เมนู

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [1. สฬายตนสังยุต]
3. ตติยปัณณาสก์ 4. เทวทหวรรค 9. อัชฌัตตานัตตเหตุสูตร

ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับเห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในจักขุ
ฯลฯ ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในชิวหา ฯลฯ ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในมโน เมื่อเบื่อหน่าย
ย่อมคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัดจิตย่อมหลุดพ้น เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ก็รู้ว่า
‘หลุดพ้นแล้ว’ รู้ชัดว่า ‘ชาติสิ้นแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว
ไม่มีกิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้อีกต่อไป”

อัชฌัตตอนิจจเหตุสูตรที่ 7 จบ

8. อัชฌัตตทุกขเหตุสูตร
ว่าด้วยเหตุเกิดแห่งอายตนะภายในเป็นทุกข์

[141] “ภิกษุทั้งหลาย จักขุเป็นทุกข์ แม้เหตุปัจจัยเพื่อความเกิดขึ้นแห่ง
จักขุก็เป็นทุกข์ จักขุที่เกิดจากเหตุที่เป็นทุกข์ ที่ไหนจักเป็นสุขเล่า ฯลฯ
ชิวหาเป็นทุกข์ แม้เหตุปัจจัยเพื่อความเกิดขึ้นแห่งชิวหาก็เป็นทุกข์ ชิวหาที่
เกิดจากเหตุที่เป็นทุกข์ ที่ไหนจักเป็นสุขเล่า ฯลฯ
มโนเป็นทุกข์ แม้เหตุปัจจัยเพื่อความเกิดขึ้นแห่งมโนก็เป็นทุกข์ มโนที่เกิดจาก
เหตุที่เป็นทุกข์ ที่ไหนจักเป็นสุขเล่า
ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับเห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ รู้ชัดว่า ... ไม่มีกิจ
อื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้อีกต่อไป”

อัชฌัตตทุกขเหตุสูตรที่ 8 จบ

9. อัชฌัตตานัตตเหตุสูตร
ว่าด้วยเหตุเกิดแห่งอายตนะภายในเป็นอนัตตา

[142] “ภิกษุทั้งหลาย จักขุเป็นอนัตตา แม้เหตุปัจจัยเพื่อความเกิดขึ้นแห่ง
จักขุก็เป็นอนัตตา จักขุที่เกิดจากเหตุที่เป็นอนัตตา ที่ไหนจักเป็นอัตตาเล่า ฯลฯ
ชิวหาเป็นอนัตตา แม้เหตุปัจจัยเพื่อความเกิดขึ้นแห่งชิวหาก็เป็นอนัตตา ชิวหา
ที่เกิดจากเหตุที่เป็นอนัตตา ที่ไหนจักเป็นอัตตาเล่า ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 18 หน้า :176 }