่งกำลังสร้างสะพาน
ข้ามสระใหญ่ โดยมิให้แปดเปื้อนด้วยโคลนตม
ขณะที่คนอีกพวกหนึ่งกำลังผูกทุ่นอยู่
ชนผู้ฉลาดได้ข้ามพ้นไปแล้ว1
ปาฏลิคามิยสูตรที่ 6 จบ
เชิงอรรถ :
1 ดูเทียบ วิ.ม. (แปล) 5/286/100-101, ที.ม. (แปล) 10/153-154/96-98
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน [8. ปาฏลิคามิยวรรค] 7. ทวิธาปถสูตร
7. ทวิธาปถสูตร
ว่าด้วยทางสองแพร่ง
[77] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จพุทธดำเนินทางไกลไปในแคว้นโกศล มีท่าน
พระนาคสมาละเป็นปัจฉาสมณะ1 ท่านพระนาคสมาละได้เห็นทางสองแพร่ง
ในระหว่างทาง จึงกราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้เจริญ
นี้คือทางที่จะไป ไปทางนี้เถิด พระพุทธเจ้าข้า เมื่อท่านพระนาคสมาละกราบทูล
อย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับท่านพระนาคสมาละดังนี้ว่า นาคสมาละ
นี้คือทางที่จะไป เราจะไปทางนี้
แม้ครั้งที่ 2 ท่านพระนาคสมาละได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ข้าแต่
พระผู้มีพระภาคผู้เจริญ นี้คือทางที่จะไป ไปทางนี้เถิด พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับท่านพระนาคสมาละดังนี้ว่า นาคสมาละ นี้คือทาง
ที่จะไป เราจะไปทางนี้
แม้ครั้งที่ 3 ท่านพระนาคสมาละได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ข้าแต่
พระผู้มีพระภาคผู้เจริญ นี้คือทางที่จะไป ไปทางนี้เถิด พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคก็ได้ตรัสกับท่านพระนาคสมาละดังนี้ว่า นาคสมาละ นี้คือ
ทางที่จะไป เราจะไปทางนี้
ครั้งนั้น ท่านพระนาคสมาละวางบาตรและจีวรของพระผู้มีพระภาคไว้ที่พื้นดิน
ณ ทางนั้นเองแล้วกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นี้บาตรและจีวรของพระผู้มี
พระภาค แล้วจากไป เมื่อท่านพระนาคสมาละเดินไปตามทางนั้น พวกโจรที่แอบ
ซุ่มอยู่ระหว่างทาง ได้ออกมารุมทำร้ายทั้งเตะทั้งต่อย ทุบบาตรแตก และฉีกผ้า
สังฆาฏิขาด หลังจากนั้น ท่านพระนาคสมาละมีบาตรแตก มีผ้าสังฆาฏิขาด เข้าไป
เฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่สมควร ได้กราบทูลพระ
เชิงอรรถ :
1 ปัจฉาสมณะ หมายถึงพระผู้ติดตามรับใช้ (ขุ.อุ.อ. 77/452)