พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [5. พราหมณวรรค] 2. เสลสูตร
เสลพราหมณ์เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
เสลพราหมณ์ถามว่า ท่านเกณิยะ บัดนี้ ท่านพระโคดมอรหันตสัมมา-
สัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ประทับอยู่ที่ไหน
เมื่อเสลพราหมณ์ถามอย่างนี้แล้ว เกณิยชฎิลได้ยกแขนขวาชี้บอกเสลพราหมณ์
ว่า ท่านเสละ ท่านจงเดินไปทางบริเวณทิวไม้สีเขียวนั้นเถิด
หลังจากนั้น เสลพราหมณ์พร้อมด้วยมาณพ 300 คน ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มี
พระภาคถึงที่ประทับ พลางเรียกมาณพเหล่านั้นมาเตือนว่า ท่านทั้งหลาย จงอย่า
ส่งเสียงดัง ค่อย ๆ เดินตามกันไปให้เป็นระเบียบ เพราะท่านผู้เจริญเหล่านั้นชอบอยู่
ตามลำพัง ดุจพญาราชสีห์ให้ยินดีได้ยาก อนึ่ง ขณะที่เรากำลังสนทนากับพระสมณ-
โคดม ท่านจงอย่าพูดสอดแทรกขึ้น รอให้เราสนทนาจบเสียก่อน
ลำดับนั้น เสลพราหมณ์ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ได้สนทนา
ปราศรัยพอเป็นที่บันเทิงใจ พอเป็นที่ระลึกถึงกันแล้วนั่ง ณ ที่สมควร ได้พิจารณาดู
ลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการในพระวรกายของพระผู้มีพระภาค
เสลพราหมณ์ได้เห็นลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการในพระวรกายของพระผู้มี
พระภาคโดยมาก เว้นอยู่ 2 ประการ คือ (1) พระคุยหฐานอันเร้นอยู่ในฝัก
(2) พระชิวหาใหญ่ จึงยังเคลือบแคลงสงสัย ไม่น้อมใจเชื่อ ไม่เลื่อมใสในลักษณะ
มหาบุรุษทั้ง 2 ประการ
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงดำริว่า เสลพราหมณ์นี้เห็นลักษณะมหาบุรุษ
32 ประการของเราโดยมาก เว้นอยู่ 2 ประการ คือ (1) คุยหฐาน อันเร้นอยู่ในฝัก
(2) ชิวหาใหญ่ จึงยังเคลือบแคลงสงสัย ไม่น้อมใจเชื่อ ไม่เลื่อมใสในลักษณะมหาบุรุษ
อีก 2 ประการ
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงบันดาลอิทธาภิสังขาร1ให้เสลพราหมณ์ได้เห็น
พระคุยหฐานอันเร้นอยู่ในฝัก และทรงแลบพระชิวหาสอดเข้าไปในช่องพระกรรณ
ทั้ง 2 ข้างกลับไปกลับมา สอดเข้าช่องพระนาสิกทั้ง 2 ข้างกลับไปกลับมา ทรงแผ่
พระชิวหาปิดทั่วมณฑลพระนลาฏ
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [5. พราหมณวรรค] 2. เสลสูตร
เสลพราหมณ์กับศิษย์กราบทูลขอบรรพชาอุปสมบท
ครั้งนั้น เสลพราหมณ์ได้คิดว่า พระสมณโคดมทรงประกอบด้วยลักษณะ
มหาบุรุษ 32 ประการบริบูรณ์ ไม่บกพร่อง แต่เรายังไม่ทราบว่าพระองค์เป็น
พระพุทธเจ้าจริงหรือไม่ เราได้สดับเรื่องนี้มาจากสำนักของพราหมณ์ทั้งหลายซึ่งเป็น
คนชรา เป็นผู้ใหญ่ เป็นอาจารย์และปาจารย์ ผู้กล่าวกันว่า พระผู้มีพระภาค
อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมแสดงพระองค์ให้ปรากฏในเมื่อบุคคลกล่าว
ถึงคุณของพระองค์ ทางที่ดี เราควรชมเชยพระสมณโคดมเฉพาะพระพักตร์เป็นคาถา
ที่เหมาะสม
[399] ลำดับนั้น เสลพราหมณ์จึงชมเชยพระผู้มีพระภาคเฉพาะพระพักตร์
ด้วยคาถาที่เหมาะสมว่า
ข้าแต่พระผู้มีพระภาค พระองค์เสด็จอุบัติมาดีแล้ว
มีพระวิริยภาพ มีพระวรกายสมบูรณ์
มีพระรัศมีเรืองงาม เป็นผู้น่าทัศนายิ่งนัก
มีพระฉวีวรรณเปล่งปลั่งดั่งทอง
มีพระเขี้ยวแก้วขาวสะอาด
เพราะพระลักษณะมหาบุรุษ
ที่มีปรากฏแก่มหาบุรุษนั้น
ย่อมมีปรากฏในพระวรกายของพระองค์อย่างครบถ้วน
พระองค์มีพระเนตรแจ่มใส มีพระพักตร์ผุดผ่อง
มีพระวรกายสูงใหญ่ตรง
มีพระเดช ทรงรุ่งเรืองอยู่ในท่ามกลางหมู่สมณะ
เหมือนดวงอาทิตย์รุ่งเรืองอยู่
พระองค์เป็นภิกษุ มีคุณสมบัติงดงามน่าชม
มีพระฉวีวรรณผุดผ่องดั่งทอง
พระองค์มีพระวรรณะสูงส่งถึงเพียงนี้
จะเป็นสมณะไปทำไม