พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [4. ราชวรรค] 2. รัฏฐปาลสูตร
''มหาบพิตร พระผู้มีพระภาค ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น เป็นพระอรหันตสัมมา-
สัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงหมายถึงเนื้อความนี้แล จึงตรัสธัมมุทเทสประการ
ที่ 2 ว่า โลกไม่มีผู้ต้านทาน ไม่เป็นอิสระ ที่อาตมภาพรู้ เห็นและได้ฟังแล้ว
จึงออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต
พระคุณเจ้ารัฏฐปาละ น่าอัศจรรย์จริง ไม่เคยปรากฏ คำว่า โลกไม่มีผู้
ต้านทาน ไม่เป็นอิสระ พระผู้มีพระภาค ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ตรัสไว้ดีแล้ว พระคุณเจ้ารัฏฐปาละ เป็นความจริง
โลกไม่มีผู้ต้านทาน ไม่เป็นอิสระ (2)
ในราชตระกูลนี้ มีเงินและทองอยู่ที่พื้นดินและในอากาศมากมาย พระคุณเจ้า
รัฏฐปาละกล่าวว่า โลกไม่มีอะไรเป็นของตน จำต้องละสิ่งทั้งปวงไป เนื้อความแห่ง
ภาษิตนี้ จะพึงเห็นได้อย่างไร
มหาบพิตร พระองค์ทรงเข้าพระทัยความข้อนั้นว่าอย่างไร บัดนี้ พระองค์
เอิบอิ่ม พรั่งพร้อมด้วยกามคุณ 5 ประการ บำเรอพระองค์อยู่ ฉันใด พระองค์จักได้
สมพระราชประสงค์ว่า แม้โลกหน้า เราจักเป็นผู้เอิบอิ่ม พรั่งพร้อมด้วยกามคุณ
5 ประการ บำเรอตนอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน หรือว่าชนเหล่าอื่นจักปกครองทรัพย์
สมบัตินี้ ส่วนพระองค์ก็จักเสด็จไปตามยถากรรม
พระคุณเจ้ารัฏฐปาละ บัดนี้ โยมเอิบอิ่มพรั่งพร้อมด้วยกามคุณ 5 ประการ
บำเรอตนอยู่ ฉันใด โยมก็จักไม่ได้ตามประสงค์ว่า แม้ในโลกหน้า เราจะเป็นผู้
เอิบอิ่ม พรั่งพร้อมด้วยกามคุณ 5 ประการ บำเรอตนอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน
ที่แท้ชนเหล่าอื่นจักปกครองทรัพย์สมบัตินี้ ส่วนโยมก็จักไปตามยถากรรม
มหาบพิตร พระผู้มีพระภาค ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น เป็นพระอรหันตสัมมา-
สัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงหมายถึงเนื้อความนี้แล จึงตรัสธัมมุทเทสประการที่ 3
ว่า โลกไม่มีอะไรเป็นของตน จำต้องละสิ่งทั้งปวงไป ที่อาตมภาพรู้เห็นและได้ฟังแล้ว
จึงออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต
พระคุณเจ้ารัฏฐปาละ น่าอัศจรรย์จริง ไม่เคยปรากฏ คำว่า โลกไม่มีอะไร
เป็นของตน จำต้องละสิ่งทั้งปวงไป พระผู้มีพระภาค ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น เป็นพระ