เมนู

5. อตฺตาทานวคฺโค

[436] [จูฬว. 399; อ. นิ. 10.44] ‘‘โจทเกน, ภนฺเต, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน กติ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’ติ? ‘‘โจทเกนุปาลิ, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน ปญฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปโร โจเทตพฺโพฯ กตเม ปญฺจ? โจทเกนุปาลิ, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ปริสุทฺธกายสมาจาโร นุ โขมฺหิ, ปริสุทฺเธนมฺหิ กายสมาจาเรน สมนฺนาคโต อจฺฉิทฺเทน อปฺปฏิมํเสน, สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน’’ติฯ โน เจ, อุปาลิ, ภิกฺขุ ปริสุทฺธกายสมาจาโร โหติ, ปริสุทฺเธน กายสมาจาเรน สมนฺนาคโต อจฺฉิทฺเทน อปฺปฏิมํเสน, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อิงฺฆ, ตาว อายสฺมา กายิกํ สิกฺขสฺสู’ติ อิติสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ

‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, โจทเกน ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ปริสุทฺธวจีสมาจาโร นุ โขมฺหิ, ปริสุทฺเธนมฺหิ วจีสมาจาเรน สมนฺนาคโต อจฺฉิทฺเทน อปฺปฏิมํเสน, สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน’ติฯ โน เจ, อุปาลิ, ภิกฺขุ ปริสุทฺธวจีสมาจาโร โหติ, ปริสุทฺเธน วจีสมาจาเรน สมนฺนาคโต อจฺฉิทฺเทน อปฺปฏิมํเสน, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อิงฺฆ, ตาว อายสฺมา วาจสิกํ สิกฺขสฺสู’ติ อิติสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ

‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, โจทเกน ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘เมตฺตํ นุ โข เม จิตฺตํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ สพฺรหฺมจารีสุ อนาฆาตํ, สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน’ติฯ โน เจ, อุปาลิ, ภิกฺขุโน เมตฺตํ จิตฺตํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อนาฆาตํ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อิงฺฆ, ตาว อายสฺมา สพฺรหฺมจารีสุ เมตฺตํ จิตฺตํ อุปฏฺฐาเปหี’ติ อิติสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ

‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, โจทเกน ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘พหุสฺสุโต นุ โขมฺหิ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปา เม ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺฐิยา สุปฺปฏิวิทฺธา, สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน’ติฯ โน เจ, อุปาลิ, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปสฺส ธมฺมา น พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺฐิยา สุปฺปฏิวิทฺธา, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อิงฺฆ, ตาว อายสฺมา อาคมํ ปริยาปุณสฺสู’ติ อิติสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ

‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, โจทเกน ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘อุภยานิ โข เม ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยญฺชนโส, สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน’ติฯ โน เจ, อุปาลิ, ภิกฺขุโน อุภยานิ ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยญฺชนโส, ‘อิทํ ปนาวุโส กตฺถ วุตฺตํ ภควตา’ติ อิติ ปุฏฺโฐ น สมฺปายติ [น สมฺปาทยติ (ก.), น สมฺปาเทติ (สฺยา.)], ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อิงฺฆ, ตาว อายสฺมา วินยํ ปริยาปุณสฺสู’ติ อิติสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ โจทเกนุปาลิ, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน อิเม ปญฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’ติฯ

[437] ‘‘โจทเกน, ภนฺเต, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน กติ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ อุปฏฺฐาเปตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’ติ? ‘‘โจทเกนุปาลิ, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน ปญฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ อุปฏฺฐาเปตฺวา ปโร โจเทตพฺโพฯ กตเม ปญฺจ? กาเลน วกฺขามิ โน อกาเลน , ภูเตน วกฺขามิ โน อภูเตน, สณฺเหน วกฺขามิ โน ผรุเสน, อตฺถสํหิเตน วกฺขามิ โน อนตฺถสํหิเตน, เมตฺตาจิตฺโต วกฺขามิ โน โทสนฺตโรติ – โจทเกนุปาลิ, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน อิเม ปญฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ อุปฏฺฐาเปตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’ติฯ

[438] [จูฬว. 400] ‘‘โจทเกน, ภนฺเต, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน กติ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ มนสิ กริตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’ติ? ‘‘โจทเกนุปาลิ, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน ปญฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ มนสิ กริตฺวา ปโร โจเทตพฺโพฯ กตเม ปญฺจ? การุญฺญตา, หิเตสิตา, อนุกมฺปตา, อาปตฺติวุฏฺฐานตา, วินยปุเรกฺขารตา – โจทเกนุปาลิ, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน อิเม ปญฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ มนสิ กริตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’ติฯ

[439] ‘‘กติหิ นุ โข, ภนฺเต, องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน โอกาสกมฺมํ การาเปนฺตสฺส นาลํ โอกาสกมฺมํ กาตุ’’นฺติ? ‘‘ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน โอกาสกมฺมํ การาเปนฺตสฺส นาลํ โอกาสกมฺมํ กาตุํฯ

กตเมหิ ปญฺจหิ? อปริสุทฺธกายสมาจาโร โหติ , อปริสุทฺธวจีสมาจาโร โหติ, อปริสุทฺธาชีโว โหติ, พาโล โหติ อพฺยตฺโต, น ปฏิพโล อนุยุญฺชิยมาโน อนุโยคํ ทาตุํ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน โอกาสกมฺมํ การาเปนฺตสฺส นาลํ โอกาสกมฺมํ กาตุํฯ

‘‘ปญฺจหุปาลิ , องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน โอกาสกมฺมํ การาเปนฺตสฺส อลํ โอกาสกมฺมํ กาตุํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? ปริสุทฺธกายสมาจาโร โหติ, ปริสุทฺธวจีสมาจาโร โหติ, ปริสุทฺธาชีโว โหติ, ปณฺฑิโต โหติ พฺยตฺโต ปฏิพโล อนุยุญฺชิยมาโน อนุโยคํ ทาตุํ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน โอกาสกมฺมํ การาเปนฺตสฺส อลํ โอกาสกมฺมํ กาตุ’’นฺติฯ

[440] [จูฬว. 398] ‘‘อตฺตาทานํ อาทาตุกาเมน, ภนฺเต, ภิกฺขุนา กติหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ อตฺตาทานํ อาทาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘อตฺตาทานํ อาทาตุกาเมนุปาลิ, ภิกฺขุนา ปญฺจงฺคสมนฺนาคตํ [ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ (สี. สฺยา.)] อตฺตาทานํ อาทาตพฺพํฯ กตเม ปญฺจ [กตเมหิ ปญฺจหิ (สฺยา.)]? อตฺตาทานํ อาทาตุกาเมน, อุปาลิ, ภิกฺขุนา เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ โข อหํ อิมํ อตฺตาทานํ อาทาตุกาโม, กาโล นุ โข อิมํ อตฺตาทานํ อาทาตุํ อุทาหุ โน’ติฯ สเจ, อุปาลิ, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อกาโล อิมํ อตฺตาทานํ อาทาตุํ โน กาโล’ติ, น ตํ, อุปาลิ, อตฺตาทานํ อาทาตพฺพํฯ

‘‘สเจ ปนุปาลิ, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘กาโล อิมํ อตฺตาทานํ อาทาตุํ โน อกาโล’ติ, เตนุปาลิ ภิกฺขุนา อุตฺตริ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ โข อหํ อิมํ อตฺตาทานํ อาทาตุกาโม ภูตํ นุ โข อิทํ อตฺตาทานํ อุทาหุ โน’ติฯ สเจ, อุปาลิ, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อภูตํ อิทํ อตฺตาทานํ โน ภูต’นฺติ, น ตํ, อุปาลิ, อตฺตาทานํ อาทาตพฺพํฯ

‘‘สเจ ปนุปาลิ ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ภูตํ อิทํ อตฺตาทานํ โน อภูต’นฺติ, เตนุปาลิ ภิกฺขุนา อุตฺตริ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ โข อหํ อิมํ อตฺตาทานํ อาทาตุกาโม, อตฺถสํหิตํ นุ โข อิทํ อตฺตาทานํ อุทาหุ โน’ติฯ

สเจ, อุปาลิ, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ –’ อนตฺถสํหิตํ อิทํ อตฺตาทานํ โน อตฺถสํหิต’นฺติ, น ตํ, อุปาลิ, อตฺตาทานํ อาทาตพฺพํฯ

‘‘สเจ ปนุปาลิ ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อตฺถสํหิตํ อิทํ อตฺตาทานํ โน อนตฺถสํหิต’นฺติ, เตนุปาลิ ภิกฺขุนา อุตฺตริ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘อิมํ โข อหํ อตฺตาทานํ อาทิยมาโน ลภิสฺสามิ สนฺทิฏฺเฐ สมฺภตฺเต ภิกฺขู ธมฺมโต วินยโต ปกฺเข อุทาหุ โน’ติฯ สเจ, อุปาลิ, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อิมํ โข อหํ อตฺตาทานํ อาทิยมาโน น ลภิสฺสามิ สนฺทิฏฺเฐ สมฺภตฺเต ภิกฺขู ธมฺมโต วินยโต ปกฺเข’ติ, น ตํ, อุปาลิ, อตฺตาทานํ อาทาตพฺพํฯ

‘‘สเจ ปนุปาลิ ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อิทํ โข อหํ อตฺตาทานํ อาทิยมาโน ลภิสฺสามิ สนฺทิฏฺเฐ สมฺภตฺเต ภิกฺขู ธมฺมโต วินยโต ปกฺเข’ติ, เตนุปาลิ ภิกฺขุนา อุตฺตริ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘อิมํ โข เม อตฺตาทานํ อาทิยโต ภวิสฺสติ สงฺฆสฺส ตโตนิทานํ ภณฺฑนํ กลโห วิคฺคโห วิวาโท สงฺฆเภโท สงฺฆราชิ สงฺฆววตฺถานํ สงฺฆนานากรณํ อุทาหุ โน’ติฯ สเจ, อุปาลิ, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อิมํ โข เม อตฺตาทานํ อาทิยโต ภวิสฺสติ สงฺฆสฺส ตโตนิทานํ ภณฺฑนํ กลโห วิคฺคโห วิวาโท สงฺฆเภโท สงฺฆราชิ สงฺฆววตฺถานํ สงฺฆนานากรณ’นฺติ, น ตํ, อุปาลิ, อตฺตาทานํ อาทาตพฺพํฯ

‘‘สเจ ปนุปาลิ ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อิมํ โข เม อตฺตาทานํ อาทิยโต น ภวิสฺสติ สงฺฆสฺส ตโตนิทานํ ภณฺฑนํ กลโห วิคฺคโห วิวาโท สงฺฆเภโท สงฺฆราชิ สงฺฆววตฺถานํ สงฺฆนานากรณ’นฺติ, ตํ อาทาตพฺพํ, อุปาลิ, อตฺตาทานํฯ เอวํ ปญฺจงฺคสมนฺนาคตํ โข, อุปาลิ, อตฺตาทานํ อาทินฺนํ ปจฺฉาปิ อวิปฺปฏิสารกรํ ภวิสฺสตี’’ติฯ

[441] ‘‘กติหิ นุ โข, ภนฺเต, องฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อธิกรณชาตานํ ภิกฺขูนํ พหูปกาโร โหตี’’ติ? ‘‘ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อธิกรณชาตานํ ภิกฺขูนํ พหูปกาโร โหติฯ

กตเมหิ ปญฺจหิ? สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย; เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ ตถารูปสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺฐิยา สุปฺปฏิวิทฺธา, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยญฺชนโส; วินเย โข ปน ฐิโต โหติ อสํหีโร; ปฏิพโล โหติ อุโภ อตฺถปจฺจตฺถิเก อสฺสาเสตุํ สญฺญาเปตุํ นิชฺฌาเปตุํ เปกฺเขตุํ ปสาเทตุํ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อธิกรณชาตานํ ภิกฺขูนํ พหูปกาโร โหติฯ

‘‘อปเรหิปิ , อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อธิกรณชาตานํ ภิกฺขูนํ พหูปกาโร โหติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? ปริสุทฺธกายสมาจาโร โหติ, ปริสุทฺธวจีสมาจาโร โหติ, ปริสุทฺธาชีโว โหติ, ปณฺฑิโต โหติ พฺยตฺโต, ปฏิพโล อนุยุญฺชิยมาโน อนุโยคํ ทาตุํ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อธิกรณชาตานํ ภิกฺขูนํ พหูปกาโร โหติฯ

‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อธิกรณชาตานํ ภิกฺขูนํ พหูปกาโร โหติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? วตฺถุํ ชานาติ, นิทานํ ชานาติ, ปญฺญตฺติํ ชานาติ , ปทปจฺจาภฏฺฐํ ชานาติ, อนุสนฺธิวจนปถํ ชานาติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อธิกรณชาตานํ ภิกฺขูนํ พหูปกาโร โหตี’’ติฯ

[442] ‘‘กติหิ นุ โข, ภนฺเต, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยุญฺชิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยุญฺชิตพฺพํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? สุตฺตํ น ชานาติ, สุตฺตานุโลมํ น ชานาติ, วินยํ น ชานาติ, วินยานุโลมํ น ชานาติ, น จ ฐานาฐานกุสโล โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยุญฺชิตพฺพํฯ

‘‘ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนุยุญฺชิตพฺพํฯ

กตเมหิ ปญฺจหิ? สุตฺตํ ชานาติ, สุตฺตานุโลมํ ชานาติ, วินยํ ชานาติ, วินยานุโลมํ ชานาติ, ฐานาฐานกุสโล จ โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนุยุญฺชิตพฺพํฯ

‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยุญฺชิตพฺพํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? ธมฺมํ น ชานาติ, ธมฺมานุโลมํ น ชานาติ, วินยํ น ชานาติ, วินยานุโลมํ น ชานาติ, น จ ปุพฺพาปรกุสโล โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยุญฺชิตพฺพํฯ

‘‘ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนุยุญฺชิตพฺพํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? ธมฺมํ ชานาติ, ธมฺมานุโลมํ ชานาติ, วินยํ ชานาติ, วินยานุโลมํ ชานาติ, ปุพฺพาปรกุสโล จ โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนุยุญฺชิตพฺพํฯ

‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยุญฺชิตพฺพํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? วตฺถุํ น ชานาติ, นิทานํ น ชานาติ, ปญฺญตฺติํ น ชานาติ, ปทปจฺจาภฏฺฐํ น ชานาติ, อนุสนฺธิวจนปถํ น ชานาติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยุญฺชิตพฺพํฯ

‘‘ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนุยุญฺชิตพฺพํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? วตฺถุํ ชานาติ, นิทานํ ชานาติ, ปญฺญตฺติํ ชานาติ, ปทปจฺจาภฏฺฐํ ชานาติ, อนุสนฺธิวจนปถํ ชานาติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนุยุญฺชิตพฺพํฯ

‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยุญฺชิตพฺพํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อาปตฺติํ น ชานาติ, อาปตฺติสมุฏฺฐานํ น ชานาติ, อาปตฺติยา ปโยคํ น ชานาติ, อาปตฺติยา วูปสมํ น ชานาติ, อาปตฺติยา น วินิจฺฉยกุสโล โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยุญฺชิตพฺพํฯ

‘‘ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนุยุญฺชิตพฺพํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อาปตฺติํ ชานาติ, อาปตฺติสมุฏฺฐานํ ชานาติ, อาปตฺติยา ปโยคํ ชานาติ, อาปตฺติยา วูปสมํ ชานาติ, อาปตฺติยา วินิจฺฉยกุสโล โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนุยุญฺชิตพฺพํฯ

‘‘อปเรหิปิ , อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยุญฺชิตพฺพํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อธิกรณํ น ชานาติ, อธิกรณสมุฏฺฐานํ น ชานาติ, อธิกรณสฺส ปโยคํ น ชานาติ, อธิกรณสฺส วูปสมํ น ชานาติ, อธิกรณสฺส น วินิจฺฉยกุสโล โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยุญฺชิตพฺพํฯ

‘‘ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนุยุญฺชิตพฺพํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อธิกรณํ ชานาติ, อธิกรณสมุฏฺฐานํ ชานาติ, อธิกรณสฺส ปโยคํ ชานาติ, อธิกรณสฺส วูปสมํ ชานาติ, อธิกรณสฺส วินิจฺฉยกุสโล โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนุยุญฺชิตพฺพ’’นฺติฯ

อตฺตาทานวคฺโค นิฏฺฐิโต ปญฺจโมฯ

ตสฺสุทฺทานํ –

ปริสุทฺธญฺจ กาเลน, การุญฺญํ โอกาเสน จ;

อตฺตาทานํ อธิกรณํ, อปเรหิปิ วตฺถุญฺจ;

สุตฺตํ ธมฺมํ ปุน วตฺถุญฺจ, อาปตฺติ อธิกรเณน จาติฯ

6. ธุตงฺควคฺโค

[443] ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต, อารญฺญิกา’’ติ? ‘‘ปญฺจิเม, อุปาลิ, อารญฺญิกา [อ. นิ. 5.181; ปริ. 325]ฯ กตเม ปญฺจ? มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา อารญฺญิโก โหติ, ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต อารญฺญิโก โหติ, อุมฺมาทา จิตฺตกฺเขปา อารญฺญิโก โหติ, วณฺณิตํ พุทฺเธหิ พุทฺธสาวเกหีติ อารญฺญิโก โหติ, อปิ จ อปฺปิจฺฉญฺเญว นิสฺสาย สนฺตุฏฺฐิญฺเญว นิสฺสาย – สลฺเลขญฺเญว นิสฺสาย ปวิเวกญฺเญว นิสฺสาย อิทมตฺถิตญฺเญว นิสฺสาย อารญฺญิโก โหติ – อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ อารญฺญิกา’’ติฯ