ยสฺส ปน กรชกายเคลญฺเญน จิตฺตํ ภวงฺคํ โอตรติ, นายํ นิทฺทาราโมฯ เตเนวาห – ‘‘อภิชานามหํ, อคฺคิเวสฺสน , คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏิํ ปญฺญเปตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สโต สมฺปชาโน นิทฺทํ โอกฺกมิตา’’ติ (ม. นิ. 1.387)ฯ
โย ‘‘เอกสฺส ทุติโย, ทฺวินฺนํ ตติโย, ติณฺณํ จตุตฺโถ’’ติ เอวํ สํสฏฺโฐว วิหรติ, เอกโก อสฺสาทํ น ลภติ, อยํ สงฺคณิการาโมฯ โย ปน จตูสุ อิริยาปเถสุ เอกโกว อสฺสาทํ ลภติ, นายํ สงฺคณิการาโมฯ
อสนฺตสมฺภาวนิจฺฉาย สมนฺนาคตา ทุสฺสีลา ปาปิจฺฉา นามฯ เยสํ ปาปกา มิตฺตา จตูสุ อิริยาปเถสุ สห อยนโต ปาปสหายา, เย จ ตนฺนินฺนตปฺโปณตปฺปพฺภารตาย ปาเปสุ สมฺปวงฺกา, เต ปาปมิตฺตา ปาปสหายา ปาปสมฺปวงฺกา นามฯ
โอรมตฺตเกนาติ อวรมตฺตเกน อปฺปมตฺตเกนฯ อนฺตราติ อรหตฺตํ อปฺปตฺวาว เอตฺถนฺตเรฯ โวสานนฺติ ปรินิฏฺฐิตภาวํ ‘‘อลเมตฺตาวตา’’ติ โอสกฺกนํฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยาว สีลปาริสุทฺธิชฺฌานวิปสฺสนา โสตาปนฺนภาวาทีนํ อญฺญตรมตฺตเกน โวสานํ นาปชฺชิสฺสนฺติ, ตาว วุทฺธิเยว ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานีติฯ
7. สญฺญาสุตฺตวณฺณนา
[27] สตฺตเม อนิจฺจสญฺญาทโย อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ สหคตสญฺญาฯ
8. ปฐมปริหานิสุตฺตวณฺณนา
[28] อฏฺฐเม อุปฺปนฺนานํ สงฺฆกิจฺจานํ นิตฺถรเณน ภารํ วหนฺตีติ ภารวาหิโนฯ เต เตน ปญฺญายิสฺสนฺตีติ เต เถรา เตน อตฺตโน เถรภาวานุรูเปน กิจฺเจน ปญฺญายิสฺสนฺติฯ เตสุ โยคํ อาปชฺชตีติ ปโยคํ อาปชฺชติ, สยํ ตานิ กิจฺจานิ กาตุํ อารภตีติฯ