พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค [6. มหาโควินทสูตร]
กิตติคุณของมหาโควินทพราหมณ์
[313] ท่านผู้เจริญทั้งหลาย จากนั้น ท่านมหาโควินทพราหมณ์เข้าไปเฝ้า
พระเจ้าเรณุถึงที่ประทับ ได้กราบทูลดังนี้ว่า ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท
ข้าพระองค์มีกิตติศัพท์อันงามขจรไปอย่างนี้ว่า มหาโควินทพราหมณ์ สามารถมอง
เห็นพระพรหมได้ สามารถสนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมได้ ข้าพระองค์
ไม่เคยเห็นพระพรหม ทั้งไม่เคยสนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมเลย แต่
ข้าพระองค์ได้สดับคำนี้ของพราหมณ์ผู้แก่ ผู้เฒ่า ผู้เป็นอาจารย์ และผู้เป็นปาจารย์
พูดกันว่า บุคคลผู้หลีกเร้นอยู่ เพ่งกรุณาฌานตลอด 4 เดือนในฤดูฝน เขาจะเห็น
พระพรหมได้ สนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมได ข้าพระองค์ปรารถนาจะ
หลีกเร้น เพ่งกรุณาฌานอยู่สัก 4 เดือนในฤดูฝน ใคร ๆ ไม่พึงเข้าไปหาข้าพระองค์
ยกเว้นคนที่นำอาหารไปให้คนเดียวเท่านั้น
พระเจ้าเรณุรับสั่งว่า โควินทะ ขอท่านจงกำหนดเวลาที่สมควร ณ บัดนี้เถิด
[314] ท่านผู้เจริญทั้งหลาย จากนั้น ท่านมหาโควินทพราหมณ์เข้าไปเฝ้า
กษัตริย์ทั้ง 6 พระองค์ ได้กราบทูลดังนี้ว่า ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท
ข้าพระองค์มีกิตติศัพท์อันงามขจรไปอย่างนี้ว่า มหาโควินทพราหมณ์ สามารถมอง
เห็นพระพรหมได้ สามารถสนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมได้ แต่ข้าพระองค์
ไม่เคยเห็นพระพรหม ทั้งไม่เคยสนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมเลย แต่
ข้าพระองค์ได้สดับคำนี้ของพราหมณ์ผู้แก่ ผู้เฒ่า ผู้เป็นอาจารย์ และผู้เป็นปาจารย์
พูดกันว่า บุคคลผู้หลีกเร้นอยู่ เพ่งกรุณาฌานตลอด 4 เดือนในฤดูฝน เขาจะเห็น
พระพรหมได้ สนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมได้ ข้าพระองค์ปรารถนาจะ
หลีกเร้น เพ่งกรุณาฌานอยู่ตลอด 4 เดือนในฤดูฝน ใคร ๆ ไม่พึงเข้าไปหา
ข้าพระองค์ ยกเว้นคนที่นำอาหารไปให้คนเดียวเท่านั้น
กษัตริย์ทั้ง 6 พระองค์ตรัสว่า โควินทะ ขอท่านจงกำหนดเวลาที่สมควร
ณ บัดนี้เถิด
[315] ท่านผู้เจริญทั้งหลาย จากนั้น ท่านมหาโควินทพราหมณ์เข้าไปหา
พราหมณมหาศาล 7 คน และพราหมณ์นหาดก 700 คนแล้วจึงได้กล่าวดังนี้ว่า
ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ข้าพเจ้ามีกิตติศัพท์อันงามขจรไปอย่างนี้ว่า มหาโควินท-
พราหมณ์ สามารถมองเห็นพระพรหมได้ สามารถสนทนาปราศรัยปรึกษากับ
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค [6. มหาโควินทสูตร]
กิตติคุณของมหาโควินทพราหมณ์
พระพรหมได้ แต่ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นพระพรหม ทั้งไม่เคยสนทนาปราศรัยกับ
พระพรหมเลย แต่ข้าพเจ้าได้สดับคำนี้ของพราหมณ์ผู้แก่ ผู้เฒ่า ผู้เป็นอาจารย์
และผู้เป็นปาจารย์พูดกันว่า บุคคลผู้หลีกเร้นอยู่ เพ่งกรุณาฌานตลอด 4 เดือนใน
ฤดูฝน เขาจะเห็นพระพรหมได้สนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมได้ ถ้าอย่างนั้น
พวกท่านจงสาธยายมนตร์ตามที่ได้สดับมาแล้ว ตามที่ได้เรียนมาแล้วโดยพิสดาร
และจงบอกมนตร์แก่กันและกัน ข้าพเจ้าปรารถนาจะหลีกเร้น เพ่งกรุณาฌานอยู่
ตลอด 4 เดือนในฤดูฝน ใคร ๆ ไม่พึงเข้าไปหาข้าพเจ้า ยกเว้นคนที่นำอาหารไปให้
คนเดียวเท่านั้น
พวกพราหมณมหาศาลและพวกพราหมณ์นหาดกกล่าวว่า ท่านโควินทะ
ขอท่านจงกำหนดเวลาที่สมควร ณ บัดนี้เถิด
[316] ท่านผู้เจริญทั้งหลาย จากนั้น ท่านมหาโควินทพราหมณ์เข้าไปหา
ภรรยาผู้มีฐานะเท่ากัน 40 คน ถึงที่อยู่ได้กล่าวดังนี้ว่า นางผู้เจริญ ฉันมีกิตติศัพท์
อันงามขจรไปอย่างนี้ว่า มหาโควินทพราหมณ์ สามารถมองเห็นพระพรหมได้
สามารถสนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมได้ ฉันไม่เคยเห็นพระพรหม ทั้งไม่
เคยสนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมเลย แต่ฉันได้สดับคำนี้ของพราหมณ์ผู้แก่
ผู้เฒ่า ผู้เป็นอาจารย์ และผู้เป็นปาจารย์พูดกันว่า บุคคลผู้หลีกเร้น เพ่งกรุณาฌาน
ตลอด 4 เดือนในฤดูฝน เขาจะเห็นพระพรหมได้ สนทนาปราศรัยปรึกษากับ
พระพรหมได้ ฉันปรารถนาจะหลีกเร้น เพ่งกรุณาฌานอยู่ตลอด 4 เดือนในฤดูฝน
ใคร ๆ ไม่พึงเข้าไปหาฉัน ยกเว้นคนที่นำอาหารไปให้คนเดียวเท่านั้น
ภรรยาเหล่านั้นกล่าวว่า ท่านโควินทะ ขอท่านจงกำหนดเวลาที่สมควร
ณ บัดนี้เถิด
[317] ท่านผู้เจริญทั้งหลาย จากนั้น ท่านโควินทพราหมณ์จึงให้สร้าง
สัณฐาคารหลังใหม่ทางทิศตะวันออกแห่งเมืองแล้วหลีกเร้น เพ่งกรุณาฌานอยู่
ตลอด 4 เดือนในฤดูฝน ไม่มีใคร ๆ เข้าไปหา นอกจากคนนำอาหารไปให้
คนเดียวเท่านั้น ครั้นเวลาล่วงไป 4 เดือนแล้ว ท่านมหาโควินทพราหมณ์เกิด