เมนู

[310] ‘‘อถ โข, โภ, เต ฉ ขตฺติยา ยถาสเกน ลาเภน อตฺตมนา อเหสุํ ปริปุณฺณสงฺกปฺปา – ‘‘ยํ วต โน อโหสิ อิจฺฉิตํ, ยํ อากงฺขิตํ, ยํ อธิปฺเปตํ, ยํ อภิปตฺถิตํ, ตํ โน ลทฺธ’’นฺติฯ

‘‘สตฺตภู พฺรหฺมทตฺโต จ, เวสฺสภู ภรโต สห;

เรณุ ทฺเว ธตรฏฺฐา จ, ตทาสุํ สตฺต ภารธา’ติฯ

ปฐมภาณวาโร นิฏฺฐิโตฯ

กิตฺติสทฺทอพฺภุคฺคมนํ

[311] ‘‘อถ โข, โภ, เต ฉ ขตฺติยา เยน มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ – ‘‘ยถา โข ภวํ โควินฺโท เรณุสฺส รญฺโญ สหาโย ปิโย มนาโป อปฺปฏิกูโลฯ เอวเมว โข ภวํ โควินฺโท อมฺหากมฺปิ สหาโย ปิโย มนาโป อปฺปฏิกูโล, อนุสาสตุ โน ภวํ โควินฺโท; มา โน ภวํ โควินฺโท อนุสาสนิยา ปจฺจพฺยาหาสี’’ติฯ ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เตสํ ฉนฺนํ ขตฺติยานํ ปจฺจสฺโสสิฯ อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ สตฺต จ ราชาโน ขตฺติเย มุทฺธาวสิตฺเต รชฺเช [มุทฺธาภิสิตฺเต รชฺเชน (สฺยา.)] อนุสาสิ, สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาเล สตฺต จ นฺหาตกสตานิ มนฺเต วาเจสิฯ

[312] ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส อปเรน สมเยน เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉิ [อพฺภุคฺคญฺฉิ (สี. ปี.)] – ‘‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’’ติฯ อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มยฺหํ โข เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’ติฯ

น โข ปนาหํ พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ, น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ , น พฺรหฺมุนา มนฺเตมิฯ สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ พฺรหฺมุนา สลฺลปติ พฺรหฺมุนา มนฺเตตี’ติฯ ยํนูนาหํ วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลีเยยฺยํ, กรุณํ ฌานํ ฌาเยยฺย’’นฺติฯ

[313] ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เรณุ ราชา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เรณุํ ราชานํ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหํ โข, โภ, เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’ติฯ น โข ปนาหํ, โภ, พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ, น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ, น พฺรหฺมุนา มนฺเตมิฯ สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ พฺรหฺมุนา สลฺลปติ พฺรหฺมุนา มนฺเตตี’ติฯ อิจฺฉามหํ, โภ, วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียิตุํ, กรุณํ ฌานํ ฌายิตุํ; นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อญฺญตฺร เอเกน ภตฺตาภิหาเรนา’’ติฯ ‘‘ยสฺสทานิ ภวํ โควินฺโท กาลํ มญฺญตี’’ติฯ

[314] ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เต ฉ ขตฺติยา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ฉ ขตฺติเย เอตทโวจ – ‘‘มยฺหํ โข, โภ, เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’ติฯ น โข ปนาหํ, โภ, พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ, น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ, น พฺรหฺมุนา มนฺเตมิฯ สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ, ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ พฺรหฺมุนา สลฺลปติ พฺรหฺมุนา มนฺเตตี’ติฯ อิจฺฉามหํ, โภ, วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียิตุํ, กรุณํ ฌานํ ฌายิตุํ; นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อญฺญตฺร เอเกน ภตฺตาภิหาเรนา’’ติฯ ‘‘ยสฺสทานิ ภวํ โควินฺโท กาลํ มญฺญตี’’’ติฯ

[315] ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เต สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาลา สตฺต จ นฺหาตกสตานิ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาเล สตฺต จ นฺหาตกสตานิ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหํ โข, โภ, เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’ติฯ น โข ปนาหํ, โภ, พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ, น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ, น พฺรหฺมุนา มนฺเตมิฯ สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ, พฺรหฺมุนา สลฺลปติ, พฺรหฺมุนา มนฺเตตี’ติฯ เตน หิ, โภ, ยถาสุเต ยถาปริยตฺเต มนฺเต วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรถ, อญฺญมญฺญญฺจ มนฺเต วาเจถ; อิจฺฉามหํ, โภ, วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียิตุํ, กรุณํ ฌานํ ฌายิตุํ; นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อญฺญตฺร เอเกน ภตฺตาภิหาเรนา’’ติฯ ‘‘ยสฺส ทานิ ภวํ โควินฺโท กาลํ มญฺญตี’’ติฯ

[316] ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน จตฺตารีสา ภริยา สาทิสิโย เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา จตฺตารีสา ภริยา สาทิสิโย เอตทโวจ – ‘‘มยฺหํ โข, โภตี, เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’ติฯ น โข ปนาหํ, โภตี, พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ, น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ, น พฺรหฺมุนา มนฺเตมิฯ สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ, พฺรหฺมุนา สลฺลปติ, พฺรหฺมุนา มนฺเตตีติ, อิจฺฉามหํ, โภตี, วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียิตุํ, กรุณํ ฌานํ ฌายิตุํ; นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อญฺญตฺร เอเกน ภตฺตาภิหาเรนา’’ติฯ ‘‘ยสฺส ทานิ ภวํ โควินฺโท กาลํ มญฺญตี’’’ติฯ

[317] ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ ปุรตฺถิเมน นครสฺส นวํ สนฺธาคารํ การาเปตฺวา วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียิ, กรุณํ ฌานํ ฌายิ; นาสฺสุธ โกจิ อุปสงฺกมติ [อุปสงฺกมิ (ปี.)] อญฺญตฺร เอเกน ภตฺตาภิหาเรนฯ อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อหุเทว อุกฺกณฺฐนา อหุ ปริตสฺสนา – ‘‘สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ พฺรหฺมุนา สลฺลปติ พฺรหฺมุนา มนฺเตตี’ติฯ น โข ปนาหํ พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ น พฺรหฺมุนา มนฺเตมี’’’ติฯ

พฺรหฺมุนา สากจฺฉา

[318] ‘‘อถ โข, โภ, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญาย เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิญฺเชยฺย, เอวเมว, พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส สมฺมุเข ปาตุรโหสิฯ อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส อหุเทว ภยํ อหุ ฉมฺภิตตฺตํ อหุ โลมหํโส ยถา ตํ อทิฏฺฐปุพฺพํ รูปํ ทิสฺวาฯ อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ ภีโต สํวิคฺโค โลมหฏฺฐชาโต พฺรหฺมานํ สนงฺกุมารํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘‘วณฺณวา ยสวา สิริมา, โก นุ ตฺวมสิ มาริส;

อชานนฺตา ตํ ปุจฺฉาม, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติฯ

‘‘มํ เว กุมารํ ชานนฺติ, พฺรหฺมโลเก สนนฺตนํ [สนนฺติจ (ก.)];

สพฺเพ ชานนฺติ มํ เทวา, เอวํ โควินฺท ชานหิ’’ฯ

‘‘‘อาสนํ อุทกํ ปชฺชํ, มธุสากญฺจ [มธุปากญฺจ (สี. สฺยา. ปี.)] พฺรหฺมุโน;

อคฺเฆ ภวนฺตํ ปุจฺฉาม, อคฺฆํ กุรุตุ โน ภวํ’’ฯ

‘‘ปฏิคฺคณฺหาม เต อคฺฆํ, ยํ ตฺวํ โควินฺท ภาสสิ;

ทิฏฺฐธมฺมหิตตฺถาย, สมฺปราย สุขาย จ;

กตาวกาโส ปุจฺฉสฺสุ, ยํ กิญฺจิ อภิปตฺถิต’’นฺติฯ

[319] ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กตาวกาโส โขมฺหิ พฺรหฺมุนา สนงฺกุมาเรนฯ