พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน [3. นันทวรรค] 9. สิปปสูตร
พุทธอุทาน
เทวดาทั้งหลายย่อมเคารพรักภิกษุ
ผู้ถือบิณฑบาตเป็นวัตร ผู้เลี้ยงตน ไม่เลี้ยงคนอื่น
ผู้คงที่ หากภิกษุไม่อาศัยเสียงสรรเสริญ1
ปิณฑปาติกสูตรที่ 8 จบ
9. สิปปสูตร
ว่าด้วยการสนทนาเรื่องศิลปะ
[29] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิก-
เศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี สมัยนั้น ภิกษุจำนวนมากกลับจากบิณฑบาตหลังจากฉัน
อาหารเสร็จแล้ว มานั่งประชุมพร้อมกันในมณฑป ได้สนทนาอันตรากถาขึ้นว่า
ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ใครรู้จักศิลปะบ้าง ใครศึกษาศิลปะอะไรมาบ้าง ศิลปะชนิด
ไหนเลิศกว่าศิลปะทั้งหลาย
บรรดาภิกษุเหล่านั้น บางพวกกล่าวว่า ศิลปะว่าด้วยช้างเลิศกว่าศิลปะ
ทั้งหลาย บางพวกกล่าวว่า ศิลปะว่าด้วยม้าเลิศกว่าศิลปะทั้งหลาย บางพวก
กล่าวว่า ศิลปะว่าด้วยรถเลิศกว่าศิลปะทั้งหลาย บางพวกกล่าวว่า ศิลปะ
ว่าด้วยธนูเลิศกว่าศิลปะทั้งหลาย บางพวกกล่าวว่า ศิลปะว่าด้วยอาวุธ2เลิศกว่า
ศิลปะทั้งหลาย บางพวกกล่าวว่า ศิลปะว่าด้วยการคำนวณด้วยวิธีนับนิ้วเลิศกว่า
เชิงอรรถ :
1 ไม่อาศัยเสียงสรรเสริญ หมายถึงไม่ต้องการเสียงสรรเสริญ หรือการยกย่องจากคนอื่นว่า พระคุณเจ้ารูปนี้
มีความมักน้อย สันโดษ มีความประพฤติขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง (ขุ.อุ.อ. 28/215)
2 แปลจากคำว่า ถรุสิปฺปํ หมายถึงอาวุธอื่น ๆ จากธนู (ขุ.อุ.อ. 29/216)