เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวรรค [4. ปวารณาขันธกะ] 140. เทฺววาจิกาทิปวารณา
... ในบริษัทที่มีคนประทุษร้ายภิกษุณีนั่งอยู่ด้วย ...
... ในบริษัทที่มีภิกษุผู้ทำลายสงฆ์นั่งอยู่ด้วย ...
... ในบริษัทที่มีคนทำร้ายพระศาสดาจนห้อพระโลหิตนั่งอยู่ด้วย ...
ภิกษุทั้งหลาย ไม่พึงปวารณาในบริษัทที่มีอุภโตพยัญชนกนั่งอยู่ด้วย รูปใด
ปวารณา ต้องอาบัติทุกกฏ

เรื่องห้ามปวารณาในวันมิใช่วันปวารณา
ภิกษุทั้งหลาย ไม่พึงปวารณาด้วยการให้ปาริวาสิกปวารณา1 เว้นแต่บริษัทยัง
ไม่ลุกขึ้น ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ไม่พึงปวารณาในวันมิใช่วันปวารณา เว้นแต่วันที่
สงฆ์สามัคคี2
ภาณวารที่ 2 จบ

140. เทฺววาจิกาทิปวารณา
ว่าด้วยสงฆ์ปวารณา 2 หนเป็นต้น

เรื่องชาวป่า
[234] สมัยนั้น ณ อาวาสแห่งหนึ่ง ในแคว้นโกศล ในวันปวารณานั้น
มีชาวป่ามาพลุกพล่าน ภิกษุทั้งหลายไม่อาจปวารณา 3 หน จึงนำเรื่องนี้ไป
กราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ปวารณา 2 หน”
ชาวป่าได้มาพลุกพล่านมากขึ้น ภิกษุทั้งหลายไม่อาจปวารณา 2 หน
จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ

เชิงอรรถ :
1 ดูข้อ 183 หน้า 288 (เชิงอรรถ)
2 ดูนัยใน วิ.ม. 5/475/256-258

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 4 หน้า :374 }


พระวินัยปิฎก มหาวรรค [4. ปวารณาขันธกะ] 140. เทฺววาจิกาทิปวารณา
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ปวารณาหนเดียว”
ชาวป่าได้มาพลุกพล่านมากยิ่งขึ้น ภิกษุทั้งหลายไม่อาจปวารณาหนเดียว
จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ปวารณามีพรรษา
เท่ากัน”1

เรื่องปวารณาเมื่อราตรีจวนสว่าง
สมัยนั้น ณ อาวาสแห่งหนึ่ง ในวันปวารณานั้น ชาวบ้านมัวให้ทานจน
ราตรีจวนสว่าง ครั้นแล้ว ภิกษุเหล่านั้นได้ปรึกษากันดังนี้ว่า “ชาวบ้านมัวให้ทาน
จนราตรีจวนสว่าง ถ้าสงฆ์จักปวารณา 3 หนไซร้ สงฆ์จักปวารณาไม่ทัน เมื่อ
เป็นเช่นนี้ ราตรีก็จักสว่าง พวกเราจะพึงปฏิบัติอย่างไรหนอ” จึงนำเรื่องนี้ไป
กราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ก็ในกรณีนี้ ในอาวาสแห่งหนึ่ง
ในวันปวารณานั้น ชาวบ้านให้ทานจนราตรีจวนสว่าง ถ้าภิกษุทั้งหลายในอาวาส
นั้นได้ปรึกษากันดังนี้ว่า ”ชาวบ้านมัวให้ทานจนราตรีจวนสว่าง ถ้าสงฆ์จักปวารณา
3 หนไซร้ สงฆ์จักปวารณาไม่ทัน เมื่อเป็นเช่นนี้ ราตรีก็จักสว่าง”
ภิกษุผู้ฉลาดสามารถพึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติกรรมวาจาว่า
ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ชาวบ้านให้ทานอยู่จนราตรีจวนสว่าง
ถ้าสงฆ์จักปวารณา 3 หนไซร้ สงฆ์จักปวารณาไม่ทัน เมื่อเป็นเช่นนี้ ราตรีก็จักสว่าง
ถ้าสงฆ์พร้อมกันแล้ว สงฆ์พึงปวารณา 2 หน ปวารณาหนเดียว ปวารณามี
พรรษาเท่ากัน
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ในอาวาสแห่งหนึ่ง ในวันปวารณานั้น ภิกษุ
ทั้งหลายกล่าวธรรมกัน ฯลฯ
... ภิกษุผู้ชำนาญพระสูตรก็สาธยายพระสูตรกัน...
... พระวินัยธรก็วินิจฉัยพระวินัยกัน...

เชิงอรรถ :
1 หมายถึง ให้ภิกษุที่มีพรรษาเท่ากัน ปวารณาพร้อมกัน (วิ.อ. 3/234/158)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 4 หน้า :375 }