เมนู

เตสํ โสฬสนฺนํ อนฺเตวาสิกานํ อนฺตเร โมฆราชมาณโว ‘‘อหํ สพฺเพหิ ปณฺฑิตตโร’’ติ มานตฺถทฺโธ, ตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ อชิตมาณโว สพฺเพสํ เชฏฺฐโก, เอตสฺส ปฐมตรํ มม ปญฺหํ ปุจฺฉิตุํ น ยุตฺต’’นฺติ ฯ ตสฺส ลชฺชายนฺโต ปฐมตรํ ปญฺหํ อปุจฺฉิตฺวา เตน ปุจฺฉิเต ทุติโย หุตฺวา สตฺถารํ ปญฺหํ ปุจฺฉิฯ สตฺถา ‘‘มานตฺถทฺโธ โมฆราชมาณวา, น ตาวสฺส ญาณํ ปริปากํ คจฺฉติ, อสฺส มานํ นิวาริตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห – ‘‘ติฏฺฐ ตฺวํ, โมฆราช, อญฺเญ ตาว ปญฺเห ปุจฺฉนฺตู’’ติฯ โส สตฺถุ สนฺติกา อปสาทํ ลภิตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ เอตฺตกํ กาลํ มยา ปณฺฑิตตโร นาม นตฺถีติ วิจรามิ, พุทฺธา จ นาม อชานิตฺวา น กเถนฺติฯ สตฺถารา มม ปุจฺฉาย โทโส ทิฏฺโฐ ภวิสฺสตี’’ติ ตุณฺหี อโหสิฯ โส อฏฺฐหิ ชเนหิ ปฏิปาฏิยา ปญฺเห ปุจฺฉิเต อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต นวโม หุตฺวา ปุน อุฏฺฐาสิฯ ปุนปิ นํ สตฺถา อปสาเทสิฯ

โส ปุนปิ ตุณฺหี หุตฺวา ‘‘สงฺฆนวโก ทานิ ภวิตุํ น สกฺขิสฺสามี’’ติ ปญฺจทสโม หุตฺวา ปญฺหํ ปุจฺฉิฯ อถ สตฺถา ญาณสฺส ปริปากภาวํ ญตฺวา ปญฺหํ กเถสิฯ โส เทสนาปริโยสาเน อตฺตโน ปริวาเรน ชฏิลสหสฺเสน สทฺธิํ อรหตฺตํ ปาปุณิฯ อิมินาว นิยาเมน เสสานิปิ ปนฺนรส ชฏิลสหสฺสานิ อรหตฺตํ ปาปุณิํสุฯ สพฺเพปิ อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา เอหิภิกฺขูว อเหสุํฯ เสสชนา ปน น กถิยนฺติฯ อยํ โมฆราชตฺเถโร ตโต ปฏฺฐาย ตีหิ ลูเขหิ สมนฺนาคตํ จีวรํ ธาเรติฯ เอวํ ปารายเน (สุ. นิ. 982 อาทโย) วตฺถุ สมุฏฺฐิตํฯ สตฺถา ปน อปรภาเค เชตวเน นิสินฺโน เถเร ปฏิปาฏิยา ฐานนฺตเรสุ ฐเปนฺโต โมฆราชตฺเถรํ อิมสฺมิํ สาสเน ลูขจีวรธรานํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปนฺโต ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ลูขจีวรธรานํ ยทิทํ โมฆราชา’’ติ อาหฯ

จตุตฺถวคฺควณฺณนาฯ

เอกจตฺตาลีสสุตฺตมตฺตาย เถรปาฬิยา วณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

14. เอตทคฺควคฺโค

(14) 5. ปญฺจมเอตทคฺควคฺโค

มหาปชาปติโคตมีเถรีวตฺถุ

[235] เถริปาฬิยา ปฐเม ยทิทํ มหาปชาปติโคตมีติ มหาปชาปติโคตมี เถรี รตฺตญฺญูนํ อคฺคาติ ทสฺเสติฯ

ตสฺสา ปญฺหกมฺเม ปน อยมนุปุพฺพิกถา – อยํ กิร ปทุมุตฺตรพุทฺธกาเล หํสวติยํ กุลเคเห ปฏิสนฺธิํ คณฺหิตฺวา อปเรน สมเยน สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนิํ รตฺตญฺญูนํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปนฺตํ ทิสฺวา อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ ฐานนฺตรํ ปตฺเถสิฯ สา ยาวชีวํ ทานํ ทตฺวา สีลํ รกฺขิตฺวา ตโต จุโต เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ปน เอกสฺมิํ พุทฺธนฺตเร เทวโลกโต จวิตฺวา พาราณสิยํ ปญฺจนฺนํ ทาสิสตานํ เชฏฺฐกทาสี หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ อถ วสฺสูปนายิกสมเย ปญฺจ ปจฺเจกพุทฺธา นนฺทมูลกปพฺภารโต อิสิปตเน โอตริตฺวา นคเร ปิณฺฑาย จริตฺวา อิสิปตนเมว คนฺตฺวา ‘‘วสฺสูปนายิกกุฏิยา อตฺถาย หตฺถกมฺมํ ยาจิสฺสามา’’ติ จินฺเตสุํฯ กสฺมา? วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตน หิ นาลกปฏิปทํ ปฏิปนฺเนนาปิ ปญฺจนฺนํ ฉทนานํ อญฺญตเรน ฉทเนน ฉนฺเน สทฺวารพทฺเธ เสนาสเน อุปคนฺตพฺพํฯ วุตฺตญฺเหตํ ‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ, โย อุปคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. 204)ฯ ตสฺมา วสฺสกาเล อุปกฏฺเฐ สเจ เสนาสนํ ลภติ, อิจฺเจตํ กุสลํฯ โน เจ ลภติ, หตฺถกมฺมํ ปริเยสิตฺวาปิ กาตพฺพํฯ หตฺถกมฺมํ อลภนฺเตน สามมฺปิ กาตพฺพํ, น ตฺเวว อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํฯ อยมนุธมฺมตาฯ ตสฺมา เต ปจฺเจกพุทฺธา ‘‘หตฺถกมฺมํ ยาจิสฺสามา’’ติ จีวรํ ปารุปิตฺวา สายนฺหสมเย นครํ ปวิสิตฺวา เสฏฺฐิสฺส ฆรทฺวาเร อฏฺฐํสุฯ เชฏฺฐกทาสี กุฏํ คเหตฺวา อุทกติตฺถํ คจฺฉนฺตี ปจฺเจกพุทฺเธ นครํ ปวิสนฺเต อทฺทสฯ เสฏฺฐิ เตสํ อาคตการณํ สุตฺวา ‘‘อมฺหากํ โอกาโส นตฺถิ, คจฺฉนฺตู’’ติ อาหฯ

อถ เต นครา นิกฺขนฺเต เชฏฺฐกทาสี กุฏํ คเหตฺวา ปวิสนฺตี ทิสฺวา กุฏํ โอตาเรตฺวา วนฺทิตฺวา โอนมิตฺวา มุขํ อุกฺขิปิตฺวา, ‘‘อยฺยา, นครํ ปวิฏฺฐมตฺตาว นิกฺขนฺตา, กิํ นุ โข’’ติ ปุจฺฉิฯ วสฺสูปนายิกกุฏิยา หตฺถกมฺมํ ยาจิตุํ อาคตมฺหาติฯ ลทฺธํ, ภนฺเตติ? น ลทฺธํ อุปาสิเกติฯ