เมนู

อุทกกถา

[108] อุทเก ปน – ภาชนคตนฺติ อุทกทุลฺลภกาเล อุทกมณิกาทีสุ ภาชเนสุ สงฺโคเปตฺวา ฐปิตํ; ตํ ยสฺมิํ ภาชเน ฐปิตํ โหติ, ตํ ภาชนํ อาวิญฺฉิตฺวา วา ฉิทฺทํ กตฺวา วา ตตฺถ โปกฺขรณีตฬาเกสุ จ อตฺตโน ภาชนํ ปเวเสตฺวา คณฺหนฺตสฺส สปฺปิเตเลสุ วุตฺตนเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพฯ

มริยาทจฺเฉทเน ปน ตตฺถ ชาตกภูตคาเมน สทฺธิมฺปิ มริยาทํ ฉินฺทนฺตสฺส อทินฺนาทานปโยคตฺตา ทุกฺกฏํฯ ตญฺจ ปน ปหาเร ปหาเร โหติฯ อนฺโตฐตฺวา พหิมุโข ฉินฺทนฺโต พหิ อนฺเตน กาเรตพฺโพฯ พหิ ฐตฺวา อนฺโตมุโข ฉินฺทนฺโต อนฺโตอนฺเตน กาเรตพฺโพฯ อนฺโต จ พหิ จ ฉินฺทิตฺวา มชฺเฌ ฐเปตฺวา ตํ ฉินฺทนฺโต มชฺเฌน กาเรตพฺโพฯ มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวา คาโว ปกฺโกสติ, คามทารเกหิ วา ปกฺโกสาเปติ, ตา อาคนฺตฺวา ขุเรหิ มริยาทํ ฉินฺทนฺติ, เตเนว ฉินฺนา โหติฯ มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวา คาโว อุทเก ปเวเสติ, คามทารเกหิ วา ปเวสาเปติ, ตาหิ อุฏฺฐาปิตวีจิโย มริยาทํ ภินฺทิตฺวา คจฺฉนฺติฯ คามทารเก วา ‘‘อุทเก กีฬถา’’ติ วทติ, กีฬนฺเต วา อุตฺราเสติ, เตหิ อุฏฺฐาปิตวีจิโยปิ มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา คจฺฉนฺติฯ อนฺโตอุทเก ชาตรุกฺขํ ฉินฺทติ, อญฺเญน วา ฉินฺทาเปติ, เตนปิ ปตนฺเตน อุฏฺฐาปิตวีจิโย มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา คจฺฉนฺติ, เตเนว ฉินฺนา โหติฯ มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวา ตฬากรกฺขณตฺถาย ตฬากโต นิพฺพหนอุทกํ วา นิทฺธมนตุมฺพํ วา ปิทหติ, อญฺญโต คจฺฉนฺตํ วา อุทกํ ยถา เอตฺถ ปวิสติ, เอวํ ปาฬิํ วา พนฺธติ, มาติกํ วา อุชุกํ กโรติ, ตสฺส อุปริภาเค ฐิตํ อตฺตโน ตฬากํ วา ภินฺทติ, อุสฺสนฺนํ อุทกํ มริยาทํ คเหตฺวา คจฺฉติ, เตเนว ฉินฺนา โหติฯ สพฺพตฺถ นิกฺขนฺตอุทกคฺฆานุรูเปน อวหาเรน กาเรตพฺโพฯ

นิทฺธมนปนาฬิํ อุคฺฆาเฏตฺวา นีหรนฺตสฺสาปิ เอเสว นโยฯ

สเจ ปน เตน มริยาทาย ทุพฺพลาย กตาย อตฺตโน ธมฺมตาย อาคนฺตฺวา วา อนาณตฺเตหิ คามทารเกหิ อาโรปิตา วา คาวิโย ขุเรหิ มริยาทํ ภินฺทนฺติ, อตฺตโนเยว ธมฺมตาย อนาณตฺเตหิ วา คามทารเกหิ อุทเก ปเวสิตา วีจิโย อุฏฺฐาเปนฺติ, คามทารกา วา สยเมว ปวิสิตฺวา กีฬนฺตา อุฏฺฐาเปนฺติ อนฺโตอุทเก วา รุกฺโข อญฺเญน ฉิชฺชมาโน ปติตฺวา อุฏฺฐาเปติ, อุฏฺฐาปิตา วีจิโย มริยาทํ ฉินฺทนฺติ, สเจปิ มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวา สุกฺขตฬากสฺส อุทกนิพฺพหนฏฺฐานํ วา อุทกนิทฺธมนตุมฺพํ วา ปิทหติ, อญฺญโต คมนมคฺเค วา ปาฬิํ พนฺธติ, สุกฺขมาติกํ วา อุชุกํ กโรติ, ปจฺฉา เทเว วุฏฺเฐ อุทกํ อาคนฺตฺวา มริยาทํ ภินฺทติ, สพฺพตฺถ ภณฺฑเทยฺยํฯ

โย ปน นิทาเฆ สุกฺขวาปิยา มริยาทํ ยาว ตลํ ปาเปตฺวา ฉินฺทติ, ปจฺฉา เทเว วุฏฺเฐ อาคตาคตํ อุทกํ ปลายติ, ภณฺฑเทยฺยํฯ ยตฺตกํ ตปฺปจฺจยา สสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ตโต ปาทมตฺตคฺฆนกมฺปิ อเทนฺโต สามิกานํ ธุรนิกฺเขเปน อสฺสมโณ โหติฯ

ยํ ปน สพฺพสาธารณํ ตฬากํ โหติ; ตฬาเก อุทกสฺส สพฺเพปิ มนุสฺสา อิสฺสราฯ เหฏฺฐโต ปนสฺส สสฺสานิ กโรนฺติ, สสฺสปาลนตฺถํ ตฬากโต มหามาติกา นิกฺขมิตฺวา เขตฺตมชฺเฌน ยาติ, สาปิ สทา สนฺทนกาเล สพฺพสาธารณาฯ ตโต ปน ขุทฺทกมาติกา นีหริตฺวา อตฺตโน อตฺตโน เกทาเรสุ อุทกํ ปเวเสนฺติฯ ตํ อญฺเญสํ คเหตุํ น เทนฺติฯ นิทาฆสมเยว อุทเก มนฺทีภูเต วาเรน อุทกํ เทนฺติ, โย อุทกวาเร สมฺปตฺเต น ลภติ, ตสฺส สสฺสานิ มิลายนฺติ; ตสฺมา อญฺเญสํ วาเร อญฺโญ คเหตุํ น ลภติฯ ตตฺถ โย ภิกฺขุ ปเรสํ ขุทฺทกมาติกาโต วา เกทารโต วา อุทกํ เถยฺยจิตฺเตน อตฺตโน วา ปรสฺส วา มาติกํ วา เกทารํ วา ปเวเสติ, อฏวิมุขํ วา วาเหติ, อวหาโร วสฺส โหติฯ

โยปิ ‘‘จิเรน เม อุทกวาโร ภวิสฺสติ, อิทญฺจ สสฺสํ มิลายตี’’ติ ปเรสํ เกทาเร

ปวิสนฺตสฺส อุทกสฺส ปวิสนมคฺคํ ปิทหิตฺวา อตฺตโน เกทารํ ปเวเสติ, อวหาโร เอวฯ สเจ ปน ตฬากโต อนิคฺคเต ปเรสํ มาติกามุขํ อสมฺปตฺเตว อุทเก สุกฺขมาติกํเยว ยถา อาคจฺฉนฺตํ อุทกํ อญฺเญสํ เกทาเร อปฺปวิสิตฺวา อตฺตโนเยว เกทารํ ปวิสติ, เอวํ ตตฺถ ตตฺถ พนฺธติฯ อนิกฺขนฺเต พทฺธา สุพทฺธา, นิกฺขนฺเต พทฺธา, ภณฺฑเทยฺยํฯ ตฬากํ คนฺตฺวา สยเมว นิทฺธมนปนาฬิํ อุคฺฆาเฏตฺวา อตฺตโน เกทารํ ปเวเสนฺตสฺสาปิ นตฺถิ อวหาโรฯ กสฺมา? ตฬากํ นิสฺสาย เขตฺตสฺส กตตฺตาฯ กุรุนฺทิยาทีสุ ปน ‘‘อวหาโร’’ติ วุตฺตํฯ

ตํ ‘‘วตฺถุํ กาลญฺจ เทสญฺจา’’ติ อิมินา ลกฺขเณน น สเมติฯ ตสฺมา มหาอฏฺฐกถายํ วุตฺตเมว ยุตฺตนฺติฯ

อุทกกถา นิฏฺฐิตาฯ

ทนฺตโปนกถา

[109] ทนฺตโปณํ อารามฏฺฐกวินิจฺฉเยน วินิจฺฉินิตพฺพํฯ อยํ ปน วิเสโส – โย สงฺฆสฺส เวตนภโต หุตฺวา เทวสิกํ วา ปกฺขมาสวาเรน วา ทนฺตกฏฺฐํ อาหรติ, โส ตํ อาหริตฺวา ฉินฺทิตฺวาปิ ยาว ภิกฺขุสงฺฆํ น สมฺปฏิจฺฉาเปติ, ตาว ตสฺเสว โหติฯ ตสฺมา ตํ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพฯ ตตฺถชาตกํ ปน ครุภณฺฑํ, ตมฺปิ ภิกฺขุสงฺเฆน รกฺขิตโคปิตํ คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพฯ เอเสว นโย คณปุคฺคลคิหิมนุสฺสสนฺตเกปิ ฉินฺนเก อจฺฉินฺนเก จฯ เตสํ อารามุยฺยานภูมีสุ ชาตํ สามเณรา วาเรน ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทนฺตกฏฺฐํ อาหรนฺตา อาจริยุปชฺฌายานมฺปิ อาหรนฺติ, ตํ ยาว ฉินฺทิตฺวา สงฺฆํ น ปฏิจฺฉาเปนฺติ, ตาว สพฺพํ เตสํเยว โหติฯ ตสฺมา ตมฺปิ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพฯ ยทา ปน เต ฉินฺทิตฺวา สงฺฆสฺส ปฏิจฺฉาเปตฺวา ทนฺตกฏฺฐมาฬเก นิกฺขิปนฺติ, ‘‘ยถาสุขํ ภิกฺขุสงฺโฆ ปริภุญฺชตู’’ติ; ตโต ปฏฺฐาย อวหาโร นตฺถิ, วตฺตํ ปน ชานิตพฺพํฯ โย หิ เทวสิกํ สงฺฆมชฺเฌ โอสรติ, เตน ทิวเส ทิวเส เอกเมว ทนฺตกฏฺฐํ คเหตพฺพํฯ โย ปน เทวสิกํ น โอสรติ, ปธานฆเร วสิตฺวา ธมฺมสวเน วา อุโปสถคฺเค วา ทิสฺสติ, เตน ปมาณํ สลฺลกฺเขตฺวา จตฺตาริ ปญฺจทนฺตกฏฺฐานิ อตฺตโน วสนฏฺฐาเน ฐเปตฺวา ขาทิตพฺพานิฯ เตสุ ขีเณสุ สเจ ปุนปิ ทนฺตกฏฺฐมาฬเก พหูนิ โหนฺติเยว, ปุนปิ อาหริตฺวา ขาทิตพฺพานิฯ ยทิ ปน ปมาณํ อสลฺลกฺเขตฺวา อาหรติ, เตสุ อกฺขีเณสุเยว มาฬเก ขียนฺติ, ตโต เกจิ เถรา ‘‘เยหิ คหิตานิ, เต ปฏิอาหรนฺตู’’ติ วเทยฺยุํ, เกจิ ‘‘ขาทนฺตุ, ปุน สามเณรา อาหริสฺสนฺตี’’ติ, ตสฺมา วิวาทปริหรณตฺถํ ปมาณํ สลฺลกฺเขตพฺพํฯ คหเณ ปน โทโส นตฺถิฯ มคฺคํ คจฺฉนฺเตนาปิ เอกํ วา ทฺเว วา ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพนฺติฯ

ทนฺตโปนกถา นิฏฺฐิตาฯ