เมนู

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค [5. ชนวนสภสูตร]
ทรงพยากรณ์ชาวบ้านนาทิกคามเป็นต้น

ชาวบ้านนาทิกคามมากกว่า 90 คน ผู้เคยบำรุงพระรัตนตรัยที่ล่วงลับดับชีพไปแล้ว
เป็นพระสกทาคามี เพราะสังโยชน์ 3 ประการสิ้นไป และเพราะราคะ โทสะ โมหะ
เบาบาง มาสู่โลกนี้อีกเพียงครั้งเดียวก็จะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
ชาวบ้านนาทิกคามมากกว่า 500 คน ผู้เคยบำรุงพระรัตนตรัยที่ล่วงลับ
ดับชีพไปแล้วเป็นพระโสดาบัน เพราะสังโยชน์ 3 ประการสิ้นไป ไม่มีทางตกต่ำ
มีความแน่นอนที่จะสำเร็จสัมโพธิในวันข้างหน้า”
เพราะเหตุนั้นแล ชาวบ้านนาทิกคามผู้เคยบำรุงพระรัตนตรัยจึงมีใจยินดี
เบิกบานใจ เกิดปีติและโสมนัส เพราะได้ฟังคำพยากรณ์ปัญหาของพระผู้มีพระภาค
[275] ท่านพระอานนท์ได้ฟังข่าวว่า “พระผู้มีพระภาคได้ทรงพยากรณ์
เหล่าชนผู้เคยบำรุงพระรัตนตรัยที่ล่วงลับดับชีพไปแล้ว ในแคว้นรอบ ๆ คือ แคว้น
กาสี แคว้นโกศล แคว้นวัชชี แคว้นมัลละ แคว้นเจตี แคว้นวังสะ แคว้นกุรุ แคว้น
ปัญจาละ แคว้นมัจฉะ และแคว้นสุรเสนะ ในเรื่องการอุบัติว่า ‘คนโน้นเกิด ณ ที่โน้น
คนโน้นเกิด ณ ที่โน้น ชาวบ้านนาทิกคามมากกว่า 50 คน ผู้เคยบำรุงพระรัตนตรัย
ที่ล่วงลับดับชีพไปแล้วเป็นโอปปาติกะ เพราะสังโยชน์เบื้องต่ำ 5 ประการสิ้นไป
ปรินิพพานในโลกนั้น ไม่หวนกลับมาจากโลกนั้นอีก
ชาวบ้านนาทิกคามมากกว่า 90 คน ผู้เคยบำรุงพระรัตนตรัยที่ล่วงลับดับชีพ
ไปแล้วเป็นพระสกทาคามี เพราะสังโยชน์ 3 ประการสิ้นไป และเพราะราคะ โทสะ
โมหะเบาบาง มาสู่โลกนี้อีกเพียงครั้งเดียวก็จะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
ชาวบ้านนาทิกคามมากกว่า 500 คน ผู้เคยบำรุงพระรัตนตรัยที่ล่วงลับดับชีพ
ไปแล้วเป็นพระโสดาบัน เพราะสังโยชน์ 3 ประการสิ้นไป ไม่มีทางตกต่ำ มีความ
แน่นอนที่จะสำเร็จสัมโพธิในวันข้างหน้า’
เพราะเหตุนั้นแล ชาวบ้านนาทิกคามผู้เคยบำรุงพระรัตนตรัยจึงมีใจยินดี เบิกบานใจ
เกิดปีติและโสมนัส เพราะได้ฟังคำพยากรณ์ปัญหาของพระผู้มีพระภาค”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 10 หน้า :206 }


พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค [5. ชนวนสภสูตร]
คำกราบทูลเลียบเคียงของพระอานนท์

คำกราบทูลเลียบเคียงของพระอานนท์

[276] ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์ มีความคิดดังนี้ว่า “มีชาวมคธเหล่านี้
จำนวนมากเป็นผู้เคยบำรุงพระรัตนตรัยและเป็นรัตตัญญูซึ่งล่วงลับดับชีพไปแล้ว แต่
เพราะพระผู้มีพระภาคไม่ทรงพยากรณ์ชาวอังคะและชาวมคธผู้เลื่อมใสในพระพุทธ
เลื่อมใสในพระธรรม เลื่อมใสในพระสงฆ์ ผู้รักษาศีลให้บริบูรณ์ที่ล่วงลับดับชีพไปแล้ว
เหล่านั้น แคว้นอังคะและแคว้นมคธจึงดูประหนึ่งว่าว่างจากชาวอังคะและชาวมคธ ผู้เคย
บำรุงพระรัตนตรัยที่ล่วงลับดับชีพไปแล้ว การพยากรณ์คนเหล่านั้นพึงให้สำเร็จประโยชน์
ได้(คือ)คนจำนวนมากพึงเลื่อมใส จากนั้นจะไปสู่สุคติภูมิ
อนึ่ง พระเจ้าพิมพิสาร จอมทัพแห่งแคว้นมคธ ผู้ทรงธรรม ครองราชย์
โดยธรรม ทรงเกื้อกูลพวกพราหมณ์และคหบดี ชาวนิคมและชาวชนบท ทราบว่า
ชาวบ้านพากันสรรเสริญอยู่ว่า ‘พระเจ้าแผ่นดินพระองค์นั้น ผู้ทรงธรรม ครองราชย์
โดยธรรม ทรงปกครองให้พวกเราอยู่เป็นสุข สวรรคตแล้ว’ พวกเราอยู่อย่างผาสุก
ในแว่นแคว้นของพระองค์ผู้ทรงธรรม ครองราชย์โดยธรรม อนึ่ง พระเจ้าแผ่นดิน
พระองค์นั้น ทรงเลื่อมใสในพระพุทธ เลื่อมใสในพระธรรม เลื่อมใสในพระสงฆ์
และทรงรักษาศีลให้บริบูรณ์’ และทราบว่าชาวบ้านพูดกันอย่างนี้ว่า ‘แม้จนกระทั่ง
เวลาจะสวรรคต พระเจ้าพิมพิสาร จอมทัพแห่งแคว้นมคธก็ยังทรงสรรเสริญพระผู้มี
พระภาคอยู่จนสวรรคต พระผู้มีพระภาคไม่ทรงพยากรณ์ท้าวเธอ ผู้สวรรคตไปแล้ว
การพยากรณ์ท้าวเธอพึงให้สำเร็จประโยชน์ได้ คือ ชนจำนวนมากพึงเลื่อมใส จากนั้น
จะไปสู่สุคติภูมิ พระผู้มีพระภาคตรัสรู้ในแคว้นมคธ ทำไมพระองค์จึงไม่ทรงพยากรณ์
ชาวมคธผู้เคยบำรุงพระรัตนตรัยที่ล่วงลับดับชีพไปแล้ว ในเรื่องการอุบัติที่พระองค์
ได้ตรัสรู้ ถ้าพระผู้มีพระภาคไม่ทรงพยากรณ์ชาวมคธผู้เคยบำรุงพระรัตนตรัยที่ล่วงลับ
ดับชีพไปแล้วในการอุบัติ พวกชาวมคธจะพึงน้อยใจว่า ‘ไฉน พระผู้มีพระภาคจึง
ไม่ทรงพยากรณ์ชาวมคธเหล่านั้น”
[277] ท่านพระอานนท์ปรารภชาวมคธผู้เคยบำรุงพระรัตนตรัย พิจารณา
ถึงเหตุนี้อยู่ในที่สงัดเพียงลำพัง พอใกล้สว่าง จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายอภิวาทแล้ว นั่ง ณ ที่สมควร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า “ข้าแต่พระองค์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 10 หน้า :207 }