เมนู

เย ปน สพฺรหฺมจารีนํ อาคมนํ อิจฺฉนฺติ, เต สทฺธา โหนฺติ ปสนฺนา, อาคตานํ สพฺรหฺมจารีนํ ปจฺจุคฺคมนาทีนิ กตฺวา เสนาสนํ ปญฺญเปตฺวา เทนฺติ , เต คเหตฺวา ภิกฺขาจารํ ปวิสนฺติ, กงฺขํ วิโนเทนฺติ, มธุรธมฺมสฺสวนํ ลภนฺติฯ อถ เนสํ กิตฺติสทฺโท อุคฺคจฺฉติ ‘‘อสุกวิหาเร ภิกฺขู เอวํ สทฺธา ปสนฺนา วตฺตสมฺปนฺนา สงฺคาหกา’’ติฯ ตํ สุตฺวา ภิกฺขู ทูรโตปิ อาคจฺฉนฺติฯ เตสํ เนวาสิกา วตฺตํ กโรนฺติ, สมีปํ คนฺตฺวา วุฑฺฒตรํ อาคนฺตุกํ วนฺทิตฺวา นิสีทนฺติ, นวกตรสฺส สนฺติเก อาสนํ คเหตฺวา นิสีทิตฺวา ‘‘อิมสฺมิํ วิหาเร วสิสฺสถ, คมิสฺสถา’’ติ ปุจฺฉนฺติฯ ‘‘คมิสฺสามา’’ติ วุตฺเต ‘‘สปฺปายํ เสนาสนํ, สุลภา ภิกฺขา’’ติอาทีนิ วตฺวา คนฺตุํ น เทนฺติฯ วินยธโร เจ โหติ, ตสฺส สนฺติเก วินยํ สชฺฌายนฺติฯ สุตฺตนฺตาทิธโร เจ, ตสฺส สนฺติเก ตํ ตํ ธมฺมํ สชฺฌายนฺติฯ เต อาคนฺตุกเถรานํ โอวาเท ฐตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณนฺติฯ อาคนฺตุกา ‘‘เอกํ ทฺเว ทิวสานิ วสิสฺสามาติ อาคตมฺหา, อิเมสํ ปน สุขสํวาสตาย ทส ทฺวาทส วสฺสานิ วสิมฺหา’’ติ วตฺตาโร โหนฺติฯ เอวเมตฺถ หานิวุทฺธิโย เวทิตพฺพาฯ

4. ทุติยสตฺตกสุตฺตวณฺณนา

[24] จตุตฺเถ น กมฺมารามาติ เย ทิวสํ จีวรกมฺม-กายพนฺธนปริสฺสาวน-ธมฺมกรณ-สมฺมชฺชนิ-ปาทกฐลิกาทีเนว กโรนฺติ, เต สนฺธาเยส ปฏิกฺเขโปฯ โย ปน เตสํ กรณเวลาย เอวํ เอตานิ กโรติ, อุทฺเทสเวลาย อุทฺเทสํ คณฺหาติ, สชฺฌายเวลาย สชฺฌายติ, เจติยงฺคณวตฺตเวลาย เจติยงฺคณวตฺตํ กโรติ, มนสิการเวลาย มนสิการํ กโรติ, น โส กมฺมาราโม นามฯ

โย อิตฺถิวณฺณปุริสวณฺณาทิวเสน อาลาปสลฺลาปํ กโรนฺโตเยว รตฺตินฺทิวํ วีตินาเมติ, เอวรูเป ภสฺเส ปริยนฺตการี น โหติ, อยํ ภสฺสาราโม นามฯ โย ปน รตฺตินฺทิวํ ธมฺมํ กเถติ, ปญฺหํ วิสฺสชฺเชติ, อยํ อปฺปภสฺโสว ภสฺเส ปริยนฺตการีเยวฯ กสฺมา? ‘‘สนฺนิปติตานํ โว, ภิกฺขเว, ทฺวยํ กรณียํ ธมฺมี วา กถา อริโย วา ตุณฺหีภาโว’’ติ (ม. นิ. 1.273) วุตฺตตฺตาฯ

โย ฐิโตปิ คจฺฉนฺโตปิ นิสินฺโนปิ ถินมิทฺธาภิภูโต นิทฺทายติเยว, อยํ นิทฺทาราโม นามฯ

ยสฺส ปน กรชกายเคลญฺเญน จิตฺตํ ภวงฺคํ โอตรติ, นายํ นิทฺทาราโมฯ เตเนวาห – ‘‘อภิชานามหํ, อคฺคิเวสฺสน , คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏิํ ปญฺญเปตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สโต สมฺปชาโน นิทฺทํ โอกฺกมิตา’’ติ (ม. นิ. 1.387)ฯ

โย ‘‘เอกสฺส ทุติโย, ทฺวินฺนํ ตติโย, ติณฺณํ จตุตฺโถ’’ติ เอวํ สํสฏฺโฐว วิหรติ, เอกโก อสฺสาทํ น ลภติ, อยํ สงฺคณิการาโมฯ โย ปน จตูสุ อิริยาปเถสุ เอกโกว อสฺสาทํ ลภติ, นายํ สงฺคณิการาโมฯ

อสนฺตสมฺภาวนิจฺฉาย สมนฺนาคตา ทุสฺสีลา ปาปิจฺฉา นามฯ เยสํ ปาปกา มิตฺตา จตูสุ อิริยาปเถสุ สห อยนโต ปาปสหายา, เย จ ตนฺนินฺนตปฺโปณตปฺปพฺภารตาย ปาเปสุ สมฺปวงฺกา, เต ปาปมิตฺตา ปาปสหายา ปาปสมฺปวงฺกา นามฯ

โอรมตฺตเกนาติ อวรมตฺตเกน อปฺปมตฺตเกนฯ อนฺตราติ อรหตฺตํ อปฺปตฺวาว เอตฺถนฺตเรฯ โวสานนฺติ ปรินิฏฺฐิตภาวํ ‘‘อลเมตฺตาวตา’’ติ โอสกฺกนํฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยาว สีลปาริสุทฺธิชฺฌานวิปสฺสนา โสตาปนฺนภาวาทีนํ อญฺญตรมตฺตเกน โวสานํ นาปชฺชิสฺสนฺติ, ตาว วุทฺธิเยว ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานีติฯ

7. สญฺญาสุตฺตวณฺณนา

[27] สตฺตเม อนิจฺจสญฺญาทโย อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ สหคตสญฺญาฯ

8. ปฐมปริหานิสุตฺตวณฺณนา

[28] อฏฺฐเม อุปฺปนฺนานํ สงฺฆกิจฺจานํ นิตฺถรเณน ภารํ วหนฺตีติ ภารวาหิโนฯ เต เตน ปญฺญายิสฺสนฺตีติ เต เถรา เตน อตฺตโน เถรภาวานุรูเปน กิจฺเจน ปญฺญายิสฺสนฺติฯ เตสุ โยคํ อาปชฺชตีติ ปโยคํ อาปชฺชติ, สยํ ตานิ กิจฺจานิ กาตุํ อารภตีติฯ