เมนู

พระสุตตัตนตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต [3. ตติยปัณณาสก์]
7. กัมมปถเปยยาล (10. มิจฉาทิฏฐิ - สัมมาทิฏฐิสูตร)

(8. อภิชฌา - อนภิชฌาสูตร)

1. ตนเองเป็นผู้เพ่งเล็งอยากได้ของเขา
2. ชักชวนผู้อื่นให้เพ่งเล็งอยากได้ของเขา
3. เป็นผู้พอใจความเพ่งเล็งอยากได้ของเขา
ฯลฯ
1. ตนเองเป็นผู้ไม่เพ่งเล็งอยากได้ของเขา
2. ชักชวนผู้อื่นให้ไม่เพ่งเล็งอยากได้ของเขา
3. เป็นผู้พอใจความไม่เพ่งเล็งอยากได้ของเขา
ฯลฯ

(9. พยาปาท - อัพยาปาทสูตร)

1. ตนเองเป็นผู้มีจิตพยาบาท 2. ชักชวนผู้อื่นให้มีจิตพยาบาท
3. เป็นผู้พอใจความมีจิตพยาบาท
ฯลฯ
1. ตนเองเป็นผู้มีจิตไม่พยาบาท 2. ชักชวนผู้อื่นให้มีจิตไม่พยาบาท
3. เป็นผู้พอใจความมีจิตไม่พยาบาท
ฯลฯ

(10. มิจฉาทิฏฐิ - สัมมาทิฏฐิสูตร)

1. ตนเองเป็นมิจฉาทิฏฐิ 2. ชักชวนผู้อื่นให้เป็นมิจฉาทิฏฐิ
3. เป็นผู้พอใจความเป็นมิจฉาทิฏฐิ
ฯลฯ
1. ตนเองเป็นสัมมาทิฏฐิ 2. ชักชวนผู้อื่นให้เป็นสัมมาทิฏฐิ
3. เป็นผู้พอใจความเป็นสัมมาทิฏฐิ
ภิกษุทั้งหลาย บุคคลประกอบด้วยธรรม 3 ประการนี้แล ย่อมดำรงอยู่ใน
สวรรค์เหมือนได้รับอัญเชิญไปประดิษฐานไว้

กัมมปถเปยยาลที่ 7 จบ


พระสุตตัตนตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต [3. ตติยปัณณาสก์] 8. ราคเปยยาล

รวมพระสูตรที่มีในเปยยาลนี้ คือ

1. ปาณ-อปาณสูตร 2. อทินนาทาน-อนทินนาทานสูตร
3. มิจฉา-สัมมาสูตร 4. มุสาวาที-อมุสาวาทีสูตร
5. ปิสุณา-อปิสุณาสูตร 6. ผรุส-อผรุสสูตร
7. สัมผัปปลาป-อสัมผัปปลาปสูตร 8. อภิชฌา-อนภิชฌาสูตร
9. พยาปาท-อพยาปาทสูตร 10. มิจฉาทิฏฐิ-สัมมาทิฏฐิสูตร

8. ราคเปยยาล

[184] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย บุคคลควรเจริญธรรม 3 ประการ
เพื่อรู้ยิ่งราคะ(ความกำหนัด)
ธรรม 3 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. สุญญตสมาธิ (สมาธิพิจารณาเห็นความว่าง)
2. อนิมิตตสมาธิ (สมาธิพิจารณาธรรมไม่มีนิมิต)
3. อัปปณิหิตสมาธิ (สมาธิพิจารณาธรรมไม่มีความตั้งปรารถนา)
บุคคลควรเจริญธรรม 3 ประการนี้แล เพื่อรู้ยิ่งราคะ
[บุคคลควรเจริญธรรม 3 ประการเพื่อรู้ยิ่งราคะ
ธรรม 3 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. สวิตักกสวิจารสมาธิ(สมาธิที่มีวิตกวิจาร)
2. อวิตักกวิจารมัตตสมาธิ(สมาธิที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร)
3. อวิตักกอวิจารสมาธิ(สมาธิที่ไม่มีวิตกวิจาร)
บุคคลควรเจริญธรรม 3 ประการนี้แลเพื่อรู้ยิ่งราคะ] 1