พระวินัยปิฎก มหาวรรค [1.มหาขันธกะ] 26. ปัญจาพาธวัตถุ
เรื่องชฎิลบูชาไฟ
ภิกษุทั้งหลาย พวกชฎิลบูชาไฟมาแล้ว พึงให้อุปสมบท ไม่ต้องให้ปริวาสแก่
พวกเธอ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะชฎิลเหล่านั้นเป็นกรรมวาที เป็นกิริยวาที1
เรื่องอัญเดียรถีย์ศากยะ
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าศากยะโดยกำเนิดเคยเป็นอัญเดียรถีย์มา ศากยะนั้นมาแล้ว
พึงให้อุปสมบท ไม่ต้องให้ปริวาสแก่ศากยะนั้น เราให้สิทธิพิเศษส่วนนี้เฉพาะแก่หมู่
ญาติ
อัญญติตถิยปุพพกถา จบ
ภาณวารที่ 7 จบ
26. ปัญจาพาธวัตถุ
ว่าด้วยอาพาธ 5 ชนิด
เรื่องอันตรายิกธรรม
[88] สมัยนั้น ในแคว้นมคธเกิดโรคระบาดขึ้น 5 ชนิด คือ (1) โรคเรื้อน
(2) โรคฝี (3) โรคกลาก (4) โรคมองคร่อ2 (5) โรคลมบ้าหมู พวกมนุษย์ถูกโรค 5
ชนิดเบียดเบียน พากันไปหาหมอชีวกโกมารภัจ กล่าวว่า ขอโอกาส คุณหมอ
ช่วยรักษาพวกข้าพเจ้าด้วยเถิด
หมอชีวกโกมารภัจกล่าวว่า ท่านทั้งหลาย ผมมีกิจมาก มีงานต้องทำมาก
พระเจ้าพิมพิสารจอมทัพมคธรัฐ พระสนมและภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข
ผมก็ต้องพยาบาล ผมไม่สามารถรักษาได้
มนุษย์เหล่านั้นกล่าวว่า คุณหมอ ทรัพย์สมบัติยกให้ท่านทั้งหมด ทั้งพวก
ข้าพเจ้ายอมเป็นทาสของท่าน ขอโอกาส ขอความกรุณารักษาพวกข้าพเจ้าด้วยเถิด
เชิงอรรถ :
1 หมายถึงผู้มีความเห็นอย่างนี้ว่า กรรมมีอยู่ ผลของกรรมมีอยู่ (วิ.อ. 3/87/55)
2 โรคมองคร่อ คือโรคหลอดลมโป่งพอง มีเสมหะแห้งอยู่ในช่องหลอดลม ทำให้มีอาการไอเรื้อรัง ห้ามผู้ที่
เป็นโรคนี้บวชเป็นภิกษุ(พจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525)