เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวรรค [4. ปวารณาขันธกะ] 145. ปวารณาสังคหะ
ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า เมื่อภิกษุเหล่านั้นพร้อมเพรียงร่วมใจกัน
ไม่ทะเลาะกันอยู่ ได้บรรลุผาสุวิหารธรรมอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ถ้าพวกเราจัก
ปวารณาในบัดนี้ บางทีภิกษุทั้งหลายปวารณาแล้ว จะพึงหลีกไปสู่ที่จาริก จะมีบ้าง
เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็จักเป็นผู้เหินห่างผาสุวิหารธรรมนี้ ถ้าสงฆ์พร้อมกันแล้ว
สงฆ์พึงทำการสงเคราะห์กันด้วยปวารณา บัดนี้สงฆ์พึงทำอุโบสถ พึงยกปาฏิโมกข์
ขึ้นแสดง พึงปวารณาในวันเพ็ญเดือน 12 อันเป็นวันที่ครบ 4 เดือน ที่จะมา
ถึงเถิด นี่เป็นญัตติ
ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า เมื่อภิกษุเหล่านั้นพร้อมเพรียงร่วมใจกัน
ไม่ทะเลาะกันอยู่ ได้บรรลุผาสุวิหารธรรมอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ถ้าพวกเราจัก
ปวารณาในบัดนี้ บางทีภิกษุทั้งหลายปวารณาแล้ว จะพึงหลีกไปสู่ที่จาริก จะมีบ้าง
เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็จักเป็นผู้เหินห่างผาสุวิหารธรรมนี้ ถ้าสงฆ์พร้อมกันแล้ว
สงฆ์พึงทำการสงเคราะห์กันด้วยปวารณา บัดนี้สงฆ์จักทำอุโบสถ จักยกปาติโมกข์
ขึ้นแสดง จักปวารณาในวันเพ็ญเดือน 12 อันเป็นวันที่ครบ 4 เดือน ที่จะ
มาถึง ท่านรูปใดเห็นด้วยกับการที่ทำการสงเคราะห์กันด้วยปวารณา บัดนี้สงฆ์จักทำ
อุโบสถ จักยกปาติโมกข์ขึ้นแสดง จักปวารณาในวันเพ็ญเดือน 12 อันเป็นวันที่ครบ
4 เดือน ที่จะมาถึง ท่านรูปนั้นพึงนิ่ง ท่านรูปใดไม่เห็นด้วย ท่านรูปนั้นพึงทักท้วง
การเลื่อนปวารณาสงฆ์ได้ทำแล้ว บัดนี้สงฆ์จักทำอุโบสถ จักยกปาติโมกข์
ขึ้นแสดง จักปวารณาในวันเพ็ญเดือน 12 อันเป็นวันที่ครบ 4 เดือน ที่จะมาถึง
สงฆ์เห็นด้วย เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าขอถือความนิ่งนั้นเป็นมติอย่างนี้

เรื่องไม่มีใครเป็นใหญ่ในปวารณา
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุเหล่านั้นทำการสงเคราะห์กันด้วยปวารณาแล้ว ถ้ามี
ภิกษุสักรูปหนึ่งกล่าวว่า ท่านทั้งหลาย ผมปรารถนาจะหลีกจาริกไปยังชนบท
เพราะผมมีธุระในชนบท
ภิกษุทั้งหลายพึงกล่าวกับภิกษุนั้นว่า ดีแล้ว ท่าน ท่านจงปรารถนาแล้วไปเถิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 4 หน้า :391 }


พระวินัยปิฎก มหาวรรค [4. ปวารณาขันธกะ] 146. รวมเรื่องที่มีในปวารณาขันธกะ
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุนั้นปวารณาอยู่ งดปวาณาของภิกษุรูปหนึ่งเสีย
ภิกษุผู้ถูกงดปวารณาพึงกล่าวกับภิกษุผู้งดปวารณาว่า “ท่าน ท่านไม่เป็นใหญ่ใน
ปวารณาของผม ผมจะยังไม่ปวารณาก่อน”
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าเมื่อภิกษุนั้นปวารณาอยู่ ภิกษุรูปหนึ่งงดปวาณาของภิกษุ
นั้นเสีย สงฆ์พึงสอบสวนสืบสวนทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ปรับอาบัติตามธรรม
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุนั้นทำธุระจำเป็นในชนบทเสร็จแล้ว กลับมายังอาวาส
นั้นอีกภายในวันเพ็ญเดือน 12 อันเป็นวันที่ครบ 4 เดือน ถ้าเมื่อภิกษุเหล่านั้น
ปวารณาอยู่ ภิกษุรูปหนึ่งงดปวาณาของภิกษุนั้นเสีย ภิกษุผู้ถูกห้ามปวารณาพึง
กล่าวกับภิกษุผู้งดปวารณาว่า “ท่าน ท่านไม่เป็นใหญ่ในปวารณาของผม เพราะ
ผมปวารณา เสร็จแล้ว”
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าเมื่อภิกษุเหล่านั้นปวารณาอยู่ ภิกษุนั้นงดปวารณาของภิกษุ
รูปหนึ่ง สงฆ์พึงสอบสวนสืบสวนทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ปรับอาบัติตามธรรมปวารณาเถิด
ปวารณาขันธกะที่ 4 จบ

146. รวมเรื่องที่มีในปวารณาขันธกะ
ปวารณาขันธกะ มี 46 เรื่อง คือ
เรื่องภิกษุหลายรูปเข้าจำพรรษาในแคว้นโกศลมาเฝ้าพระศาสดา
เรื่องเข้าพรรษาไม่ผาสุกดังปศุสัตว์อยู่ร่วมกัน
เรื่องทรงอนุญาตพิธีปวารณาเพื่อว่ากล่าวซึ่งกันและกัน
เรื่องพระฉัพพัคคีย์นั่งราบบนอาสนะปวารณา
เรื่องวันปวารณามี 2 วัน เรื่องอาการที่ทำปวารณามี 4 อย่าง
เรื่องภิกษุเป็นไข้มอบปวารณา เรื่องภิกษุถูกพวกญาติจับไว้
เรื่องภิกษุถูกพระราชา พวกโจร พวกนักเลง พวกภิกษุผู้เป็น
ข้าศึกจับไว้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 4 หน้า :392 }