เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน [6. ชัจจันธวรรค] 8. คณิกาสูตร
พุทธอุทาน
สิ่งที่บุคคลได้รับอยู่และสิ่งที่บุคคลยังหวังที่จะได้รับต่อไป1
สิ่งทั้งสองนั้นเจือด้วยธุลีคือราคะเป็นต้นแก่ผู้ทุรนทุรายใฝ่ใจอยากได้รับอยู่
สมณพราหมณ์ผู้มีสิกขาอันเป็นสาระ
คือศีล วัตร ชีวิต พรหมจรรย์ และการบำบวงอันเป็นสาระ2
นี้เป็นส่วนสุดที่ 1
สมณพราหมณ์ผู้มีวาทะอย่างนี้ว่า
‘โทษในกามไม่มี’ นี้เป็นส่วนสุดที่ 2
ส่วนสุดทั้งสองนี้ มีแต่จะเพิ่มตัณหาและอวิชชาให้มากขึ้น
ตัณหาและอวิชชาย่อมก่อให้เกิดความเห็นผิดมากขึ้น
สมณพราหมณ์ทั้งหลายไม่รู้ส่วนสุดทั้งสองนั้น
บางพวกก็จมติดอยู่ บางพวกก็แล่นไป3
ส่วนพระอริยะทั้งหลายได้รู้แจ้งส่วนสุดทั้งสองนั้น
จึงไม่ตกไปในส่วนสุดทั้งสองนั้น
และเพราะละส่วนสุดทั้งสองนั้นได้
จึงไม่สำคัญตนด้วยตัณหา ทิฏฐิ และมานะ
ย่อมไม่มีวัฏฏะปรากฏ4
คณิกาสูตรที่ 8 จบ

เชิงอรรถ :
1 สิ่งที่บุคคลได้รับอยู่ มีความหมาย 2 นัย คือ (1) หมายถึงกามคุณ 5 ประการ ที่บุคคลเสวยด้วยความ
ยึดมั่นว่า โทษในกามคุณ 5 ไม่มี (กามสุขัลลิกานุโยค) (2) หมายถึงการทำตนให้เดือดร้อนด้วยการ
ประพฤติวัตรอย่างนักบวชเปลือย(อัตตกิลมถานุโยค) สิ่งที่บุคคลยังหวังที่จะได้รับต่อไป มีความหมาย
2 นัย เช่นเดียวกัน คือ (1) หมายถึงกามคุณ 5 ที่บุคคลมุ่งหวังที่จะได้รับด้วยความเชื่อว่าเมื่อได้รับแล้ว
ถือเป็นบุญอันยิ่งใหญ่(กามสุขัลลิกานุโยค) (2) หมายถึงผลที่จะพึงได้รับในอบาย เพราะการทำกรรมตาม
ความเห็นผิดเป็นเหตุ(อัตตกิลมถานุโยค) (ขุ.อุ.อ. 58/375-377)
2 ในที่นี้ ศีล หมายถึงข้อที่บุคคลงดเว้น ไม่ทำ วัตร หมายถึงการประพฤติอย่างลำบาก ชีวิต หมายถึงการ
ดำเนินชีวิตอย่างฝืดเคือง เช่น การเป็นอยู่ด้วยการบริโภคผักเป็นอาหาร พรหมจรรย์ หมายถึงเมถุนวิรัติ
การบำบวง หมายถึงการบนบานเซ่นสรวงบูชา (ขุ.อุ.อ. 58/376)
3 ข้อความตอนนี้มีความหมาย 3 นัย คือ นัยที่ 1 หมายถึงบางพวกจมติดอยู่ในกามสุข(กามสุขัลลิกานุโยค)
บางพวกแล่นไป คือ มุ่งประกอบตนให้ลำบาก(อัตตกิลมถานุโยค) นัยที่ 2 หมายถึงบางพวกติดอยู่ด้วย
อำนาจตัณหา บางพวกแล่นไปในอำนาจทิฏฐิ นัยที่ 3 หมายถึงบางพวกติดอยู่ในสัสสตทิฏฐิ บางพวกแล่นไป
ในอำนาจอุจเฉททิฏฐิ (ขุ.อุ.อ. 58/378)
4 วัฏฏะ ในที่นี้หมายถึงกิเลส กรรม วิบาก (ขุ.อุ.อ. 58/379)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 25 หน้า :305 }