พระสุตตัตนตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต [3. ตติยปัณณาสก์]
3. กุสินารวรรค 4. ภรัณฑุกาลามสูตร
4. ภรัณฑุกาลามสูตร
ว่าด้วยภรัณฑุดาบสกาลามโคตร
[127] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปในแคว้นโกศล เสด็จถึงกรุง
กบิลพัสดุ์ เจ้ามหานามศากยะได้ทราบข่าวว่า พระผู้มีพระภาคเสด็จถึงกรุงกบิลพัสดุ์
โดยลำดับแล้ว ครั้งนั้น เจ้ามหานามศากยะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายอภิวาทแล้วได้ยืน ณ ที่สมควร พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับเจ้ามหานามศากยะ
ดังนี้ว่า
มหานามะ ไปเถิด เธอจงพิจารณาดูสถานที่พักในกรุงกบิลพัสดุ์ที่เราจะอยู่
ได้สักคืนหนึ่งในวันนี้ เจ้ามหานามศากยะทูลรับสนองพระดำรัสแล้วเข้าไปกรุงกบิลพัสดุ์
เที่ยวไปจนทั่วกรุงกบิลพัสดุ์ ไม่เห็นสถานที่พักที่พระผู้มีพระภาคพอจะ ประทับได้
สักคืนหนึ่ง
ลำดับนั้น เจ้ามหานามศากยะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับแล้วได้
กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในกรุงกบิลพัสดุ์ ไม่มี
สถานที่พักที่พระผู้มีพระภาคพอจะประทับได้สักคืนหนึ่งในวันนี้ ภรัณฑุดาบส
กาลามโคตรนี้เป็นเพื่อนพรหมจารีเก่าของพระผู้มีพระภาค ในวันนี้ขอพระผู้มีพระภาค
ประทับอยู่ในอาศรมของภรัณฑุดาบสนั้นสักคืนหนึ่ง
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า จงไปปูเครื่องปูลาดเถิด มหานามะ
เจ้ามหานามศากยะทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว เข้าไปยังอาศรมของภรัณฑุ-
ดาบสกาลามโคตร ปูเครื่องลาด จัดน้ำสำหรับล้างเท้าไว้ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค
ถึงที่ประทับแล้วได้กราบทูลดังนี้ว่า ข้าพระองค์ได้ปูเครื่องลาดแล้ว ได้จัดตั้งน้ำ
สำหรับล้างพระบาทแล้ว บัดนี้ขอพระผู้มีพระภาคจงทรงทราบกาลอันควรเถิด
พระพุทธเจ้าข้า
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปยังอาศรมของภรัณฑุดาบสกาลามโคตร
ประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้แล้วทรงล้างพระบาททั้งสอง ลำดับนั้น เจ้ามหานาม-
ศากยะคิดว่า วันนี้ไม่ใช่เวลาเหมาะที่จะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค
ทรงเหน็ดเหนื่อย ในวันพรุ่งนี้เราจักเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค จึงถวายอภิวาท ทำ
ประทักษิณแล้วหลีกไป
พระสุตตัตนตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต [3. ตติยปัณณาสก์]
3. กุสินารวรรค 4. ภรัณฑุกาลามสูตร
ครั้นพอล่วงราตรีนั้นไป เจ้ามหานามศากยะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่สมควร พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับเจ้ามหานามศากยะ
นั้นดังนี้ว่า มหานามะ ศาสดา 3 จำพวกนี้แลมีปรากฏอยู่ในโลก
ศาสดา 3 จำพวกไหนบ้าง คือ
1. ศาสดาบางท่านในโลกนี้บัญญัติการกำหนดรู้กาม ไม่บัญญัติการกำหนด
รู้รูป ไม่บัญญัติการกำหนดรู้เวทนา
2. ศาสดาบางท่านในโลกนี้บัญญัติการกำหนดรู้กามและบัญญัติการ
กำหนดรู้รูป ไม่บัญญัติการกำหนดรู้เวทนา
3. ศาสดาบางท่านในโลกนี้บัญญัติการกำหนดรู้กาม บัญญัติการกำหนด
รู้รูป และบัญญัติการกำหนดรู้เวทนา
มหานามะ ศาสดา 3 จำพวกนี้แลมีปรากฏอยู่ในโลก
จุดมุ่งหมายของศาสดา 3 จำพวกนี้เป็นอย่างเดียวกันหรือต่างกัน เมื่อพระ
ผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว ภรัณฑุดาบสกาลามโคตรได้กล่าวกับเจ้ามหานามศากยะว่า
มหานามะ ท่านจงกราบทูลว่า จุดมุ่งหมายของศาสดา 3 จำพวกเป็นอย่างเดียว
กัน เมื่อภรัณฑุดาบสกล่าวอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับเจ้ามหานามศากยะ
ว่า มหานามะ เธอจงกล่าวว่า (จุดมุ่งหมายของศาสดา 3 จำพวก)ต่างกัน
แม้ในครั้งที่ 2 ภรัณฑุดาบสกาลามโคตรได้กล่าวกับเจ้ามหานามศากยะว่า
มหานามะ ท่านจงกราบทูลว่า เป็นอย่างเดียวกัน แม้ในครั้งที่ 2 พระผู้มีพระ
ภาคก็ได้ตรัสกับเจ้ามหานามศากยะว่า มหานามะ เธอจงกล่าวว่า ต่างกัน แม้
ในครั้งที่ 3 ภรัณฑุดาบสกาลามโคตรได้กล่าวกับเจ้ามหานามศากยะว่า มหานามะ
ท่านจงกราบทูลว่า เป็นอย่างเดียวกัน
แม้ในครั้งที่ 3 พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับเจ้ามหานามศากยะว่า มหานามะ
เธอจงกล่าวว่า ต่างกัน
ลำดับนั้น ภรัณฑุดาบสกาลามโคตรคิดว่า เราถูกพระสมณโคดมรุกรานแล้ว
ถึง 3 ครั้งต่อหน้าเจ้ามหานามศากยะผู้มีศักดิ์ใหญ่ ทางที่ดี เราพึงหลีกไปเสียจาก
กรุงกบิลพัสดุ์ ทีนั้น ภรัณฑุดาบสกาลามโคตรไปจากกรุงกบิลพัสดุ์ หนีห่างจาก
กรุงกบิลพัสดุ์ ไม่หวนกลับมาอีกเลย
ภรัณฑุกาลามสูตรที่ 4 จบ