เมนู

อิเม ทฺเว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา , อติวิย อญฺเญหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จฯ อายุสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, วณฺณสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, สุขสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, ยสสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, สคฺคสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, อาธิปเตยฺยสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิต’นฺติฯ จุนฺทสฺส, อานนฺท, กมฺมารปุตฺตสฺส เอวํ วิปฺปฏิสาโร ปฏิวิเนตพฺโพ’’ติฯ อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ททโต ปุญฺญํ ปวฑฺฒติ,

สํยมโต เวรํ น จียติ;

กุสโล จ ชหาติ ปาปกํ,

ราคโทสโมหกฺขยา สนิพฺพุโต’’ติฯ

จตุตฺโถ ภาณวาโรฯ

ยมกสาลา

[198] อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน หิรญฺญวติยา นทิยา ปาริมํ ตีรํ, เยน กุสินารา อุปวตฺตนํ มลฺลานํ สาลวนํ เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ ฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิฯ อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ เยน หิรญฺญวติยา นทิยา ปาริมํ ตีรํ, เยน กุสินารา อุปวตฺตนํ มลฺลานํ สาลวนํ เตนุปสงฺกมิฯ อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, อนฺตเรน ยมกสาลานํ อุตฺตรสีสกํ มญฺจกํ ปญฺญเปหิ, กิลนฺโตสฺมิ, อานนฺท, นิปชฺชิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา อนฺตเรน ยมกสาลานํ อุตฺตรสีสกํ มญฺจกํ ปญฺญเปสิฯ อถ โข ภควา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโนฯ

เตน โข ปน สมเยน ยมกสาลา สพฺพผาลิผุลฺลา โหนฺติ อกาลปุปฺเผหิฯ เต ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชายฯ ทิพฺพานิปิ มนฺทารวปุปฺผานิ อนฺตลิกฺขา ปปตนฺติ, ตานิ ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชายฯ ทิพฺพานิปิ จนฺทนจุณฺณานิ อนฺตลิกฺขา ปปตนฺติ, ตานิ ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชายฯ ทิพฺพานิปิ ตูริยานิ อนฺตลิกฺเข วชฺชนฺติ ตถาคตสฺส ปูชายฯ ทิพฺพานิปิ สงฺคีตานิ อนฺตลิกฺเข วตฺตนฺติ ตถาคตสฺส ปูชายฯ

[199] อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘สพฺพผาลิผุลฺลา โข, อานนฺท, ยมกสาลา อกาลปุปฺเผหิฯ เต ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชายฯ ทิพฺพานิปิ มนฺทารวปุปฺผานิ อนฺตลิกฺขา ปปตนฺติ, ตานิ ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชายฯ ทิพฺพานิปิ จนฺทนจุณฺณานิ อนฺตลิกฺขา ปปตนฺติ, ตานิ ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชายฯ ทิพฺพานิปิ ตูริยานิ อนฺตลิกฺเข วชฺชนฺติ ตถาคตสฺส ปูชายฯ ทิพฺพานิปิ สงฺคีตานิ อนฺตลิกฺเข วตฺตนฺติ ตถาคตสฺส ปูชายฯ น โข, อานนฺท, เอตฺตาวตา ตถาคโต สกฺกโต วา โหติ ครุกโต วา มานิโต วา ปูชิโต วา อปจิโต วาฯ โย โข, อานนฺท, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา อุปาสโก วา อุปาสิกา วา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรติ สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, โส ตถาคตํ สกฺกโรติ ครุํ กโรติ มาเนติ ปูเชติ อปจิยติ [อิทํ ปทํ สีสฺยาอิโปตฺถเกสุ น ทิสฺสติ], ปรมาย ปูชายฯ ตสฺมาติหานนฺท, ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา วิหริสฺสาม สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโนติฯ เอวญฺหิ โว, อานนฺท, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติฯ

อุปวาณตฺเถโร

[200] เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปวาโณ ภควโต ปุรโต ฐิโต โหติ ภควนฺตํ พีชยมาโนฯ อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ อปสาเรสิ – ‘‘อเปหิ, ภิกฺขุ, มา เม ปุรโต อฏฺฐาสี’’ติฯ อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา อุปวาโณ ทีฆรตฺตํ ภควโต อุปฏฺฐาโก สนฺติกาวจโร สมีปจารีฯ อถ จ ปน ภควา ปจฺฉิเม กาเล อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ อปสาเรติ – ‘อเปหิ ภิกฺขุ, มา เม ปุรโต อฏฺฐาสี’ติฯ โก นุ โข เหตุ, โก ปจฺจโย, ยํ ภควา อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ อปสาเรติ – ‘อเปหิ, ภิกฺขุ, มา เม ปุรโต อฏฺฐาสี’ติ? อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘อยํ, ภนฺเต, อายสฺมา อุปวาโณ ทีฆรตฺตํ ภควโต อุปฏฺฐาโก สนฺติกาวจโร สมีปจารีฯ อถ จ ปน ภควา ปจฺฉิเม กาเล อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ อปสาเรติ – ‘‘อเปหิ, ภิกฺขุ, มา เม ปุรโต อฏฺฐาสี’’ติฯ โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, ยํ ภควา อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ อปสาเรติ – ‘‘อเปหิ, ภิกฺขุ, มา เม ปุรโต อฏฺฐาสี’’ติ? ‘‘เยภุยฺเยน, อานนฺท, ทสสุ โลกธาตูสุ เทวตา สนฺนิปติตา ตถาคตํ ทสฺสนายฯ ยาวตา, อานนฺท, กุสินารา อุปวตฺตนํ มลฺลานํ สาลวนํ สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ, นตฺถิ โส ปเทโส วาลคฺคโกฏินิตุทนมตฺโตปิ มเหสกฺขาหิ เทวตาหิ อปฺผุโฏฯ เทวตา, อานนฺท, อุชฺฌายนฺติ – ‘ทูรา จ วตมฺห อาคตา ตถาคตํ ทสฺสนายฯ กทาจิ กรหจิ ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธาฯ อชฺเชว รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติฯ อยญฺจ มเหสกฺโข ภิกฺขุ ภควโต ปุรโต ฐิโต โอวาเรนฺโต, น มยํ ลภาม ปจฺฉิเม กาเล ตถาคตํ ทสฺสนายา’’’ติฯ

[201] ‘‘กถํภูตา ปน, ภนฺเต, ภควา เทวตา มนสิกโรตี’’ติ [มนสิ กโรนฺตีติ (สฺยา. ก.)]? ‘‘สนฺตานนฺท, เทวตา อากาเส ปถวีสญฺญินิโย เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ [ฉินฺนํปาทํวิย ปปตนฺติ (สฺยา.)], อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ – ‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพายิสฺสติ, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพายิสฺสติ, อติขิปฺปํ จกฺขุํ [จกฺขุมา (สฺยา. ก.)] โลเก อนฺตรธํอายิสฺสตี’ติฯ

‘‘สนฺตานนฺท, เทวตา ปถวิยํ ปถวีสญฺญินิโย เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ – ‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพายิสฺสติ, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพายิสฺสติ, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรธายิสฺสตี’’’ติฯ