พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค [6. ลาภสักการสังยุต]
3. ตติยวรรค 2. กัลยาณิสูตร
3. ตติยวรรค
หมวดที่ 3
1. มาตุคามสูตร
ว่าด้วยมาตุคาม
[170] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ... เขตกรุงสาวัตถี ...
ภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะและความสรรเสริญเป็นสิ่งทารุณ ฯลฯ ต่อการ
บรรลุธรรม ...
มาตุคามคนเดียวไม่สามารถครอบงำจิตของภิกษุรูปหนึ่ง แต่ลาภสักการะและ
ความสรรเสริญสามารถครอบงำจิตของภิกษุได้ ฯลฯ
ภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะและความสรรเสริญเป็นสิ่งทารุณ ฯลฯ อย่างนี้
เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้
มาตุคามสูตรที่ 1 จบ
2. กัลยาณิสูตร
ว่าด้วยนางงาม
[171] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ... เขตกรุงสาวัตถี ...
ภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะและความสรรเสริญเป็นสิ่งทารุณ ฯลฯ ต่อการ
บรรลุธรรม ...
นางงามประจำแคว้นคนเดียวไม่สามารถครอบงำจิตของภิกษุรูปหนึ่ง แต่ลาภ
สักการะและความสรรเสริญสามารถครอบงำจิตของภิกษุได้ ฯลฯ
ภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะและความสรรเสริญเป็นสิ่งทารุณ ฯลฯ อย่างนี้
เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้
กัลยาณิสูตรที่ 2 จบ
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค [6. ลาภสักการสังยุต]
3. ตติยวรรค 3. เอกปุตตกสูตร
3. เอกปุตตกสูตร
ว่าด้วยบุตรคนเดียว
[172] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ... เขตกรุงสาวัตถี ...
ภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะและความสรรเสริญเป็นสิ่งทารุณ ฯลฯ ต่อการ
บรรลุธรรม ...
อุบาสิกาผู้มีศรัทธา เมื่อจะวิงวอนบุตรคนเดียวซึ่งเป็นที่น่ารักน่าพอใจโดย
ถูกต้อง พึงวิงวอนว่า ลูกเอ๋ย ขอพ่อจงเป็นเช่นจิตตคหบดี1 และหัตถกอาฬวก-
อุบาสก2เถิด
บรรดาอุบาสกสาวกของเรา คือ จิตตคหบดีและหัตถกอาฬวกอุบาสก เป็นผู้
ชั่งได้วัดได้(นางพึงวิงวอนอีกว่า) ถ้าพ่อออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ก็ขอให้เป็น
เช่นพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเถิด
บรรดาภิกษุผู้เป็นสาวกของเรา คือ สารีบุตรและโมคคัลลานะ เป็นผู้ชั่งได้วัดได้
(นางพึงวิงวอนต่อไปว่า) ลูกเอ๋ย ขอลาภสักการะและความสรรเสริญ จงอย่าครอบงำ
เจ้าผู้เป็นเสขะยังไม่บรรลุอรหัตตผลเลย ถ้าลาภสักการะและความสรรเสริญครอบงำ
ภิกษุผู้เป็นเสขะยังไม่บรรลุอรหัตตผล ก็ย่อมเป็นอันตรายแก่เธอ
ภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะและความสรรเสริญเป็นสิ่งทารุณ ฯลฯ อย่างนี้
เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้
เอกปุตตกสูตรที่ 3 จบ