เมนู

3. ชฏาสุตฺตวณฺณนา

[23] ตติเย อนฺโตชฏาติ คาถายํ ชฏาติ ตณฺหาย ชาลินิยา อธิวจนํฯ สา หิ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ เหฏฺฐุปริยวเสน ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต สํสิพฺพนฏฺเฐน เวฬุคุมฺพาทีนํ สาขาชาลสงฺขาตา ชฏา วิยาติ ชฏาฯ สา ปเนสา สกปริกฺขารปรปริกฺขาเรสุ สกอตฺตภาว-ปรอตฺตภาเวสุ อชฺฌตฺติกายตน-พาหิรายตเนสุ จ อุปฺปชฺชนโต อนฺโตชฏา พหิชฏาติ วุจฺจติฯ ตาย เอวํ อุปฺปชฺชมานาย ชฏาย ชฏิตา ปชาฯ ยถา นาม เวฬุชฏาทีหิ เวฬุอาทโย, เอวํ ตาย ตณฺหาชฏาย สพฺพาปิ อยํ สตฺตนิกายสงฺขาตา ปชา ชฏิตา วินทฺธา, สํสิพฺพิตาติ อตฺโถฯ ยสฺมา จ เอวํ ชฏิตา, ตํ ตํ โคตม ปุจฺฉามีติ ตสฺมา ตํ ปุจฺฉามิฯ โคตมาติ ภควนฺตํ โคตฺเตน อาลปติฯ โก อิมํ วิชฏเย ชฏนฺติ อิมํ เอวํ เตธาตุกํ ชเฏตฺวา ฐิตํ ชฏํ โก วิชเฏยฺย, วิชเฏตุํ โก สมตฺโถติ ปุจฺฉติฯ

อถสฺส ภควา ตมตฺถํ วิสฺสชฺเชนฺโต สีเล ปติฏฺฐายาติอาทิมาหฯ ตตฺถ สีเล ปติฏฺฐายาติ จตุปาริสุทฺธิสีเล ฐตฺวาฯ เอตฺถ จ ภควา ชฏาวิชฏนํ ปุจฺฉิโต สีลํ อารภนฺโต น ‘‘อญฺญํ ปุฏฺโฐ อญฺญํ กเถตี’’ติ เวทิตพฺโพฯ ชฏาวิชฏกสฺส หิ ปติฏฺฐาทสฺสนตฺถเมตฺถ สีลํ กถิตํฯ

นโรติ สตฺโตฯ สปญฺโญติ กมฺมชติเหตุกปฏิสนฺธิปญฺญาย ปญฺญวาฯ จิตฺตํ ปญฺญญฺจ ภาวยนฺติ สมาธิญฺเจว วิปสฺสนญฺจ ภาวยมาโนฯ จิตฺตสีเสน เหตฺถ อฏฺฐ สมาปตฺติโย กถิตา, ปญฺญานาเมน วิปสฺสนาฯ อาตาปีติ วีริยวาฯ วีริยญฺหิ กิเลสานํ อาตาปนปริตาปนฏฺเฐน ‘‘อาตาโป’’ติ วุจฺจติ, ตทสฺส อตฺถีติ อาตาปีฯ นิปโกติ เนปกฺกํ วุจฺจติ ปญฺญา, ตาย สมนฺนาคโตติ อตฺโถฯ อิมินา ปเทน ปาริหาริยปญฺญํ ทสฺเสติฯ ปาริหาริยปญฺญา นาม ‘‘อยํ กาโล อุทฺเทสสฺส, อยํ กาโล ปริปุจฺฉายา’’ติอาทินา นเยน สพฺพตฺถ การาปิตา ปริหริตพฺพปญฺญาฯ อิมสฺมิญฺหิ ปญฺหาพฺยากรเณ ติกฺขตฺตุํ ปญฺญา อาคตาฯ ตตฺถ ปฐมา ชาติปญฺญา, ทุติยา วิปสฺสนาปญฺญา, ตติยา สพฺพกิจฺจปริณายิกา ปาริหาริยปญฺญาฯ

โส อิมํ วิชฏเย ชฏนฺติ โส อิเมหิ สีลาทีหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุฯ ยถา นาม ปุริโส ปถวิยํ ปติฏฺฐาย สุนิสิตํ สตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา มหนฺตํ เวฬุคุมฺพํ วิชเฏยฺย, เอวเมวํ สีเล ปติฏฺฐาย สมาธิสิลายํ สุนิสิตํ วิปสฺสนาปญฺญาสตฺถํ วีริยพลปคฺคหิเตน ปาริหาริยปญฺญาหตฺเถน อุกฺขิปิตฺวา สพฺพมฺปิ ตํ อตฺตโน สนฺตาเน ปติตํ ตณฺหาชฏํ วิชเฏยฺย สญฺฉินฺเทยฺย สมฺปทาเลยฺยาติฯ

เอตฺตาวตา เสขภูมิํ กเถตฺวา อิทานิ ชฏํ วิชเฏตฺวา ฐิตํ มหาขีณาสวํ ทสฺเสนฺโต เยสนฺติอาทิมาหฯ เอวํ ชฏํ วิชเฏตฺวา ฐิตํ ขีณาสวํ ทสฺเสตฺวา ปุน ชฏาย วิชฏโนกาสํ ทสฺเสนฺโต ยตฺถ นามญฺจาติอาทิมาหฯ ตตฺถ นามนฺติ จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธาฯ ปฏิฆํ รูปสญฺญา จาติ เอตฺถ ปฏิฆสญฺญาวเสน กามภโว คหิโต, รูปสญฺญาวเสน รูปภโวฯ เตสุ ทฺวีสุ คหิเตสุ อรูปภโว คหิโตว โหติ ภวสงฺเขเปนาติฯ เอตฺเถสา ฉิชฺชเต ชฏาติ เอตฺถ เตภูมกวฏฺฏสฺส ปริยาทิยนฏฺฐาเน เอสา ชฏา ฉิชฺชติ, นิพฺพานํ อาคมฺม ฉิชฺชติ นิรุชฺฌตีติ อยํ อตฺโถ ทสฺสิโต โหติฯ ตติยํฯ

4. มโนนิวารณสุตฺตวณฺณนา

[24] จตุตฺเถ ยโต ยโตติ ปาปโต วา กลฺยาณโต วาฯ อยํ กิร เทวตา ‘‘ยํกิญฺจิ กุสลาทิเภทํ โลกิยํ วา โลกุตฺตรํ วา มโน, ตํ นิวาเรตพฺพเมว, น อุปฺปาเทตพฺพ’’นฺติ เอวํลทฺธิกา ส สพฺพโตติ โส สพฺพโตฯ อถ ภควา – ‘‘อยํ เทวตา อนิยฺยานิกกถํ กเถติ, มโน นาม นิวาเรตพฺพมฺปิ อตฺถิ ภาเวตพฺพมฺปิ, วิภชิตฺวา นมสฺสา ทสฺเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทุติยคาถํ อาหฯ ตตฺถ น มโน สํยตตฺตมาคตนฺติ, ยํ วุตฺตํ ‘‘น สพฺพโต มโน นิวารเย’’ติ, กตรํ ตํ มโน, ยํ ตํ สพฺพโต น นิวาเรตพฺพนฺติ เจฯ มโน สํยตตฺตํ อาคตํ, ยํ มโน ยตฺถ สํยตภาวํ อาคตํ, ‘‘ทานํ ทสฺสามิ, สีลํ รกฺขิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน อุปฺปนฺนํ, เอตํ มโน น นิวาเรตพฺพํ, อญฺญทตฺถุ พฺรูเหตพฺพํ วฑฺเฒตพฺพํฯ ยโต ยโต จ ปาปกนฺติ ยโต ยโต อกุสลํ อุปฺปชฺชติ, ตโต ตโต จ ตํ นิวาเรตพฺพนฺติฯ จตุตฺถํฯ