เมนู

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [4. ชัมพุขาทกสังยุต]
9. อวิชชาปัญหาสูตร

“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อละอาสวะเหล่านั้นอยู่”
“มรรคเป็นอย่างไร ปฏิปทาเพื่อละอาสวะเหล่านั้นเป็นอย่างไร”
“ผู้มีอายุ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 นี้แล เพื่อละอาสวะเหล่านั้น ได้แก่
1. สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ 8. สัมมาสมาธิ
นี้แลคือมรรค นี้คือปฏิปทาเพื่อละอาสวะเหล่านั้น”
“ท่านสารีบุตร มรรคดีจริงหนอ ปฏิปทาเพื่อละอาสวะเหล่านั้นดีจริงหนอ และ
ควรที่จะไม่ประมาท”

อาสวปัญหาสูตรที่ 8 จบ

9. อวิชชาปัญหาสูตร
ว่าด้วยปัญหาเรื่องอวิชชา

[322] ชัมพุขาทกปริพาชกถามว่า “ท่านสารีบุตร ที่เรียกกันว่า ‘อวิชชา
อวิชชา’ อวิชชาคืออะไร”
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ผู้มีอายุ คือ ความไม่รู้ในทุกข์ ความไม่รู้ในทุกข-
สมุทัย (เหตุเกิดทุกข์) ความไม่รู้ในทุกขนิโรธ (ความดับทุกข์) และความไม่รู้ใน
ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา (ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์) นี้เรียกว่า อวิชชา”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อละอวิชชานั้นอยู่หรือ”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อละอวิชชานั้นอยู่”
“มรรคเป็นอย่างไร ปฏิปทาเพื่อละอวิชชานั้นเป็นอย่างไร”
“ผู้มีอายุ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 นี้แล เพื่อละอวิชชานั้น ได้แก่
1. สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ 8. สัมมาสมาธิ
นี้แลคือมรรค นี้คือปฏิปทาเพื่อละอวิชชานั้น”
“ท่านสารีบุตร มรรคดีจริงหนอ ปฏิปทาเพื่อละอวิชชานั้นดีจริงหนอ และ
ควรที่จะไม่ประมาท”

อวิชชาปัญหาสูตรที่ 9 จบ


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [4. ชัมพุขาทกสังยุต] 11. โอฆปัญหาสูตร

10. ตัณหาปัญหาสูตร
ว่าด้วยปัญหาเรื่องตัณหา

[323] ชัมพุขาทกปริพาชกถามว่า “ท่านสารีบุตร ที่เรียกกันว่า ‘ตัณหา
ตัณหา’ ตัณหามีเท่าไร”
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ผู้มีอายุ ตัณหามี 3 ประการนี้ คือ
1. กามตัณหา (ความทะยานอยากในกาม)
2. ภวตัณหา (ความทะยานอยากในภพ)
3. วิภวตัณหา (ความทะยานอยากในวิภพ)
ตัณหามี 3 ประการนี้แล”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อละตัณหาเหล่านั้นอยู่หรือ”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อละตัณหาเหล่านั้นอยู่”
“มรรคเป็นอย่างไร ปฏิปทาเพื่อละตัณหาเหล่านั้นเป็นอย่างไร”
“ผู้มีอายุ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 นี้แล เพื่อละตัณหาเหล่านั้น ได้แก่
1. สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ 8. สัมมาสมาธิ
นี้แลคือมรรค นี้คือปฏิปทาเพื่อละตัณหาเหล่านั้น”
“ท่านสารีบุตร มรรคดีจริงหนอ ปฏิปทาเพื่อละตัณหาเหล่านั้นดีจริงหนอ
และควรที่จะไม่ประมาท”

ตัณหาปัญหาสูตรที่ 10 จบ

11. โอฆปัญหาสูตร
ว่าด้วยปัญหาเรื่องโอฆะ

[324] ชัมพุขาทกปริพาชกถามว่า “ท่านสารีบุตร ที่เรียกกันว่า ‘โอฆะ โอฆะ’
โอฆะมีเท่าไร”
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ผู้มีอายุ โอฆะมี 4 ประการนี้ คือ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 18 หน้า :342 }