เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน [2. มุจจลินทวรรค] 8. สุปปวาสาสูตร
แล้วจงทูลถามถึงสุขภาพ ความมีโรคาพาธน้อย กระปรี้ประเปร่า มีพระพลานามัย
สมบูรณ์ อยู่สำราญตามคำของหม่อมฉันว่า ‘ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระนางสุปป-
วาสา โกลิยธิดา ขอถวายอภิวาทพระยุคลบาทพระผู้มีพระภาคด้วยเศียรเกล้า
พร้อมกับทูลถามถึงสุขภาพ ความมีโรคาพาธน้อย กระปรี้ประเปร่า มีพระพลานามัย
สมบูรณ์ อยู่สำราญ’ อนึ่ง ขอพระองค์จงกราบทูลอย่างนี้ว่า ‘ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระนางสุปปวาสา โกลิยธิดา ทรงครรภ์อยู่ถึง 7 ปี มีครรภ์หลงอยู่ถึง 7 วัน
พระนางได้รับทุกขเวทนากล้าแข็ง เจ็บปวด เผ็ดร้อน แต่ทรงอดกลั้นไว้ได้ด้วย
ความตรึก 3 ประการ คือ (1) พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง
โดยชอบ ทรงแสดงธรรมเพื่อละทุกข์เห็นปานนี้ (2) พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค
พระองค์นั้นเป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติเพื่อละทุกข์เห็นปานนี้ (3) พระนิพพานซึ่งไม่มีทุกข์
เห็นปานนี้ เป็นสุขดีอย่างแท้จริง”
พระราชบุตรพระเจ้าโกลิยะนั้นทรงรับคำของพระนาง จึงเสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มี
พระภาคถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วประทับนั่ง ณ ที่สมควร ได้กราบทูลพระผู้มี
พระภาคดังนี้ว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระนางสุปปวาสา โกลิยธิดา ขอถวาย
อภิวาทพระยุคลบาทพระผู้มีพระภาคด้วยเศียรเกล้า พร้อมกับทูลถามถึงสุขภาพ
ความมีโรคาพาธน้อย กระปรี้ประเปร่า มีพระพลานามัยสมบูรณ์ อยู่สำราญ
อนึ่ง พระนางยังรับสั่งอย่างนี้ว่า ‘ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระนางสุปปวาสา โกลิยธิดา
ทรงครรภ์อยู่ถึง 7 ปี มีพระครรภ์หลงอยู่ถึง 7 วัน พระนางได้รับทุกขเวทนากล้าแข็ง
เจ็บปวด เผ็ดร้อน แต่ทรงอดกลั้นไว้ได้ด้วยความตรึก 3 ประการ คือ (1) พระผู้มี
พระภาคพระองค์นั้น ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองโดยชอบ ทรงแสดงธรรมเพื่อละทุกข์เห็น
ปานนี้ (2) พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นเป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติเพื่อละ
ทุกข์เห็นปานนี้ (3) พระนิพพานซึ่งไม่มีทุกข์เห็นปานนี้ เป็นสุขดีอย่างแท้จริง”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 25 หน้า :200 }