พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค [1. นิทานสังยุต]
5. คหปติวรรค 2. ทุติยปัญจเวรภยสูตร
2. ทุติยปัญจเวรภยสูตร
ว่าด้วยภัยเวร 5 ประการ สูตรที่ 2
[42] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ... เขตกรุงสาวัตถี
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดแล ภัยเวร 5 ประการนี้ของอริยสาวกสงบแล้ว เมื่อนั้น
อริยสาวกผู้ประกอบด้วยธรรมที่เป็นองค์แห่งโสดาปัตติผล 4 ประการ และญายธรรม
อันประเสริฐ ที่อริยสาวกนั้นเห็นดีแล้ว แทงตลอดดีแล้วด้วยปัญญา อริยสาวกนั้น
หวังอยู่ พึงพยากรณ์ตนด้วยตนเองได้ว่า เราเป็นผู้มีนรกสิ้นแล้ว ฯลฯ มีอันไม่
ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้จะตรัสรู้ในภายหน้าอย่างแน่นอน
ภัยเวร 5 ประการสงบแล้ว เป็นอย่างไร คือ
1. บุคคลผู้ฆ่าสัตว์ ฯลฯ
2. บุคคลผู้ลักทรัพย์ ฯลฯ
3. บุคคลผู้ประพฤติผิดในกาม ฯลฯ
4. บุคคลผู้พูดเท็จ ฯลฯ
5. บุคคลผู้ตั้งอยู่ในความประมาท เพราะเสพของมึนเมาคือสุราและเมรัย
ฯลฯ
ภัยเวร 5 ประการนี้สงบแล้ว
อริยสาวกผู้ประกอบด้วยธรรมที่เป็นองค์แห่งโสดาปัตติผล 4 ประการ เป็น
อย่างไร คือ
1. อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหว
ในพระพุทธเจ้า ฯลฯ
2. ในพระธรรม ฯลฯ
3. ในพระสงฆ์ ฯลฯ
4. อริยสาวกผู้ประกอบด้วยศีลที่พระอริยะปรารถนา ฯลฯ
อริยสาวกผู้ประกอบด้วยธรรมที่เป็นองค์แห่งโสดาปัตติผล 4 ประการนี้
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค [1. นิทานสังยุต] 5. คหปติวรรค 3. ทุกขสูตร
ญายธรรมอันประเสริฐ ที่อริยสาวกเห็นดีแล้ว แทงตลอดดีแล้วด้วยปัญญา
เป็นอย่างไร คือ
ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมมนสิการปฏิจจสมุปบาทโดย
แยบคาย ฯลฯ
ภิกษุทั้งหลาย ญายธรรมอันประเสริฐ ที่อริยสาวกนั้นเห็นดีแล้ว แทงตลอด
ดีแล้วด้วยปัญญา
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดแล ภัยเวร 5 ประการนี้ของอริยสาวกสงบแล้ว เมื่อนั้น
อริยสาวกผู้ประกอบด้วยธรรมที่เป็นองค์แห่งโสดาปัตติผล 4 ประการนี้ และญาย-
ธรรมอันประเสริฐนี้ ที่อริยสาวกนั้นเห็นดีแล้ว แทงตลอดดีแล้วด้วยปัญญา อริยสาวก
นั้นหวังอยู่ พึงพยากรณ์ตนด้วยตนเองได้ว่า เราเป็นผู้มีนรกสิ้นแล้ว มีกำเนิดสัตว์
ดิรัจฉานสิ้นแล้ว มีเปรตวิสัยสิ้นแล้ว มีอบาย ทุคติ วินิบาตสิ้นแล้ว เราเป็นโสดาบัน
มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้จะตรัสรู้ในภายหน้าอย่างแน่นอน
ทุติยปัญจเวรภยสูตรที่ 2 จบ
3. ทุกขสูตร1
ว่าด้วยทุกข์
[43] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ... เขตกรุงสาวัตถี
ภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงความเกิดแห่งทุกข์ และความดับแห่งทุกข์
เธอทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ภิกษุเหล่านั้นทูลรับสนองพระ-
ดำรัสแล้ว พระผู้มีพระภาคจึงได้ตรัสเรื่องนี้ว่า
ภิกษุทั้งหลาย ความเกิดแห่งทุกข์ เป็นอย่างไร
คือ เพราะอาศัยจักขุ(ตา)และรูป จักขุวิญญาณจึงเกิด ความประจวบแห่งธรรม
3 ประการเป็นผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงเกิด เพราะเวทนาเป็นปัจจัย
ตัณหาจึงเกิด ความเกิดแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้แล