เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [4. ราชวรรค] 3. มฆเทวสูตร

พระเจ้านิมิรักษาอุโบสถ

[312] อานนท์ เรื่องเคยมีมาแล้ว อันตรากถานี้เกิดขึ้นแล้วแก่เทพทั้งหลาย
ชั้นดาวดึงส์ผู้นั่งประชุมกัน ณ สภาชื่อสุธัมมาว่า ‘ท่านผู้เจริญทั้งหลาย เป็นลาภ
ของชาววิเทหะหนอ ชาววิเทหะได้ดีแล้วหนอ ที่พระเจ้านิมิเป็นผู้ทรงธรรม เป็น
ธรรมราชา เป็นมหาราชผู้ตั้งมั่นในธรรม ทรงประพฤติธรรมในพราหมณ์และคหบดี
ในชาวนิคมและชาวชนบท และทรงรักษาอุโบสถทุกวัน 14 ค่ำ 15 ค่ำ และวัน 8
ค่ำแห่งปักษ์’
ลำดับนั้น ท้าวสักกะจอมเทพ ตรัสเรียกเทพทั้งหลายชั้นดาวดึงส์มาถามว่า
‘ท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย ท่านทั้งหลายปรารถนาจะเห็นพระเจ้านิมิหรือไม่’ เทพทั้งหลาย
ชั้นดาวดึงส์ ทูลตอบว่า ‘ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ พวกข้าพระองค์ปรารถนาจะเห็น
พระเจ้านิมิ’
อานนท์ สมัยนั้น ในวันอุโบสถ 15 ค่ำ พระเจ้านิมิทรงสนานพระกายทั่ว
พระเศียรแล้ว ทรงรักษาอุโบสถ ประทับนั่งอยู่แล้วบนปราสาทอันประเสริฐชั้นบน
ครั้งนั้น ท้าวสักกะจอมเทพได้ทรงอันตรธานจากเทพทั้งหลายชั้นดาวดึงส์ ไปปรากฏ
เฉพาะพระพักตร์พระเจ้านิมิ’ เปรียบเหมือนคนที่แข็งแรงเหยียดแขนออกหรือคู้แขนเข้า
แล้วตรัสกับพระเจ้านิมิว่า ‘มหาราช เป็นลาภของพระองค์ พระองค์ได้ดีแล้ว
เทพทั้งหลายชั้นดาวดึงส์นั่งประชุมสรรเสริญกันอยู่ในสภาชื่อสุธัมมาว่า ‘ท่านผู้เจริญ
ทั้งหลาย เป็นลาภของชาววิเทหะหนอ ชาววิเทหะได้ดีแล้วหนอ ที่พระเจ้านิมิเป็น
ผู้ทรงธรรม เป็นธรรมราชา เป็นมหาราชผู้ตั้งมั่นในธรรม ทรงประพฤติธรรม
ในพราหมณ์และคหบดี ในชาวนิคมและชาวชนบท และทรงรักษาอุโบสถทุกวัน
14 ค่ำ 15 ค่ำ และวัน 8 ค่ำแห่งปักษ์’ มหาราช เทพทั้งหลายชั้นดาวดึงส์
ปรารถนาจะเห็นพระองค์ หม่อมฉันจะส่งรถเทียมด้วยม้าอาชาไนย 1,000 ตัวมา
เพื่อพระองค์ พระองค์ทรงขึ้นประทับบนทิพยยานเถิด อย่าทรงหวั่นพระทัยเลย’
พระเจ้านิมิทรงรับเชิญโดยดุษณีภาพ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 13 หน้า :377 }


พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [4. ราชวรรค] 3. มฆเทวสูตร

พระเจ้านิมิทอดพระเนตรนรกและสวรรค์

[313] อานนท์ ครั้งนั้น ท้าวสักกะจอมเทพทราบอาการที่พระเจ้านิมิทรง
รับเชิญแล้ว จึงอันตรธานจากที่เฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้านิมิมาปรากฏในหมู่เทพ
ชั้นดาวดึงส์ เปรียบเหมือนคนที่แข็งแรงเหยียดแขนออกหรือคู้แขนเข้า ลำดับนั้น
ท้าวสักกะจอมเทพ รับสั่งเรียกมาตลีเทพบุตรผู้รับใช้มาตรัสว่า ‘มาเถิด มาตลี
เพื่อนรัก ท่านจงจัดรถเทียมด้วยม้าอาชาไนย 1,000 ตัว แล้วเข้าไปเฝ้าพระเจ้านิมิ’
จงทูลอย่างนี้ว่า ‘มหาราช รถเทียมด้วยม้าอาชาไนย 1,000 ตัวนี้ ท้าวสักกะ
จอมเทพทรงส่งมารับพระองค์ พระองค์พึงเสด็จขึ้นประทับยังทิพยยานเถิด อย่าทรง
หวั่นพระทัยเลย’
มาตลีเทพบุตรผู้รับใช้ทูลรับสนองพระดำรัสแล้ว จัดรถเทียมด้วยม้าอาชาไนย
1,000 ตัว เข้าไปเฝ้าพระเจ้านิมิแล้วทูลว่า ‘มหาราช รถที่เทียมด้วยม้าอาชาไนย
1,000 ตัวนี้ ท้าวสักกะจอมเทพส่งมารับพระองค์ เชิญเสด็จขึ้นประทับยังทิพยยานเถิด
อย่าทรงหวั่นพระทัยเลย อนึ่ง ทางสำหรับสัตว์ผู้มีบาปกรรม เสวยผลของบาปกรรม
ทางหนึ่ง ทางสำหรับสัตว์ผู้มีกรรมอันงาม เสวยผลของกรรมอันงามทางหนึ่ง
ข้าพระองค์จะเชิญเสด็จไปทางไหน พระเจ้าข้า’
พระเจ้านิมิตรัสว่า ‘มาตลี จงนำเราไปทั้งสองทางนั่นแล’
อานนท์ มาตลีเทพบุตรผู้รับใช้ นำเสด็จพระเจ้านิมิถึงสภาชื่อสุธัมมา ท้าวสักกะ
จอมเทพ ทอดพระเนตรเห็นพระเจ้านิมิผู้กำลังเสด็จมาแต่ไกล จึงตรัสว่า ‘มหาราช
เชิญเสด็จเข้ามาเถิด ขอรับเสด็จมหาราช เทพทั้งหลายชั้นดาวดึงส์ปรารถนา
จะเห็นพระองค์ ประชุมสรรเสริญกันอยู่ในสภาชื่อสุธัมมาว่า ‘ท่านผู้เจริญ เป็นลาภ
ของชาววิเทหะหนอ ชาววิเทหะได้ดีแล้วหนอ ที่พระเจ้านิมิ เป็นผู้ทรงธรรม
เป็นธรรมราชา เป็นมหาราชผู้ตั้งมั่นในธรรม ทรงประพฤติธรรมในพราหมณ์และ
คหบดี ในชาวนิคมและชาวชนบท และทรงรักษาอุโบสถทุกวัน 14 ค่ำ 15 ค่ำ
และวัน 8 ค่ำแห่งปักษ์’ มหาราช เทพทั้งหลายชั้นดาวดึงส์ปรารถนาจะเห็น
พระองค์ ขอเชิญพระองค์ทรงอภิรมย์อยู่ในหมู่เทพทั้งหลาย ด้วยเทวานุภาพเถิด’

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 13 หน้า :378 }