เมนู

สเจปิสฺส โหติ ‘‘อุโปสถาคารญฺจ ภวิสฺสติ, อหญฺจ วสิสฺสามิ ชนฺตาฆรญฺจ โภชนสาลา จ อคฺคิสาลา จ ภวิสฺสติ, อหญฺจ วสิสฺสามี’’ติ การิเตปิ อานาปตฺติเยวฯ มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อนาปตฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘อตฺตโน วาสาคารตฺถาย กโรนฺตสฺเสว อาปตฺตี’’ติ วุตฺตํฯ อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกานญฺจ อาฬวกานํ ภิกฺขูนํ อนาปตฺติฯ

สมุฏฺฐานาทีสุ ฉสมุฏฺฐานํ กิริยญฺจ กิริยากิริยญฺจ, อิทญฺหิ วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกนฺตํ กโรโต กิริยโต สมุฏฺฐาติ, วตฺถุํ อเทสาเปตฺวา กโรโต กิริยากิริยโต, โนสญฺญาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ

กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

7. วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา

[365] เตน สมเยนาติ วิหารการสิกฺขาปทํฯ ตตฺถ โกสมฺพิยนฺติ เอวํนามเก นคเรฯ โฆสิตาราเมติ โฆสิตสฺส อาราเมฯ โฆสิตนามเกน กิร เสฏฺฐินา โส การิโต, ตสฺมา ‘‘โฆสิตาราโม’’ติ วุจฺจติฯ ฉนฺนสฺสาติ โพธิสตฺตกาเล อุปฏฺฐากฉนฺนสฺสฯ วิหารวตฺถุํ, ภนฺเต, ชานาหีติ วิหารสฺส ปติฏฺฐานฏฺฐานํ, ภนฺเต, ชานาหิฯ เอตฺถ จ วิหาโรติ น สกลวิหาโร, เอโก อาวาโส, เตเนวาห – ‘‘อยฺยสฺส วิหารํ การาเปสฺสามี’’ติฯ

เจติยรุกฺขนฺติ เอตฺถ จิตฺตีกตฏฺเฐน เจติยํ, ปูชารหานํ เทวฏฺฐานานเมตํ อธิวจนํ, ‘‘เจติย’’นฺติ สมฺมตํ รุกฺขํ เจติยรุกฺขํฯ คาเมน ปูชิตํ คามสฺส วา ปูชิตนฺติ คามปูชิตํฯ เอเสว นโย เสสปเทสุปิฯ อปิเจตฺถ ชนปโทติ เอกสฺส รญฺโญ รชฺเช เอเกโก โกฏฺฐาโสฯ รฏฺฐนฺติ สกลรชฺชํ เวทิตพฺพํ, สกลรชฺชมฺปิ หิ กทาจิ กทาจิ ตสฺส รุกฺขสฺส ปูชํ กโรติ, เตน วุตฺตํ ‘‘รฏฺฐปูชิต’’นฺติฯ เอกินฺทฺริยนฺติ กายินฺทฺริยํ สนฺธาย วทนฺติฯ ชีวสญฺญิโนติ สตฺตสญฺญิโนฯ

[366] มหลฺลกนฺติ สสฺสามิกภาเวน สํยาจิกกุฏิโต มหนฺตภาโว เอตสฺส อตฺถีติ มหลฺลโกฯ

ยสฺมา วา วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกเมนปิ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ปมาณมหนฺตตายปิ มหลฺลโก , ตํ มหลฺลกํฯ ยสฺมา ปนสฺส ตํ ปมาณมหตฺตํ สสฺสามิกตฺตาว ลพฺภติ, ตสฺมา ตทตฺถทสฺสนตฺถํ ‘‘มหลฺลโก นาม วิหาโร สสฺสามิโก วุจฺจตี’’ติ ปทภาชนํ วุตฺตํฯ เสสํ สพฺพํ กุฏิการสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ สทฺธิํ สมุฏฺฐานาทีหิฯ สสฺสามิกภาวมตฺตเมว หิ เอตฺถ กิริยโต สมุฏฺฐานาภาโว ปมาณนิยมาภาโว จ วิเสโส, ปมาณนิยมาภาวา จ จตุกฺกปาริหานีติฯ

วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

8. ปฐมทุฏฺฐโทสสิกฺขาปทวณฺณนา

[380] เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุฏฺฐโทสสิกฺขาปทํฯ ตตฺถ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปติ เวฬุวนนฺติ ตสฺส อุยฺยานสฺส นามํ, ตํ กิร เวฬุหิ จ ปริกฺขิตฺตํ อโหสิ อฏฺฐารสหตฺเถน จ ปากาเรน โคปุรฏฺฏาลกยุตฺตํ นีโลภาสํ มโนรมํ เตน ‘‘เวฬุวน’’นฺติ วุจฺจติ, กลนฺทกานญฺเจตฺถ นิวาปํ อทํสุ เตน ‘‘กลนฺทกนิวาป’’ติ วุจฺจติฯ

ปุพฺเพ กิร อญฺญตโร ราชา ตตฺถ อุยฺยานกีฬนตฺถํ อาคโต, สุรามเทน มตฺโต ทิวาเสยฺยํ สุปิ, ปริชโนปิสฺส สุตฺโต ราชาติ ปุปฺผผลาทีหิ ปโลภิยมาโน อิโต จิโต จ ปกฺกมิฯ อถ สุราคนฺเธน อญฺญตรสฺมา สุสิรรุกฺขา กณฺหสปฺโป นิกฺขมิตฺวา รญฺโญ อภิมุโข อาคจฺฉติ, ตํ ทิสฺวา รุกฺขเทวตา ‘‘รญฺโญ ชีวิตํ ทสฺสามี’’ติ กาฬกเวเสน อาคนฺตฺวา กณฺณมูเล สทฺทมกาสิ, ราชา ปฏิพุชฺฌิ, กณฺหสปฺโป นิวตฺโต, โส ตํ ทิสฺวา ‘‘อิมาย กาฬกาย มม ชีวิตํ ทินฺน’’นฺติ กาฬกานํ ตตฺถ นิวาปํ ปฏฺฐเปสิ, อภยโฆสนญฺจ โฆสาเปสิ , ตสฺมา ตํ ตโตปภุติ กลนฺทกนิวาปนฺติ สงฺขฺยํ คตํฯ กลนฺทกาติ หิ กาฬกานํ เอตํ นามํฯ

ทพฺโพติ ตสฺส เถรสฺส นามํฯ มลฺลปุตฺโตติ มลฺลราชสฺส ปุตฺโตฯ ชาติยา สตฺตวสฺเสน อรหตฺตํ สจฺฉิกตนฺติ เถโร กิร สตฺตวสฺสิโกว สํเวคํ ลภิตฺวา ปพฺพชิโต ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณีติ เวทิตพฺโพฯ