เมนู

คัณฐีธัมมปทัฏฐกถา
ยกศัพท์แปล ภาค 6
เรื่องโพธิราชกุมาร
1.4/8 ตั้งแต่ สตฺถา อินนฺตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสตฺวา เป็นต้นไป
สตฺถา อฺ พระศาสดา ทสฺเสตฺวา ครั้นทรงแสดงแล้ว ปุพฺพกมฺมํ
ซึ่งกรรมในกาลก่อน อิทํ นี้ ตสฺส โพธิราชกุมารสฺส ของพระโพธิ-
ราชกุมารนั้น วตฺวา ตรัสแล้วว่า กุมาร ดูก่อนพระกุมาร หิ ก็ สฺเจ
ถ้าว่า ตฺวํ อ. พระองค์ อาปชฺชิสฺส จักทรงถึงทั่ว อปฺปมาทํ ซึ่งความ
ไม่ประมาท สทฺธึ พร้อม ภริยาย ด้วยพระชายา เอกสฺมึปิ วเย ในวัย
แม้วัยหนึ่ง ตทา ในกาลนั้นไซร้ ปุตฺโต วา อ. พระโอรสหรือ ธีตา
วา หรือว่า อ.พระธิดา อุปฺปชฺเชยฺย พึงเกิดขึ้น เอกสฺมึปิ วเย ใน
วัยแม้วัยหนึ่ง ปน ก็ สเจ ถ้าว่า โว แห่งพระองค์ ท. หนา เอโกปิ
ปุคฺคโล อ. บุคคลแม้คนหนึ่ง อฺปมตฺโต จักเป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว
อภวิสฺส จักได้เป็นแล้วไซร้ ปุตฺโต วา อ. พระโอรสหรือ ธีตา วา
หรือว่า อ. พระธิดา ปฏิจฺจ จักอาศัยแล้ว ตํ อปฺปมตฺตปุคคลํ ซึ่ง
บุคคลผู้ไม่ประมาทแล้ว อุปฺปาชฺชิสฺส จักเกิดขึ้น กุมาร ดูก่อน
พระกุมาร หิ ก็ อตฺตา อ. ตน (ปุคฺคเลน) อันบุคคล มญฺญมาเนน
ผู้สำคัญอยู่ อตฺตานํ ซึ่งตน ปิยํ ว่าเป็นที่รัก อปฺปมตฺเตน ผู้ไม่ประมาท
แล้ว ตีสุปิ วเยสุ ในวัย ท. แม้สาม รกฺขิตพฺโพ พึงรักษา (อตฺตา)
อ. ตน (ปุคฺคเลน) อันบุคคล อสกฺโกนฺเตน ผู้ไม่อาจอยู่ (รกขิตุํ)

เพื่ออันรักษา เอวํ อย่างนี้ เอกวเยปิ รกฺขิตพฺโพเอว พึงรักษา แม้
ในวัยอันหนึ่งนั่นเทียว อิติ ดังนี้ อาห ตรัสแล้ว คาถํ ซึ่งพระคาถา
อิมํ นี้ว่า
เจ หากว่า (ปุคฺคโล) อ. บุคคล ชญฺญา พึงรู้
อตฺตานํ ซึ่งตน ปิยํ ว่าเป็นที่รักไซร้ รกฺขยฺย
พึงรักษา นํ อตฺตานํ ซึ่งตนนั้น (กตฺวา) กระทำ
สุรกฺขิตํ ให้เป็นสภาพอันตนรักษาดีแล้ว ปณฺฑิโต
อ. บัณฑิต ปฏิชคฺเคยฺย พึงประคับประคอง
(อตฺตานํ) ซึ่งตน ติณฺณํ ยามานํ แห่งยาม ท. 3
หนา อญฺญตรํ ยามํ ตลอดยาม ยามใดยามหนึ่ง
อิติ ดังนี้ ฯ

สตฺถา อ. พระศาสดา ทสฺเสติ ย่อมทรงแสดง กตฺวา กระทำ
ติณฺณํ วยานํ แห่งวัย ท. 3 หนา อญฺญตรํ วยํ ซึ่งวัยอันใดอันหนึ่ง
ยามํ อิติ ให้ซื่อว่ายาม อตฺตโน ธมฺมิสฺสรตาย จเอว เพราะความที่
แห่งพระองค์ทรงเป็นใหญ่ในธรรมด้วยนั้นเทียว (อตฺตโน) เทสนา-
กุสลตาย จ เพราะความที่แห่งพระองค์ ทรงเป็นผู้ฉลาดในเทศนาด้วย
ตตฺถ ปเทสุ ในบท ท. เหล่านั้น อิธ ปเท ในบทนี้ว่า ยามํ
อิติ ดังนี้ฯ
ตสฺมา เพราะเหตุนั้น อตฺโถ อ. เนื้อความ เอตฺถ คาถายํ ใน
พระคาถานี้ (ปณฺฑิเตน) อันบัณฑิต เวทิตพฺโพ พึงทราบ เอวํ

อย่างนี้ว่า สเจ ถ้าว่า (ปุคฺคโล) อ. บุคคล ชาเนยฺย พึงรู้ อตฺตานํ
ซึ่งตน ปิยํ ว่าเป็นที่รักไซร้ รกฺเขยฺย พึงรักษาด นํ อตฺตนํ ซึ่งตน
นั้น (กตฺวา) กระทำ สุรกฺขิตฺ ให้เป็นสภาพอันตนรักษาดีแล้ว คือ
ว่า โส อตฺตา อ. ตนนั้น สุรกฺขิตํ เป็นสภาพอันบุคคลรักษาดีแล้ว
โหติ ย่อมเป็น ยถา โดยประการใด รกฺเขยฺย พึงรักษา ตํ อตฺตานํ
ซึ่งตนนั้น เอวํ โดยประการนั้น
ตฺตถ อตฺตรกฺขกชเนสุ ในชน ผู้รักษาซึ่งตน ท. เหล่านั้นหนา สเจ
ถ้าว่า (อตฺตรกฺขกชโน) อ. ชนผู้รักษาซึ่งตน คิหี เป็นคฤหัสถ์ สมาโน
เป็นอยู่ (จินฺเตตฺวา) คิดแล้วว่า อหํ อ. เรา รกฺขิสฺสามิ จักรักษา อตฺตานํ
ซึ่งตน อิติ ดังนี้ ปวิสิตฺวา เข้าไปแล้ว คพฺภํ สู่ห้อง สุสํวุตํ อันบุคคล
ปิดดีแล้ว สมฺปนฺนรกฺโข เป็นผู้มีการรักษา อันถึงพร้อมแล้ว หุตฺวา เป็น
วสนฺโตปิ แม้อยู่อยู่ ปาสาทตเล บนพื้นแห่งปราสาท อุปริ ในเบื้องบน
อตฺตานํ น รกฺขติเอว เชื่อว่าย่อมไม่รักษา ซึ่งตนนั้นเทียว (อตฺตรกฺขกชโน)
อ. ชนผู้รักษาซึ่งตน ปพฺพชิโต เป็นบรรพชิต หุตวา เป็น วิหรนฺโตปิ
แม้อยู่อยู่ เลเณ ในถ้ำ ปิทหิตทฺวารวาตปาเน อันมีประตู และหน้าต่าง
อันอันบุคคลปิดแล้ว สุสํวุเต อันอันบุคคลระวังดีแล้วไซร้ อตฺตานํ น
รกฺขติเอว ย่อมไม่ชื่อว่ารักษา ซึ่งตนนั้นเทียว ฯ ปน แต่ว่า (อตฺตรกฺขก-
ชโน) อ. ชนผู้รักษาซึ่งตน คิหี เป็นหฤหัสถ์ สมาโน เป็นอยู่ กโรนฺโต
กระทำอยู่ ปุญฺญานิ ซึ่งบุญ ท. ทานสีลาทีนิ มีทานและศีลเป็นต้น
ยถาพลํ ตามกำลัง อตฺตานํ รกฺขติ นาม ชื่อว่าย่อมรักษา ซึ่งตน วา ปน
ก็หรือว่า (อตฺตรกฺขกชโน) อ. ชนผู้รักษาซึ่งตน ปพฺพชิโต เป็น
บรรพชิต (หุตฺวา) เป็น อาปชฺชมาโน ถึงทั่วอยู่ อุสฺสุกฺกํ ซึ่งความ
ขวนขวาย วตฺตปฺปฏิวตฺตปริยตฺติมนสิกาเรสุ ในวัตรและวัตรอันสมควร

และการกระทำไว้ในใจซึ่งปริยัติ ท. รกฺขติ นาม ชื่อว่าย่อมรักษา
อตฺตานํ ซึ่งตน ฯ ปณฺฑิตปุริโส อ. บุรุษผู้เป็นบัณฑิต อสกฺโกนฺโต
เมื่อไม่อาจ (กาตุํ) เพื่ออันกระทำ เอวํ อย่างนี้ ตีสุ วเยสุ ในวัย
ท. 3 อตฺตานํ ปฏิชคฺคติเอว ย่อมประคับประคอง ซึ่งตนนั่นเทียว
อญฺญตรสฺมึปิ วเย ในวัยแม้วัยใดวัยหนึ่ง ฯ
หิ ก็ สเจ ถ้าว่า (อตฺตรกฺขกชโน) อ. ชนผู้รักษาซึ่งตน
คิหิภูโต ผู้เป็นคฤหัสถ์เป็นแล้ว น สกฺโกติ ย่อมไม่อาจ กาตุํ เพื่อ
อันกระทำ กุสลํ ซึ่งกุศล (อตฺตโน) ขิฑฺฑาปสุตตาย เพราะความที่
แห่งตนเป็นผู้ขวนขวายแล้วในการเล่น ปฐมวเย ในวัยที่หนึ่งไซร้ กุสลํ
อ. กุศล (เตน อตฺตรกฺขกชเนน) อันชนผู้รักษาซึ่งตนนั่น อปฺปมตฺเตน
เป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว หุตฺวา เป็น กาตพฺพํ พึงกระทำ มชฺฌิมวเย
ในวัยอันนี้ในท่ามกลาง ฯ สเจ ถ้าว่า (อตฺตรกฺขกชโน) อ. ชนผู้รักษา
ซึ่งตน (คิหิภูโต) ผู้เป็นคฤหัสถ์เป็นแล้ว โปเสนฺโต เลี้ยงดูอยู่ ปุตฺตทารํ
ซึ่งบุตรและเมีย มชฺฌิมวเย ในวัยอันมีในท่ามกลาง น สกฺโกติ ย่อมไม่อาจ
กาตุํ เพื่ออันกระทำ กุสลํ ซึ่งกุศลไซร้ (กุสลํ) อ. กุศล (เตย อตฺตรกฺขก-
ชเนน) อันชนผู้รักษาซึ่งตนนั้น (อปฺปมตฺเตน) เป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว
(หุตฺวา) เป็น ปจฺฉิมวเย กาตพฺพํเอว พึงกระทำ ในวัยอันมีในเบื้องหลัง
นั่นเทียว ฯ อตฺตา อ. ตน เตน อตฺตรกฺขกชเนน ปฏิชคฺคิโต ว เป็นสภาพอัน
ชนผู้รักษาซึ่งตนนั้น ประคับประคองแล้วเทียว เอวํปิ แม้ด้วยประการ
ฉะนี้ โหติ ย่อมเป็น ฯ ปน แต่ว่า (ตสฺส อตฺตรกฺขกชนสฺส) เมื่อ
ชนผู้รักษาซึ่งตนนั้น อกโรนฺตสฺส ไม่กระทำอยู่ เอวํ อย่างนี้ อตฺตา

อ. ตน ปิโย นาม ชื่อว่าเป็นที่รัก โหติ ย่อมเป็น น หามิได้ (โส
อตฺตรกฺขกชโน) อ. ชนผู้รักษาซึ่งตนนั้น กโรติ ย่อมกระทำ นํ
อตฺตานํ ซึ่งตนนั้น อปายปรายนํเอว ให้เป็นสภาพมีอบายเป็นที่ไปใน
เบื้องหน้านั่นเทียว
ปน ก็ สเจ ถ้าว่า (อตฺตรกฺขกขโน) อ. ชนผู้รักษาซึ่งตน
ปพฺพชิโต เป็นบรรพชิต (หุตฺวา) เป็น กโรนฺโต กระทำอยู่ สชฺฌยํ
ซึ่งการสาธยาย ธาเรนฺโต ทรงจำอยู่ วาเจนฺโต บอกอยู่ กโรนฺโต
กระทำอยู่ วตฺตปฺปฏิวตฺตํ ซึ่งวัตรและวัตรอันสมควร ปฐมวเย ใน
วัยที่หนึ่ง อาปชฺชติ ชื่อว่าย่อมถึงทั่ว ปมาทํ ซึ่งความประมาทไซร้
สมณธมฺโม อ. สมณธรรม (เตน อตฺตรกฺขกปพฺพชิเตน) อันบรรพชิต
ผู้รักษาซึ่งตนนั้น อปฺปมตฺเตน เป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว (หุตฺวา) เป็น
กาตพฺโพ พึงกระทำ มชฺฌิมวเย ในวัยอันมีในท่ามกลาง ฯ ปน อนึ่ง
สเจ ถ้าว่า (อตฺตรกฺขกปพฺพชิโต) อ. บรรพชิตผู้รักษาซึ่งตน ปุจฺฉนฺโต
ถามอยู่ อฏฺฐกถาวินิจฺฉยํ จ ซึ่งอรรถกถาและวินิจฉัยด้วย การณํ จ ซึ่ง
เหตุด้วย อุคฺคหิตปริยตฺติยา แห่งปริยัติอันอันตนเรียนเอาแล้ว ปฐมวเย
ในวัยที่หนึ่ง อาปชฺชติ ชื่อว่าย่อมถึงทั่ว ปมาทํ ซึ่งความประมาท
่มชฺฌิมวเย ในวัยอันมีในท่ามกลางไซร้ สมณธมฺโม อ. สมณธรรม
(เตน อตฺตรกฺขกปพฺพชิเตน) อันบรรพชิตผู้รักษาซึ่งตนนั้น อปฺปมตฺ-
เตน เป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว (หุตฺวา) เป็น กาตพฺโพ พึงกระทำ
ปจฺฉิมวเย ในวัยอันมีในเบื้องหลัง ฯ อตฺตา อ. ตน เตน อตฺต-
รกฺขกปพฺพชิเตน ปฏิชคฺคิโต ว เป็นสภาพอันบรรพชิต ผู้รักษาซึ่งตนนั้น

ประคับประคองแล้วเทียว เอวํปิ แม้ด้วยประการฉะนี้ โหติ ย่อมเป็น ฯ
ปน แต่ว่า (ตสฺส อตฺตรกฺขกปพฺพชิตสฺส) เมื่อบรรพชิต ผู้รักษาซึ่งตน
นั้น อกโรนฺตสฺส ไม่กระทำอยู่ เอวํ อย่างนี้ อตฺตา อ. ตน ปิโย นาม
ชื่อว่าเป็นที่รัก โหติ ย่อมเป็น น หามิได้ (โส อตฺตรกฺขกปพฺพขิโต)
อ. บรรพชิต ผู้รักษาซึ่งตนนั้น นํ อตฺตานํ ยังตนนั้น ตาเปติ ย่อมให้
เดือดร้อน ปจฺฉานุตาเปนเอว ด้วยการตามเดือดร้อนในภายหลัง
นั่นเทียว อิติ ดังนี้ ฯ