เมนู

คูถกูปปุริสอุปมา

[415] ‘‘เตน หิ, ราชญฺญ, อุปมํ เต กริสฺสามิฯ อุปมาย มิเธกจฺเจ [อุปมายปิเธกจฺเจ (สี. สฺยา.), อุปมายปิอิเธกจฺเจ (ปี.)] วิญฺญู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติฯ เสยฺยถาปิ, ราชญฺญ, ปุริโส คูถกูเป สสีสกํ [สสีสโก (สฺยา.)] นิมุคฺโค อสฺสฯ อถ ตฺวํ ปุริเส อาณาเปยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตํ ปุริสํ ตมฺหา คูถกูปา อุทฺธรถา’ติฯ เต ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา ตํ ปุริสํ ตมฺหา คูถกูปา อุทฺธเรยฺยุํฯ เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตสฺส ปุริสสฺส กายา เวฬุเปสิกาหิ คูถํ สุนิมฺมชฺชิตํ นิมฺมชฺชถา’ติฯ เต ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา ตสฺส ปุริสสฺส กายา เวฬุเปสิกาหิ คูถํ สุนิมฺมชฺชิตํ นิมฺมชฺเชยฺยุํฯ เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตสฺส ปุริสสฺส กายํ ปณฺฑุมตฺติกาย ติกฺขตฺตุํ สุพฺพฏฺฏิตํ อุพฺพฏฺเฏถา’ติ [สุปฺปฏฺฏิตํ อุปฺปฏฺเฏถาติ (ก.)]ฯ เต ตสฺส ปุริสสฺส กายํ ปณฺฑุมตฺติกาย ติกฺขตฺตุํ สุพฺพฏฺฏิตํ อุพฺพฏฺเฏยฺยุํฯ เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตํ ปุริสํ เตเลน อพฺภญฺชิตฺวา สุขุเมน จุณฺเณน ติกฺขตฺตุํ สุปฺปโธตํ กโรถา’ติฯ เต ตํ ปุริสํ เตเลน อพฺภญฺชิตฺวา สุขุเมน จุณฺเณน ติกฺขตฺตุํ สุปฺปโธตํ กเรยฺยุํฯ เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตสฺส ปุริสสฺส เกสมสฺสุํ กปฺเปถา’ติฯ เต ตสฺส ปุริสสฺส เกสมสฺสุํ กปฺเปยฺยุํฯ เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตสฺส ปุริสสฺส มหคฺฆญฺจ มาลํ มหคฺฆญฺจ วิเลปนํ มหคฺฆานิ จ วตฺถานิ อุปหรถา’ติฯ เต ตสฺส ปุริสสฺส มหคฺฆญฺจ มาลํ มหคฺฆญฺจ วิเลปนํ มหคฺฆานิ จ วตฺถานิ อุปหเรยฺยุํฯ เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตํ ปุริสํ ปาสาทํ อาโรเปตฺวา ปญฺจกามคุณานิ อุปฏฺฐาเปถา’ติฯ เต ตํ ปุริสํ ปาสาทํ อาโรเปตฺวา ปญฺจกามคุณานิ อุปฏฺฐาเปยฺยุํฯ

‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, ราชญฺญ, อปิ นุ ตสฺส ปุริสสฺส สุนฺหาตสฺส สุวิลิตฺตสฺส สุกปฺปิตเกสมสฺสุสฺส อามุกฺกมาลาภรณสฺส โอทาตวตฺถวสนสฺส อุปริปาสาทวรคตสฺส ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตสฺส สมงฺคีภูตสฺส ปริจารยมานสฺส ปุนเทว ตสฺมิํ คูถกูเป นิมุชฺชิตุกามตา [นิมุชฺชิตุกามฺยตา (สฺยา. ก.)] อสฺสา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ กสฺสป’’ฯ

‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อสุจิ, โภ กสฺสป, คูถกูโป อสุจิ เจว อสุจิสงฺขาโต จ ทุคฺคนฺโธ จ ทุคฺคนฺธสงฺขาโต จ เชคุจฺโฉ จ เชคุจฺฉสงฺขาโต จ ปฏิกูโล จ ปฏิกูลสงฺขาโต จา’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, ราชญฺญ, มนุสฺสา เทวานํ อสุจี เจว อสุจิสงฺขาตา จ, ทุคฺคนฺธา จ ทุคฺคนฺธสงฺขาตา จ, เชคุจฺฉา จ เชคุจฺฉสงฺขาตา จ, ปฏิกูลา จ ปฏิกูลสงฺขาตา จฯ โยชนสตํ โข, ราชญฺญ, มนุสฺสคนฺโธ เทเว อุพฺพาธติฯ กิํ ปน เต มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรตา ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรตา สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรตา อนภิชฺฌาลู อพฺยาปนฺนจิตฺตา สมฺมาทิฏฺฐี, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา เต อาคนฺตฺวา อาโรเจสฺสนฺติ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’ติ? อิมินาปิ โข เต, ราชญฺญ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติฯ

[416] ‘‘กิญฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติฯ ‘‘อตฺถิ ปน, ราชญฺญ, ปริยาโย …เป.… ‘‘อตฺถิ, โภ กสฺสป, ปริยาโย…เป.… ``ยถา กถํ วิย, ราชญฺญาติ? ‘‘อิธ เม, โภ กสฺสป, มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา ปฏิวิรตา, เต อปเรน สมเยน อาพาธิกา โหนฺติ ทุกฺขิตา พาฬฺหคิลานาฯ ยทาหํ ชานามิ – ‘น ทานิเม อิมมฺหา อาพาธา วุฏฺฐหิสฺสนฺตี’ติ ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สนฺติ โข, โภ, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน – เย เต ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา ปฏิวิรตา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ เทวานํ ตาวติํสานํ สหพฺยตนฺติฯ ภวนฺโต โข ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา ปฏิวิรตาฯ

สเจ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ, ภวนฺโต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสนฺติ, เทวานํ ตาวติํสานํ สหพฺยตํฯ สเจ, โภ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยาถ เทวานํ ตาวติํสานํ สหพฺยตํ, เยน เม อาคนฺตฺวา อาโรเจยฺยาถ – `อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโกติฯ ภวนฺโต โข ปน เม สทฺธายิกา ปจฺจยิกา, ยํ ภวนฺเตหิ ทิฏฺฐํ, ยถา สามํ ทิฏฺฐํ เอวเมตํ ภวิสฺสตีติฯ เต เม ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา เนว อาคนฺตฺวา อาโรเจนฺติ, น ปน ทูตํ ปหิณนฺติฯ อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติฯ

ตาวติํสเทวอุปมา

[417] ‘‘เตน หิ, ราชญฺญ, ตญฺเญเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ; ยถา เต ขเมยฺย, ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิฯ ยํ โข ปน, ราชญฺญ, มานุสฺสกํ วสฺสสตํ, เทวานํ ตาวติํสานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว [รตฺติทิโว (ก.)], ตาย รตฺติยา ติํสรตฺติโย มาโส, เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร, เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพํ วสฺสสหสฺสํ เทวานํ ตาวติํสานํ อายุปฺปมาณํฯ เย เต มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา ปฏิวิรตา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา เทวานํ ตาวติํสานํ สหพฺยตํฯ สเจ ปน เตสํ เอวํ ภวิสฺสติ – ‘ยาว มยํ ทฺเว วา ตีณิ วา รตฺตินฺทิวา ทิพฺเพหิ ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจาเรม, อถ มยํ ปายาสิสฺส ราชญฺญสฺส คนฺตฺวา อาโรเจยฺยาม – ‘‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติฯ อปิ นุ เต อาคนฺตฺวา อาโรเจยฺยุํ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ กสฺสปฯ อปิ หิ มยํ, โภ กสฺสป, จิรํ กาลงฺกตาปิ ภเวยฺยามฯ โก ปเนตํ โภโต กสฺสปสฺส อาโรเจติ – ‘อตฺถิ เทวา ตาวติํสา’ติ วา ‘เอวํทีฆายุกา เทวา ตาวติํสา’ติ วาฯ น มยํ โภโต กสฺสปสฺส สทฺทหาม – ‘อตฺถิ เทวา ตาวติํสา’ติ วา ‘เอวํทีฆายุกา เทวา ตาวติํสา’ติ วา’’ติฯ

ชจฺจนฺธอุปมา

[418] ‘‘เสยฺยถาปิ, ราชญฺญ, ชจฺจนฺโธ ปุริโส น ปสฺเสยฺย กณฺห – สุกฺกานิ รูปานิ , น ปสฺเสยฺย นีลกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย ปีตกานิ [มญฺเชฏฺฐกานิ (สฺยา.)] รูปานิ, น ปสฺเสยฺย โลหิตกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย มญฺชิฏฺฐกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย สมวิสมํ, น ปสฺเสยฺย ตารกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย จนฺทิมสูริเยฯ โส เอวํ วเทยฺย – ‘นตฺถิ กณฺหสุกฺกานิ รูปานิ, นตฺถิ กณฺหสุกฺกานํ รูปานํ ทสฺสาวีฯ นตฺถิ นีลกานิ รูปานิ, นตฺถิ นีลกานํ รูปานํ ทสฺสาวีฯ นตฺถิ ปีตกานิ รูปานิ, นตฺถิ ปีตกานํ รูปานํ ทสฺสาวีฯ นตฺถิ โลหิตกานิ รูปานิ, นตฺถิ โลหิตกานํ รูปานํ ทสฺสาวีฯ นตฺถิ มญฺชิฏฺฐกานิ รูปานิ, นตฺถิ มญฺชิฏฺฐกานํ รูปานํ ทสฺสาวีฯ นตฺถิ สมวิสมํ, นตฺถิ สมวิสมสฺส ทสฺสาวีฯ นตฺถิ ตารกานิ รูปานิ, นตฺถิ ตารกานํ รูปานํ ทสฺสาวีฯ นตฺถิ จนฺทิมสูริยา, นตฺถิ จนฺทิมสูริยานํ ทสฺสาวีฯ อหเมตํ น ชานามิ, อหเมตํ น ปสฺสามิ, ตสฺมา ตํ นตฺถี’ติฯ สมฺมา นุ โข โส, ราชญฺญ, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ กสฺสปฯ อตฺถิ กณฺหสุกฺกานิ รูปานิ, อตฺถิ กณฺหสุกฺกานํ รูปานํ ทสฺสาวีฯ อตฺถิ นีลกานิ รูปานิ, อตฺถิ นีลกานํ รูปานํ ทสฺสาวี…เป.… อตฺถิ สมวิสมํ, อตฺถิ สมวิสมสฺส ทสฺสาวีฯ อตฺถิ ตารกานิ รูปานิ, อตฺถิ ตารกานํ รูปานํ ทสฺสาวีฯ อตฺถิ จนฺทิมสูริยา, อตฺถิ จนฺทิมสูริยานํ ทสฺสาวีฯ ‘อหเมตํ น ชานามิ, อหเมตํ น ปสฺสามิ, ตสฺมา ตํ นตฺถี’ติฯ น หิ โส, โภ กสฺสป, สมฺมา วทมาโน วเทยฺยา’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข ตฺวํ, ราชญฺญ, ชจฺจนฺธูปโม มญฺเญ ปฏิภาสิ ยํ มํ ตฺวํ เอวํ วเทสิ’’ฯ

‘‘โก ปเนตํ โภโต กสฺสปสฺส อาโรเจติ – ‘อตฺถิ เทวา ตาวติํสา’’ติ วา, ‘เอวํทีฆายุกา เทวา ตาวติํสา’ติ วา? น มยํ โภโต กสฺสปสฺส สทฺทหาม – ‘อตฺถิ เทวา ตาวติํสา’ติ วา ‘เอวํทีฆายุกา เทวา ตาวติํสา’ติ วา’’ติฯ ‘‘น โข, ราชญฺญ, เอวํ ปโร โลโก ทฏฺฐพฺโพ, ยถา ตฺวํ มญฺญสิ อิมินา มํสจกฺขุนาฯ