เมนู

พระสุตตัตนตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต [2. ทุติยปัณณาสก์]
5. โลณผลวรรค 2. ปวิเวกสูตร

กิจที่ภิกษุต้องรีบทำ 3 ประการ อะไรบ้าง คือ

1. การสมาทานอธิสีลสิกขา (สิกขาคือศีลอันยิ่ง)
2. การสมาทานอธิจิตตสิกขา (สิกขาคือจิตอันยิ่ง)
3. การสมาทานอธิปัญญาสิกขา (สิกขาคือปัญญาอันยิ่ง)

กิจที่ภิกษุต้องรีบทำ 3 ประการนี้แล
ภิกษุนั้นไม่มีฤทธิ์หรืออานุภาพที่จะบันดาลว่า “วันนี้แล พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้
จิตของเราจงหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น” ภิกษุทั้งหลาย แท้ที่จริง จิตของ
ภิกษุนั้นผู้ศึกษาอธิสีลสิกขา อธิจิตตสิกขา และอธิปัญญาสิกขา มีระยะเวลาที่จะ
หลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น
ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้น เธอทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า “เราจักมี
ความพอใจอย่างยิ่งในการสมาทานอธิสีลสิกขา เราจักมีความพอใจอย่างยิ่งในการ
สมาทานอธิจิตตสิกขา เราจักมีความพอใจอย่างยิ่งในการสมาทานอธิปัญญาสิกขา”
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล

อัจจายิกสูตรที่ 1 จบ

2. ปวิเวกสูตร
ว่าด้วยความสงัดจากกิเลส

[94] ภิกษุทั้งหลาย พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชก บัญญัติความสงัดจากกิเลส
ไว้ 3 ประการนี้
ความสงัดจากกิเลส 3 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. ความสงัดจากกิเลสเพราะอาศัยจีวร
2. ความสงัดจากกิเลสเพราะอาศัยบิณฑบาต
3. ความสงัดจากกิเลสเพราะอาศัยเสนาสนะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 20 หน้า :325 }


พระสุตตัตนตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต [2. ทุติยปัณณาสก์]
5. โลณผลวรรค 2. ปวิเวกสูตร

บรรดาความสงัดจากกิเลสทั้ง 3 ประการนั้น ในความสงัดจากกิเลสเพราะ
อาศัยจีวร พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกบัญญัติไว้ คือ นุ่งห่มผ้าป่านบ้าง นุ่งห่มผ้า
แกมกันบ้าง นุ่งห่มผ้าห่อศพบ้าง นุ่งห่มผ้าบังสุกุลบ้าง นุ่งห่มผ้าเปลือกไม้บ้าง
นุ่งห่มหนังเสือบ้าง นุ่งห่มหนังเสือที่มีเล็บติดอยู่บ้าง นุ่งห่มผ้าคากรองบ้าง นุ่งห่ม
ผ้าเปลือกปอกรองบ้าง นุ่งห่มผ้าผลไม้กรองบ้าง นุ่งห่มผ้ากัมพลทำด้วยผมคนบ้าง
นุ่งห่มผ้ากัมพลทำด้วยขนสัตว์บ้าง นุ่งห่มผ้าทำด้วยปีกนกเค้าบ้าง
ภิกษุทั้งหลาย พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกบัญญัติเรื่องนี้แล ในความสงัดจาก
กิเลสเพราะอาศัยจีวร
บรรดาความสงัดจากกิเลสทั้ง 3 นั้น ความสงัดจากกิเลสเพราะอาศัยบิณฑบาต
ที่พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกบัญญัติไว้คือกินผักดองเป็นอาหารบ้าง กินข้าวฟ่างบ้าง
อาหารบ้าง กินลูกเดือยเป็นอาหารบ้าง กินกากข้าวเป็นอาหารบ้าง กินยาง1เป็น
อาหารบ้าง กินรำบ้าง กินข้าวตังบ้าง กินกำยานบ้าง กินหญ้าบ้าง กินโคมัยบ้าง กิน
รากและผลไม้ในป่าบ้าง กินผลไม้ที่หล่นเลี้ยงชีพอยู่ ภิกษุทั้งหลาย พวกอัญเดียรถีย์
ปริพาชกบัญญัติเรื่องนี้แลไว้ในความสงัดจากกิเลสเพราะอาศัยบิณฑบาต
บรรดาความสงัดจากกิเลสทั้ง 3 นั้น ในความสงัดจากกิเลสเพราะอาศัย
เสนาสนะ พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกบัญญัติไว้ คือ ป่า โคนไม้ ป่าช้า ป่าทึบ
ที่แจ้ง ลอมฟาง โรงลาน พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกบัญญัติเรื่องนี้แลไว้ในความสงัด
จากกิเลสที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยเสนาสนะ
ภิกษุทั้งหลาย อัญเดียรถีย์ปริพาชก บัญญัติความสงัดจากกิเลสไว้ 3 ประการ
นี้แล
ส่วนความสงัดจากกิเลส 3 ประการ ของภิกษุในธรรมวินัยนี้
ความสงัดจากกิเลส 3 ประการ อะไรบ้าง คือ
ภิกษุในธรรมวินัยนี้