เมนู

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [4. ชัมพุขาทกสังยุต] 4. กิมัตถิยสูตร

และคนพวกใดละราคะได้แล้ว ตัดรากถอนโคนเหมือนต้นตาลที่ถูกตัดราก
ถอนโคนไปแล้ว เหลือแต่พื้นที่ ทำให้ไม่มี เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้ ละโทสะได้แล้ว
ตัดรากถอนโคนเหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคนไปแล้ว เหลือแต่พื้นที่ ทำให้ไม่มี
เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้ และละโมหะได้แล้ว ตัดรากถอนโคนเหมือนต้นตาลที่ถูกตัดราก
ถอนโคนไปแล้ว เหลือแต่พื้นที่ ทำให้ไม่มี เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้ คนพวกนั้นเป็นผู้ไป
ดีแล้วในโลก”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อละราคะ โทสะ และโมหะนั้นอยู่หรือ”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อละราคะ โทสะ และโมหะนั้นอยู่”
“มรรคเป็นอย่างไร ปฏิปทาเพื่อละราคะ โทสะ และโมหะนั้นเป็นอย่างไร”
“ผู้มีอายุ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 นี้แล เพื่อละราคะ โทสะ และโมหะนั้น ได้แก่
1. สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ 8. สัมมาสมาธิ
นี้แลคือมรรค นี้คือปฏิปทาเพื่อละราคะ โทสะ และโมหะนั้น”
“ท่านสารีบุตร มรรคดีจริงหนอ ปฏิปทาเพื่อละราคะ โทสะ และโมหะนั้นดี
จริงหนอ และควรที่จะไม่ประมาท”

ธัมมวาทีปัญหาสูตรที่ 3 จบ

4. กิมัตถิยสูตร
ว่าด้วยคำถามเกี่ยวกับประโยชน์ของการประพฤติพรหมจรรย์

[317] ชัมพุขาทกปริพาชกถามว่า “ท่านสารีบุตร ท่านประพฤติพรหมจรรย์
ในพระสมณโคดม เพื่อต้องการอะไร”
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ผู้มีอายุ เราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
เพื่อกำหนดรู้ทุกข์”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้ทุกข์นั้นอยู่หรือ”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้ทุกข์นั้นอยู่”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 18 หน้า :337 }