พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [1. สฬายตนสังยุต]
2. ทุติยปัณณาสก์ 2. มิคชาลวรรค 11. ตติยฉผัสสายตนสูตร
ดีละ ภิกษุ ในข้อนี้จักขุที่เธอพิจารณาเห็นอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เรา
ไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา จักเป็นอันเธอเห็นดีแล้วด้วยปัญญาอันชอบตาม
ความเป็นจริง ด้วยการเห็นอย่างนี้ ผัสสายตนะที่ 1 นี้จักเป็นอันเธอละได้แล้วเพื่อ
ไม่ให้ผัสสายตนะนั้นเกิดอีกต่อไป ฯลฯ
เธอพิจารณาเห็นชิวหาว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่อัตตา
ของเราหรือ
อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า
ดีละ ภิกษุ ในข้อนี้ชิวหาที่เธอพิจารณาเห็นอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา
เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา จักเป็นอันเธอเห็นดีแล้วด้วยปัญญาอันชอบ
ตามความเป็นจริง ด้วยการเห็นอย่างนี้ ผัสสายตนะที่ 4 นี้จักเป็นอันเธอละได้แล้ว
เพื่อไม่ให้ผัสสายตนะนั้นเกิดอีกต่อไป ฯลฯ
เธอพิจารณาเห็นมโนว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่อัตตา
ของเราหรือ
อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า
ดีละ ภิกษุ ในข้อนี้มโนที่เธอพิจารณาเห็นอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เรา
ไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา จักเป็นอันเธอเห็นดีแล้วด้วยปัญญาอันชอบตาม
ความเป็นจริง ด้วยการเห็นอย่างนี้ ผัสสายตนะที่ 6 นี้จักเป็นอันเธอละได้แล้วเพื่อ
ไม่ให้ผัสสายตนะนั้นเกิดอีกต่อไป
ทุติยฉผัสสายตนสูตรที่ 10 จบ
11. ตติยฉผัสสายตนสูตร
ว่าด้วยผัสสายตนะ 6 ประการ สูตรที่ 3
[73] ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุบางรูปไม่รู้ชัดถึงความเกิด ความดับ คุณ โทษ
และเครื่องสลัดออกจากผัสสายตนะ 6 ประการตามความเป็นจริง เธอประพฤติ
พรหมจรรย์ยังไม่จบ เป็นผู้ไกลจากธรรมวินัยนี้