เมนู

พระสุตตัตนตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต [2. ทุติยปัณณาสก์]
1. พราหมณวรรค 8. ติกัณณสูตร

หลุดพ้นแล้ว รู้ชัดว่า “ชาติสิ้นแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว ทำกิจที่ควรทำเสร็จ
แล้ว1 ไม่มีกิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้อีกต่อไป2” ได้บรรลุวิชชาที่ 3 นี้ ความ
มืดมิดคืออวิชชา เธอกำจัดได้แล้ว แสงสว่างคือวิชชา3 ได้เกิดขึ้นแก่เธอ เปรียบ
เหมือนแสงสว่างเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้ไม่ประมาท มีความเพียร อุทิศกายและใจ
จิตของพระโคดมพระองค์ใด
ผู้มีศีลไม่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ
มีปัญญาและมีความเพ่งพินิจ
เป็นจิตมีความชำนาญแน่วแน่ เป็นสมาธิดี
พระโคดมพระองค์นั้น
บัณฑิตกล่าวว่าบรรเทาความมืดได้
เป็นนักปราชญ์ ได้วิชชา 3 ละทิ้งมัจจุราช
เกื้อกูลแก่เทวดาและมนุษย์ ละบาปธรรมได้ทุกอย่าง
สาวกทั้งหลายย่อมนมัสการพระโคดมพระองค์นั้น
ผู้สมบูรณ์ด้วยวิชชา 3 ไม่ลุ่มหลง
เป็นพระพุทธเจ้ามีสรีระเป็นชาติสุดท้าย
บุคคลใดรู้แจ้งปุพเพนิวาสญาณ เห็นทั้งสวรรค์
และอบาย บรรลุธรรมเป็นที่สิ้นความเกิด เป็นมุนี
อยู่จบพรหมจรรย์เพราะรู้ยิ่ง เป็นพราหมณ์ผู้ได้วิชชา 3
โดยวิชชา 3 นี้ เราเรียกบุคคลนั้นว่าได้วิชชา 3
ไม่เรียกบุคคลอื่นว่าได้วิชชา 3 ตามที่ผู้อื่นเรียกกัน
พราหมณ์ ผู้ได้วิชชา 3 ในอริยวินัยเป็นอย่างนี้แล