พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [5. พราหมณวรรค] 9. สุภสูตร
วาจาที่พราหมณ์เหล่านั้นรู้แล้วกล่าว ประเสริฐกว่า ท่านพระโคดม
วาจาที่พราหมณมหาศาลเหล่านั้นพิจารณาแล้วกล่าว หรือไม่พิจารณา
แล้วกล่าว อย่างไหนประเสริฐกว่ากัน
วาจาที่พราหมณ์เหล่านั้นพิจารณาแล้วกล่าว ประเสริฐกว่า ท่านพระโคดม
วาจาที่มีประโยชน์ หรือวาจาที่ไม่มีประโยชน์ซึ่งพราหมณมหาศาลเหล่านั้นกล่าว
อย่างไหนประเสริฐกว่ากัน
วาจาที่มีประโยชน์ ประเสริฐกว่า ท่านพระโคดม
ท่านเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร ถ้าเมื่อเป็นเช่นนั้น โปกขรสาติพราหมณ์
โอปมัญญโคตร ผู้เป็นใหญ่ในป่าชื่อสุภควัน กล่าววาจาตรงตามโวหารของชาวโลก
หรือไม่
ไม่ตรงตามโวหารของชาวโลก ท่านพระโคดม
เป็นวาจาที่รู้แล้วกล่าว หรือไม่รู้แล้วกล่าว
เป็นวาจาที่ไม่รู้แล้วกล่าว ท่านพระโคดม
เป็นวาจาที่พิจารณาแล้วกล่าวหรือไม่พิจารณาแล้วกล่าว
เป็นวาจาที่ไม่พิจารณาแล้วกล่าว ท่านพระโคดม
เป็นวาจาที่มีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์
เป็นวาจาที่ไม่มีประโยชน์ ท่านพระโคดม
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า มาณพ นิวรณ์นี้มี 5 ประการ
นิวรณ์ 5 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. กามฉันทนิวรณ์ (สิ่งที่กั้นจิตคือความพอใจในกาม)
2. พยาบาทนิวรณ์ (สิ่งที่กั้นจิตคือความขัดเคืองใจ)
3. ถีนมิทธนิวรณ์ (สิ่งที่กั้นจิตคือความหดหู่และเซื่องซึม)
4. อุทธัจจกุกกุจจนิวรณ์ (สิ่งที่กั้นจิตคือความฟุ้งซ่านและร้อนใจ)
5. วิจิกิจฉานิวรณ์ (สิ่งที่กั้นจิตคือความลังเลสงสัย)
นิวรณ์ 5 ประการนี้แล
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [5. พราหมณวรรค] 9. สุภสูตร
มาณพ โปกขรสาติพราหมณ์ โอปมัญญโคตร ผู้เป็นใหญ่ในป่าชื่อสุภควัน
ถูกนิวรณ์ 5 ประการนี้หน่วงเหนี่ยว กางกั้น รัดรึง ตรึงตราไว้แล้ว เป็นไปไม่ได้เลย
ที่เขาจักรู้ จักเห็นหรือจักทำให้แจ้งญาณทัสสนะที่ประเสริฐอันสามารถ วิเศษยิ่งกว่า
ธรรมของมนุษย์
[468] มาณพ กามคุณนี้มี 5 ประการ
กามคุณ 5 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. รูปที่จะพึงรู้แจ้งทางตา ที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ชวนให้รัก
ชักให้ใคร่ พาใจให้กำหนัด
2. เสียงที่จะพึงรู้แจ้งทางหู ฯลฯ
3. กลิ่นที่จะพึงรู้แจ้งทางจมูก ...
4. รสที่จะพึงรู้แจ้งทางลิ้น ...
5. โผฏฐัพพะที่จะพึงรู้แจ้งทางกาย ที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ
ชวนให้รัก ชักให้ใคร่ พาใจให้กำหนัด
กามคุณ 5 ประการนี้แล
โปกขรสาติพราหมณ์ โอปมัญญโคตร ผู้เป็นใหญ่ในป่าชื่อสุภควัน กำหนัดแล้ว
หมกมุ่นแล้ว ด้วยกามคุณ 5 ประการนี้ ถูกกามคุณ 5 ประการนี้ครอบงำแล้ว
ไม่เห็นโทษ ไม่มีปัญญาเป็นเครื่องถอนออก บริโภคอยู่ เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจักรู้
จักเห็น หรือจักทำให้แจ้งญาณทัสสนะที่ประเสริฐ อันสามารถวิเศษยิ่งกว่าธรรมของ
มนุษย์
มาณพ ท่านเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร บุคคลจะพึงอาศัยหญ้าและไม้เป็น
เชื้อจุดไฟขึ้น หรือไม่อาศัยหญ้าและไม้เป็นเชื้อจุดไฟขึ้น ไฟอย่างไหนหนอจะมีเปลว
สี และแสงสว่าง
สุภมาณพกราบทูลว่า ท่านพระโคดม เป็นไปได้หรือ ถ้าการจุดไฟที่ไม่มีหญ้า
และไม้เป็นเชื้อ จะมีเปลว สี และแสงสว่าง