เมนู

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [1. สฬายตนสังยุต]
1. ปฐมปัณณาสก์ 1. อนิจจวรรค รวมพระสูตรที่มีในวรรค

ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับเห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่เยื่อใยธรรมารมณ์ที่
เป็นอดีต ไม่ยินดีธรรมารมณ์ที่เป็นอนาคต ย่อมปฏิบัติเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อ
คลายกำหนัด เพื่อดับธรรมารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน”

พาหิรานัตตาตีตานาคตสูตรที่ 12 จบ
อนิจจวรรคที่ 1 จบ

รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ

1. อัชฌัตตานิจจสูตร 2. อัชฌัตตทุกขสูตร
3. อัชฌัตตานัตตสูตร 4. พาหิรานิจจสูตร
5. พาหิรทุกขสูตร 6. พาหิรานัตตสูตร
7. อัชฌัตตานิจจาตีตานาคตสูตร 8. อัชฌัตตทุกขาตีตานาคตสูตร
9. อัชฌัตตานัตตาตีตานาคตสูตร 10. พาหิรานิจจาตีตานาคตสูตร
11. พาหิรทุกขาตีตานาคตสูตร 12. พาหิรานัตตาตีตานาคตสูตร


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [1. สฬายตนสังยุต]
1. ปฐมปัณณาสก์ 2. ยมกวรรค 1. ปฐมปุพเพสัมโพธสูตร

2. ยมกวรรค
หมวดว่าด้วยคู่
1. ปฐมปุพเพสัมโพธสูตร
ว่าด้วยความดำริก่อนตรัสรู้ สูตรที่ 1

[13] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย เมื่อก่อนเราเป็นโพธิสัตว์ยังไม่ได้ตรัสรู้
ได้มีความคิดดังนี้ว่า ‘อะไรหนอเป็นคุณ1 อะไรเป็นโทษ2ของจักขุ (ตา) อะไรเป็น
เครื่องสลัดออกจากจักขุ ฯลฯ โสตะ (หู) ฯลฯ ฆานะ (จมูก) ฯลฯ ชิวหา (ลิ้น) ฯลฯ
กาย อะไรเป็นคุณ อะไรเป็นโทษของมโน (ใจ) อะไรเป็นเครื่องสลัดออกจากมโน
ภิกษุทั้งหลาย เรานั้นได้มีความคิดดังนี้ว่า ‘สภาพที่สุขโสมนัสอาศัยจักขุเกิดขึ้น
นี้เป็นคุณของจักขุ สภาพที่จักขุไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรผันเป็นธรรมดา นี้
เป็นโทษของจักขุ ธรรมเป็นที่กำจัดฉันทราคะ ธรรมเป็นที่ละฉันทราคะ3 ในจักขุ
นี้เป็นเครื่องสลัดออกจากจักขุ
สภาพที่สุขโสมนัสอาศัยโสตะ ฯลฯ
สภาพที่สุขโสมนัสอาศัยฆานะ ฯลฯ
สภาพที่สุขโสมนัสอาศัยชิวหาเกิดขึ้น นี้เป็นคุณของชิวหา สภาพที่ชิวหาไม่
เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรผันเป็นธรรมดา นี้เป็นโทษของชิวหา ธรรมเป็นที่กำจัด
ฉันทราคะ4 ธรรมเป็นที่ละฉันทราคะในชิวหา นี้เป็นเครื่องสลัดออกจากชิวหา