พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [2. เวทนาสังยุต]
3. อัฏฐสตปริยายวรรค 1. สีวกสูตร
3. อัฏฐสตปริยายวรรค
หมวดว่าด้วยบรรยาย 108 ประการ
1. สีวกสูตร
ว่าด้วยสีวกปริพาชก
[269] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน สถานที่ให้เหยื่อ
กระแต เขตกรุงราชคฤห์ ครั้งนั้น ปริพาชกชื่อโมฬิยสีวกะ1เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค
ถึงที่ประทับ ได้สนทนาปราศรัยพอเป็นที่บันเทิงใจ พอเป็นที่ระลึกถึงกันแล้ว นั่ง ณ
ที่สมควร ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ มีสมณพราหมณ์พวกหนึ่งมีวาทะอย่างนี้ มีทิฏฐิอย่าง
นี้ว่า บุรุษบุคคลนี้เสวยสุข ทุกข์ หรืออทุกขมสุขอย่างใดอย่างหนึ่ง สุข ทุกข์ หรือ
อทุกขมสุขทั้งหมดนั้นมีเหตุที่ได้ทำไว้ในปางก่อน ก็ในข้อนี้พระโคดมผู้เจริญตรัสไว้อย่างไร
พระผู้พระภาคตรัสตอบว่า สีวกะ เวทนาบางอย่างมีดีเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้น
ในกายนี้ก็มี การที่เวทนาบางอย่างซึ่งมีดีเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้นในกายนี้ บุคคลพึงรู้ได้
เองนี้ก็มี การที่เวทนาบางอย่างซึ่งมีดีเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้นในกายนี้ ชาวโลกสมมติ
ว่าเป็นความจริงก็มี ในข้อนั้นสมณพราหมณ์เหล่าใดมีวาทะอย่างนี้ มีทิฏฐิอย่าง
นี้ว่า บุรุษบุคคลนี้เสวยสุข ทุกข์ หรืออทุกขมสุขอย่างใดอย่างหนึ่ง สุข ทุกข์
หรืออทุกขมสุขทั้งหมดนั้นมีเหตุที่ได้ทำไว้ในปางก่อน ย่อมแล่นไปหาสิ่งที่ตนเองรู้
และแล่นไปหาสิ่งที่ชาวโลกสมมติว่าเป็นความจริง เพราะฉะนั้นเราจึงกล่าวว่า เป็น
ความผิดของสมณพราหมณ์เหล่านั้น
... มีเสลดเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ มีลมเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ มีดี เสลดและลม
รวมกันเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ เกิดจากการเปลี่ยนฤดู ฯลฯ เกิดจากการบริหารกาย
ไม่สม่ำเสมอ ฯลฯ เกิดจากการถูกทำร้าย ฯลฯ เวทนาบางอย่างเกิดจาก
ผลกรรมเกิดขึ้นในกายนี้ก็มี การที่เวทนาบางอย่างซึ่งเกิดจากผลกรรมเกิดขึ้นใน
กายนี้บุคคลพึงรู้ได้เองก็มี การที่เวทนาบางอย่างซึ่งเกิดจากผลกรรมเกิดขึ้นในกายนี้
ชาวโลกสมมติว่าเป็นความจริงก็มี ในข้อนั้นสมณพราหมณ์เหล่าใดมีวาทะอย่างนี้
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [2. เวทนาสังยุต]
3. อัฏฐสตปริยายวรรค 2. อัฏฐสตสูตร
มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า บุรุษบุคคลนี้เสวยสุข ทุกข์ หรืออทุกขมสุขอย่างใดอย่างหนึ่ง
สุข ทุกข์ หรืออทุกขมสุขทั้งหมดนั้น มีเหตุที่ได้ทำไว้ในปางก่อน ย่อมแล่นไปหา
สิ่งที่ตนเองรู้ และแล่นไปหาสิ่งที่ชาวโลกสมมติว่าเป็นความจริง เพราะฉะนั้นเราจึง
กล่าวว่า เป็นความผิดของสมณพราหมณ์เหล่านั้น
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว ปริพาชกชื่อโมฬิยสีวกะได้กราบทูลพระ
ผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ข้าแต่ท่านพระโคดม พระภาษิตของท่านพระโคดมชัดเจน
ไพเราะยิ่งนัก ฯลฯ ขอท่านพระโคดมจงทรงจำข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะ
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนตลอดชีวิต
ดี 1 เสลด 1 ลม 1 ดี เสลด และลม รวมกัน 1
ฤดู 1 การบริหารกายไม่สม่ำเสมอ 1 การถูกทำร้าย 1
รวมกับผลกรรมอีก 1 เป็น 8
สีวกสูตรที่ 1 จบ
2. อัฏฐสตสูตร
ว่าด้วยเวทนา 108 ประการ
[270] ภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงธรรมบรรยายซึ่งมีบรรยายถึง 108
ประการแก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง
ภิกษุทั้งหลาย ธรรมบรรยายซึ่งมีบรรยายถึง 108 ประการ เป็นอย่างไร
คือ เรากล่าวเวทนา 2 ประการไว้โดยบรรยายก็มี กล่าวเวทนา 3 ประการ
ไว้โดยบรรยายก็มี กล่าวเวทนา 5 ประการไว้โดยบรรยายก็มี กล่าวเวทนา 6
ประการไว้โดยบรรยายก็มี กล่าวเวทนา 18 ประการไว้โดยบรรยายก็มี กล่าว
เวทนา 36 ประการไว้โดยบรรยายก็มี กล่าวเวทนา 108 ประการไว้โดยบรรยาย
ก็มี
เวทนา 2 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. เวทนาทางกาย 2. เวทนาทางใจ
เหล่านี้เราเรียกว่า เวทนา 2 ประการ