เมนู

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค [5. ชนวนสภสูตร] เทวสภา

ได้รับบัญชาจากท้าวเวสวัณมหาราช ให้ไปเฝ้าท้าววิรุฬหกมหาราชด้วยธุระอย่างหนึ่ง
ระหว่างทางได้พบพระผู้มีพระภาคซึ่งกำลังเสด็จเข้าไปยังตำหนักอิฐ ประทับอยู่
ทรงตั้งพระทัยเพ่งพิจารณาเหตุการณ์ทุกอย่าง ปรารภชาวมคธผู้เคยบำรุงพระ
รัตนตรัยด้วยทรงพระดำริว่า ‘เราจะรู้คติและอภิสัมปรายภพของชาวมคธเหล่านั้นว่า
‘ผู้เจริญเหล่านั้น มีคติเป็นอย่างไรและมีอภิสัมปรายภพเป็นอย่างไร’ ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์จริง ที่ข้าพระองค์ได้สดับรับมาเฉพาะพระพักตร์ท้าวเวสวัณ
มหาราชผู้กล่าวอยู่ในบริษัทนั้นว่า ‘ชาวมคธผู้เจริญเหล่านั้น มีคติเป็นอย่างไรและ
มีอภิสัมปรายภพเป็นอย่างไร’ ข้าพระองค์จึงมีความคิดดังนี้ว่า ‘เราจักเฝ้าพระผู้มี
พระภาค และจักกราบทูลเรื่องนี้ให้ทรงทราบ’ เหตุ 2 ประการนี้แล ที่ทำให้ข้าพระองค์
ได้มาเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค

เทวสภา

[282] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อหลายวันมาแล้ว ในคืนเพ็ญวันอุโบสถ
15 ค่ำ อันเป็นวันเข้าพรรษา พวกเทพชั้นดาวดึงส์ทั้งสิ้นนั่งประชุมกันในสุธัมมา-
เทวสภา มีเทพบริษัทมากมายนั่งอยู่โดยรอบ ท้าวจาตุมหาราชประทับอยู่ในทิศ
ทั้ง 4 คือ
1. ทิศตะวันออกมีท้าวธตรฐมหาราช ประทับนั่งผินพระพักตร์ไป
ทางทิศตะวันตก มีพวกเทพอยู่เบื้องหน้า
2. ทิศใต้มีท้าววิรุฬหกมหาราช ประทับนั่งผินพระพักตร์ไปทางทิศ
เหนือ มีพวกเทพอยู่เบื้องหน้า
3. ทิศตะวันตกมีท้าววิรูปักษ์มหาราช ประทับนั่งผินพระพักตร์ไป
ทางทิศตะวันออก มีพวกเทพอยู่เบื้องหน้า
4. ทิศเหนือมีท้าวเวสวัณมหาราช ประทับนั่งผินพระพักตร์ไปทาง
ทิศใต้ มีพวกเทพอยู่เบื้องหน้า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 10 หน้า :212 }


พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค [5. ชนวนสภสูตร] เทวสภา

เมื่อครั้งที่พวกเทพชั้นดาวดึงส์ทั้งสิ้นนั่งประชุมกันในสุธัมมาเทวสภา มีเทพบริษัท
มากมายนั่งอยู่โดยรอบ มีท้าวจาตุมหาราชประทับอยู่ในทิศทั้ง 4 นี้เป็นธรรมเนียม
ในการนั่งของท้าวจาตุมหาราช ข้างหลังถัดออกมาเป็นที่นั่งของข้าพระองค์ทั้งหลาย
เทพเหล่านั้นประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคแล้ว เดี๋ยวนี้เกิดในสวรรค์
ชั้นดาวดึงส์ รุ่งเรืองเกินเทพเหล่าอื่นด้วยวรรณะและยศ นัยว่า ด้วยเหตุนั้น พวกเทพ
ชั้นดาวดึงส์จึงมีใจยินดี เบิกบานใจ เกิดปีติและโสมนัส กล่าวว่า ‘ท่านทั้งหลาย
หมู่เทพเจริญเต็มที่ หมู่อสูรเสื่อมถอยลง1’
ลำดับนั้น ท้าวสักกะจอมเทพทรงทราบความเลื่อมใสของพวกเทพชั้นดาวดึงส์
ทรงอนุโมทนาด้วยคาถาเหล่านี้ว่า
‘ท่านผู้เจริญทั้งหลายพวกเทพชั้นดาวดึงส์
มีพระอินทร์เป็นประธาน
ถวายนมัสการพระตถาคตและความดีของพระธรรม
เมื่อเห็นเทพเหล่าใหม่ ผู้มีวรรณะและยศ
ผู้เคยประพฤติพรหมจรรย์ในพระสุคต ซึ่งมา ณ ที่นี้(ด้วย)
ก็พากันบันเทิงใจนัก
เทพเหล่านั้นเป็นสาวก
ของพระผู้มีพระปัญญากว้างขวางดุจแผ่นดิน2
ทั้งหมดเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษ
รุ่งเรืองเกินเทพเหล่าอื่นในที่นี้
ด้วยวรรณะ ยศ และอายุ

เชิงอรรถ :
1 หมู่เทพเจริญเต็มที่ หมู่อสูรเสื่อมถอยลง หมายความว่าในสมัยที่คนทำความดีมาก เทวโลกทั้ง 6 ชั้น
จะเต็มบริบูรณ์ อบายจะว่าง แต่ในสมัยที่คนทำความชั่วมาก อบายจะเต็มบริบูรณ์ เทวโลกจะว่าง (ที.ม.อ.
294/262-263)
2 พระผู้มีพระปัญญากว้างขวางดุจแผ่นดิน ในที่นี้หมายถึงพระพุทธเจ้า (ขุ.ป. (แปล) 31/6/552)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 10 หน้า :213 }