เมนู

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [4. ชัมพุขาทกสังยุต]
7. เวทนาปัญหาสูตร

6. ปรมัสสาสัปปัตตสูตร
ว่าด้วยผู้ถึงความโล่งใจอย่างยิ่ง

[319] ชัมพุขาทกปริพาชกถามว่า “ท่านสารีบุตร ที่เรียกกันว่า ‘ถึงความ
โล่งใจอย่างยิ่ง ถึงความโล่งใจอย่างยิ่ง’ ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอ ภิกษุจึงเป็นผู้ถึง
ความโล่งใจอย่างยิ่ง”
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ผู้มีอายุ ภิกษุรู้ชัดความเกิด ความดับ คุณ โทษ
และเครื่องสลัดออกจากผัสสายตนะ 6 ประการตามความเป็นจริงแล้ว หลุดพ้น
เพราะไม่ถือมั่น ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล เธอจึงเป็นผู้ถึงความโล่งใจอย่างยิ่ง”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อทำให้แจ้งความโล่งใจอย่างยิ่งนั้นอยู่หรือ”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อทำให้แจ้งความโล่งใจอย่างยิ่งนั้นอยู่”
“มรรคเป็นอย่างไร ปฏิปทาเพื่อทำให้แจ้งความโล่งใจอย่างยิ่งนั้นเป็นอย่างไร”
“ผู้มีอายุ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 นี้แล เพื่อทำให้แจ้งความโล่งใจอย่างยิ่งนั้น
ได้แก่
1. สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ 8. สัมมาสมาธิ
นี้แลคือมรรค นี้คือปฏิปทาเพื่อทำให้แจ้งความโล่งใจอย่างยิ่งนั้น”
“ท่านสารีบุตร มรรคดีจริงหนอ ปฏิปทาเพื่อทำให้แจ้งความโล่งใจอย่างยิ่ง
นั้นดีจริงหนอ และควรที่จะไม่ประมาท”

ปรมัสสาสัปปัตตสูตรที่ 6 จบ

7. เวทนาปัญหาสูตร
ว่าด้วยปัญหาเรื่องเวทนา

[320] ชัมพุขาทกปริพาชกถามว่า “ท่านสารีบุตร ที่กล่าวกันว่า ‘เวทนา
เวทนา’ เวทนามีเท่าไร”
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ผู้มีอายุ เวทนามี 3 ประการนี้
เวทนา 3 ประการ อะไรบ้าง คือ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 18 หน้า :339 }


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [4. ชัมพุขาทกสังยุต]
8. อาสวปัญหาสูตร

1. สุขเวทนา 2. ทุกขเวทนา
3. อทุกขมสุขเวทนา
เวทนามี 3 ประการนี้แล”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้เวทนา 3 ประการนั้นอยู่หรือ”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้เวทนา 3 ประการนั้นอยู่”
“มรรคเป็นอย่างไร ปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้เวทนา 3 ประการนั้นเป็นอย่างไร”
“ผู้มีอายุ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 นี้แล เพื่อกำหนดรู้เวทนา 3 ประการนั้น
ได้แก่
1. สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ 8. สัมมาสมาธิ
นี้แลคือมรรค นี้คือปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้เวทนา 3 ประการนั้น”
“ท่านสารีบุตร มรรคดีจริงหนอ ปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้เวทนา 3 ประการ
นั้นดีจริงหนอ และควรที่จะไม่ประมาท”

เวทนาปัญหาสูตรที่ 7 จบ

8. อาสวปัญหาสูตร
ว่าด้วยปัญหาเรื่องอาสวะ

[321] ชัมพุขาทกปริพาชกถามว่า “ท่านสารีบุตร ที่เรียกกันว่า ‘อาสวะ
อาสวะ’ อาสวะมีเท่าไร”
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ผู้มีอายุ อาสวะมี 3 ประการนี้ คือ
1. กามาสวะ (อาสวะคือกาม)
2. ภวาสวะ (อาสวะคือภพ)
3. อวิชชาสวะ (อาสวะคืออวิชชา)
อาสวะมี 3 ประการนี้แล”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อละอาสวะเหล่านั้นอยู่หรือ”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 18 หน้า :340 }