เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวรรค [1.มหาขันธกะ] 23. อุปสัมปาเทตัพพปัญจกะ
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 เหล่านี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้
นิสสัย พึงใช้สามเณรอุปัฏฐาก (6)

กัณหปักษ์ 4
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 แม้อื่นอีก ไม่พึงให้อุปสมบท
ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงใช้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1. เป็นผู้มีสีลวิบัติในอธิสีล 2. เป็นผู้มีอาจารวิบัติในอัชฌาจาร
3. เป็นผู้มีทิฏฐิวิบัติในอติทิฏฐิ1 4. เป็นผู้ได้ยินได้ฟังน้อย
5. เป็นผู้มีปัญญาทราม
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 เหล่านี้แล ไม่พึงให้อุปสมบท
ไม่พึงให้นิสสัย ไม่พึงใช้สามเณรอุปัฏฐาก (7)

สุกกปักษ์ 4
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 พึงให้อุปสมบท พึงให้นิสสัย พึงใช้
สามเณรอุปัฏฐาก คือ
1. เป็นผู้ไม่มีสีลวิบัติในอธิสีล 2. เป็นผู้ไม่มีอาจารวิบัติในอัชฌาจาร
3. เป็นผู้ไม่มีทิฏฐิวิบัติในอติทิฏฐิ 4. เป็นผู้ได้ยินได้ฟังมาก
5. เป็นผู้มีปัญญา
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 เหล่านี้แล พึงให้อุปสมบท พึงให้
นิสสัย พึงใช้สามเณรอุปัฏฐาก (8)

เชิงอรรถ :
1 มีสีลวิบัติในอธิสีล หมายถึงเป็นผู้ต้องอาบัติปาราชิกและอาบัติสังฆาทิเสส
อาจารวิบัติในอัชฌาจาร หมายถึงเป็นผู้ต้องอาบัติ 5 กองที่เหลือ (คืออาบัติถุลลัจจัย อาบัติปาจิตตีย์
อาบัติปาฎิเทสนียะ อาบัติทุกกฏ และอาบัติทุพพาสิต)และยังมิได้พ้นจากอาบัติ
ทิฏฐิวิบัติในอติทิฏฐิ หมายถึงเป็นผู้ละสัมมาทิฏฐิแล้วยึดถืออนัตคาหิกทิฏฐิ (วิ.อ. 3/84/489, สารตฺถ.
ฏีกา 3/84/292

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 4 หน้า :126 }