พระวินัยปิฎก มหาวรรค [4. ปวารณาขันธกะ] 141. ปวารณาฐปนะ
ภิกษุทั้งหลาย ในการปวารณา 3 หน ถ้าภิกษุกล่าวเปล่งคำปวารณาออกมา
จนจบเสร็จสิ้นแล้ว จึงงดปวารณา ปวารณาไม่เป็นอันงด
ภิกษุทั้งหลาย ในการปวารณา 2 หน ถ้าภิกษุกล่าวเปล่งคำปวารณาออกมา
จนจบเสร็จสิ้นแล้ว จึงงดปวารณา ปวารณาไม่เป็นอันงด
ภิกษุทั้งหลาย ในการปวารณาหนเดียว ถ้าภิกษุกล่าวเปล่งคำปวารณาออกมา
แต่ยังไม่จบเสร็จสิ้นแล้ว จึงงดปวารณา ปวารณาไม่เป็นอันงด
ภิกษุทั้งหลาย ในการปวารณามีพรรษาเท่ากัน ถ้าภิกษุกล่าวเปล่งคำปวารณา
ออกมา จนจบเสร็จสิ้นแล้ว จึงงดปวารณา ปวารณาไม่เป็นอันงด
ภิกษุทั้งหลาย ปวารณาไม่เป็นอันงดอย่างนี้แล
ภิกษุทั้งหลาย ปวารณาเป็นอันงดอย่างไร
ภิกษุทั้งหลาย ในการปวารณา 3 หน ถ้าภิกษุกล่าวเปล่งคำปวารณาออกมา
แต่ยังไม่จบเสร็จสิ้น งดปวารณา ปวารณาเป็นอันงด
ภิกษุทั้งหลาย ในการปวารณา 2 หน ถ้าภิกษุกล่าวเปล่งคำปวารณาออกมา
แต่ยังไม่จบเสร็จสิ้น งดปวารณา ปวารณาเป็นอันงด
ภิกษุทั้งหลาย ในการปวารณาหนเดียว ถ้าภิกษุกล่าวเปล่งคำปวารณาออกมา
แต่ยังไม่จบเสร็จสิ้น งดปวารณา ปวารณาเป็นอันงด
ภิกษุทั้งหลาย ในการปวารณามีพรรษาเท่ากัน ถ้าภิกษุกล่าวเปล่งคำปวารณา
ออกมา แต่ยังไม่จบเสร็จสิ้น งดปวารณา ปวารณาเป็นอันงด
ภิกษุทั้งหลาย ปวารณาเป็นอันงดอย่างนี้แล
เรื่องงดปวารณาของภิกษุ
[237] ภิกษุทั้งหลาย ก็ในกรณีนี้ ในวันปวารณานั้น ภิกษุงดปวารณาของ
ภิกษุเสีย ถ้าภิกษุเหล่าอื่นรู้จักภิกษุนั้นว่า ท่านรูปนี้มีความประพฤติทางกาย
ไม่บริสุทธิ์ มีความประพฤติทางวาจาไม่บริสุทธิ์ มีอาชีวะไม่บริสุทธิ์ เป็นผู้เขลา
ไม่ฉลาด เมื่อถูกซักถาม ไม่อาจตอบข้อซักถาม สงฆ์พึงกล่าวห้ามว่า พอทีภิกษุ
อย่าทุ่มเถียงกัน อย่าทะเลาะกัน อย่าแก่งแย่งกัน อย่าวิวาทกันเลย แล้วจึงปวารณา