อารัมภกถา
สำหรับปฐมสังคายนาย
อภิวาทนสีลิสฺส นิจฺจํ วุฑฺฒาปจายิโน
จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ อายุ วณฺโณ สุขํ พลนฺติ.
อาตมภาพขออำนวยพรพุทธภาษิต 4 ประการ คือ อายุ วรรณะ
สุขะ พละ จงสถิตถาวรวัฒนาการตั้งมั่นในบวรขันธปัญจกแห่งบพิตร
ปัจจยทายก และอุบาสกอุบาสิกา ผู้ประกอบด้วยศรัทธาเป็นมหากุศล
มีท่านผู้เป็นอธิบดีสามีทานเป็นต้น ล้วนประกอบด้วยวิมังสาธิบดี
ปัญญาอันพิจารณาเห็นอนิจจาทิลักษณะว่า อนิจฺจํ วต สรรพสิ่ง
สมบัติมีพรรณต่าง ๆ มีหิรัญสุวรรณเป็นต้น ย่อมเป็นอนิจจัง จลาจล
แปรผันด้วยสรรพภัยอันตราย มีราชันตรายเป็นอาทิ อันจะเป็น
อนุคามินีติดตามไปในปรภพเบื้องหน้าหามิได้ อนฺตมโส สรีรมฺปิ
แม้อย่างต่ำแต่สรีระร่างกาย อวัยวะน้อยใหญ่แห่งอาตมานี้ เมื่อ
อาตมาจะไปยังปรภพ ก็เป็นเฉทกธรรมขาดเด็ดกระเด็นออกจากกัน
จะได้ไปด้วยอำนาจอาตมาหามิได้ เบื้องว่าพิจารณาเห็นในอนิจจาทิ-
ลักษณะดังนี้แล้ว จึงเกิดปัญญินทรีย์ คือปัญญาเป็นใหญ่ในวิจาร
พิจารณาว่า สิ่งอื่นเว้นจากกุศลแล้ว อันจะได้เป็นแก่นสารหามิได้
อปฺเปว สาเธยฺยํ แม้นไฉนอาตมาจะกระทำให้ทรัพย์แห่งอาตมาเป็น
แก่นสารติดตามไปในปรภพเบื้องหน้า เมื่อวิจารพิจารณาดังนี้ ก็เห็น
ว่าทรัพย์เป็นแก่นสารนั้น ด้วยความสามารถที่อาตมาฝังฝากลงไว้ในพระ
พุทธศาสนา คือเจตนาที่อาตมาสละทรัพย์ออกกระทำเป็นพุทธบูชา
ธรรมบูชา สังฆบูชา นี่แลได้ชื่อว่าฝังทรัพย์ไว้ในที่อันเป็นแก่นสาร
อนุคามินีนิธิ วิธีฝังขุมทรัพย์เป็นเสบียงตามเลี้ยงอวัยวะอาตมาไปยาว
ตราบเท่าสิวโมกขอมตมหานิพพาน เมื่อปัญญินทรีย์พิจารณาเห็นดังนี้
แล้ว จึงบังเกิดสัทธินทรีย์เป็นใหญ่ในลักษณะที่เชื่อในผลศีลผลทาน
ผลเมตตา ภาวนา สดับฟังพระสัทธรรมเทศนา สัทธินทรีย์นั้นเป็น
อจลธรรมเป็นใหญ่ จะมิได้หวาดหวั่นไหวเชื่อแท้ในคุณทานเป็นอาทิ
ดังนี้แล้ว จึงบังเกิดวิริยินทรีย์ความอุตสาหะเป็นใหญ่ ในที่จะกระทำ
ซึ่งกุศล เมื่อวิริยินทรีย์บังเกิดแล้ว จึงได้กระทำสำเร็จกิจในพิพิธกุศล
ต่าง ๆ เหมือนอย่างบพิตรกระทำในครั้งนี้ ย่อมพร้อมไปด้วยอินทรีย์
ทั้ง 3 ประการบังเกิดขึ้นแล้ว จึงประหารเสียซึ่งข้าศึกภายในคือ
มัจฉริยะความตระหนี่ เมื่อข้าศึกคือมัจฉริยะความตระหนี่พ่ายแพ้แล้ว
บพิตรจึงได้กระทำสรรพกองการกุศลต่าง ๆ คือได้สมาทานศีล 5 ศีล 8
และถวายอาหารบิณฑบาตและไตรจีวรบริขาร บูชาแก่พระภิกษุสงฆ์อัน
ทรงจตุปาริสุทธิศีลในพระศาสนา ณ กาลบัดนี้ ได้ชื่อว่านิธิขุมทรัพย์คือ
บุญ จะเป็นอนุคามินีตามบพิตรไป ฉายา อิว อุปมาดังว่าเงาติดตาม
ซึ่งสรีระ, อนึ่ง พระพุทธฎีกาตรัสไว้ในอนุปุพพีกถาว่า ทลิทฺทหาริกํ
กุศลธรรมมีทานเป็นต้น จะกันเสียซึ่งความเข็ญใจ อปายสญฺฉนฺนํ
กุศลนี้ย่อมปิดเสียซึ่งประตูจตุราบาย 4 สคฺคโสปาณํ กุศลนี้เป็นบันได
ขึ้นสู่สวรรค์เทวโลก กณฺฐฏฺฐวรํ กุศลนี้เป็นกัณฐัฏฐ1อันประเสริฐ สำหรับ
จะได้ขับขี่ไปในทางกันดารคือสังสารวัฏ โมกฺขปฺปเวสนํ กุศลนี้จัก
เป็นวิธีดำเนินเข้าสู่สิวโมกขอมตมหานิพพาน องค์พระพิชิตมารทรง
สรรเสริญไว้ฉะนี้. บพิตรจงมีจิตเปรมปรีดิ์ปราโมทย์ในกุศลของบพิตร
ในครั้งนี้ อย่าให้บังเกิดวิปฏิสารกินแหนงแคลงใจในวัตถุทานและ
ปฏิคาหกผู้รับทาน พึงให้พร้อมไปด้วยไตรกาล เจตนาทั้ง 3 คือ
ปุพพเจตนา มุญจนเจตนา อปราปรเจตนา เจตนาในเบื้องต้น
ในท่ามกลาง ในภายหลัง ให้บริบูรณ์ผ่องใสเป็นอันดี จะเป็นที่ยัง
กุศลให้ภิญโญยิ่ง หาที่สุดมิได้.
ก็บัดนี้ บพิตรคิดให้มีพระสังคายนายตามเยี่ยงอย่างพระอรหันต์
มีพระมหากัสสปเถรเจ้าเป็นประธานได้กระทำมา อันนี้เป็นการยากนัก
ยากหนาที่จะกระทำได้แต่ละครั้ง เมื่อกระทำได้แต่ละครั้งดุจดังว่า
ช่วยบำรุงพระศาสนา คือโอวาทคำสั่งสอนแห่งองค์พระมุนินทรเจ้า
ให้รุ่งเรืองไปตราบสิ้น 5,000 พระวัสสา เหตุว่าการสังคายนายนี้
เป็นวิธีร้อยกรองพระธรรมขันธ์ ทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ มิให้
วิบัติอันตรธานเสื่อมศูนย์ไป เหตุดังนั้น จึงว่าบุคคลผู้ใดให้มีพระ
สังคายนายนี้ มีอานิสงส์มากนัก จะนับประมาณหาที่สุดมิได้ อากาโส
อิว อุปมาดังว่าอากาศอันหาที่สุดมิได้ อาตมาจะพรรณนาไปด้วย
อานิสงส์โดยอเนกบรรยาย การที่จะสังคายนายก็จะเป็นอันเนิ่นช้า
1. ชื่อม้าที่พระมหาบุรุษโพธิสัตว์เจ้าทรงออกมหาภิเนษกรมณ์.
เหตุดังนั้น อาตมาจึงสำแดงโดยสังเขปกถา พอเป็นธรรมสวนานิสงส์
เฉลิมศรัทธาแห่งบพิตรให้ผ่องใส สาธุสัตบุรุษทั้งปวงมีบพิตรเป็นประ
ธาน จงตั้งโสตประสาทโดยสวนาการ ฟังในเรื่องราวความปฐมสังคาย-
นาย อันมีในพระคัมภีร์อันชื่อว่าปฐมสามนต์ อันอาตมาจะดำเนินความ
ในเบื้องต้นไป ณ กาลบัดนี้.
พระปฐมสังคายนาย
กล่าวความจำเดิมแต่เมื่อ ถวายพระเพลิงพุทธสรีระเสร็จแล้ว
พระมหากัสสประลึกขึ้นมาถึงถ้อยคำสุภัททภิกษุผู้บวชต่อแก่ กล่าว
จ้วงจาบพระธรรมวินัย ครั้งเดินทางมาจากเมืองปาวาย คราว
ปรินิพพานใหม่เพียง 7 วันเท่านั้น ก็เกิดสังเวชใจ จึงรำพึงไปว่า
สักหน่อยพวกภิกษุอลัชชีผู้ไม่มีอาย จะสำคัญเห็นไปว่าพระศาสนา
หาครูอาจารย์มิได้แล้ว ก็จะฝ่าฝืนพุทธอาณา ยังพระสัทธรรมให้
อันตรธานเสียโดยพลัน เมื่อพระธรรมวินัยยังทรงอยู่ ก็เหมือนสมเด็จ
พระบรมครูยังมีพระองค์ สมควรแท้จริงที่จะสังคายนานศาสนธรรม
วางลงไว้ให้เป็นแบบฉบับจะได้ถาวรสิ้นกาลนาน ครั้นนึกขึ้นมาถึง
อุปการของสมเด็จพระบรมครูอันมีแก่อาตมา ก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นหน้าที่
อันตนจะพึงกระทำ จึงแจ้งความดำริแก่พระสงฆ์ และชวนให้ปลงใจ
ช่วยกันทำสังคายนาย. ภิกษุทั้งหลายก็อำนวยตาม ขอให้พระเถรเจ้า
จัดเลือกหาภิกษุผู้จะกระทำ พระเถรเจ้าเลือกล้วนแล้วแต่พระอรหันต-
เจ้าผู้ได้ปฏิสัมภิทาแตกฉานในห้องพระไตรปิฎก อันได้รับความยกย่อง
ของสมเด็จพระศาสดา คณนาได้ 500 หย่อนพระองค์หนึ่ง เพื่อ
ไว้ช่องแก่พระอานนท์. ครั้นจะเลือกเข้าแต่ต้นก็เกรงปรัปปวาท เหตุ
พระอานนท์นั้นยังเป็นเสขะไม่จบกิจ ครั้นจะเว้นเสียทีเดียวเล่า พระ
เถรเจ้าก็เป็นคลังพระสัทธรรมใหญ่ ได้เคยได้รับพระพุทธฎีกาเนือง ๆมา.
พระสงฆ์ทั้งปวงจึงขอให้เลือกพระอานนท์เข้าด้วยพระองค์หนึ่ง ก็
พอครบ 500 พอดี. พระเถรเจ้าทั้งปวงปรึกษาตกลงกันแล้ว ต่าง
พวกก็ไปสู่กรุงราชคฤห์ เพื่อจะได้ประชุมกันกระทำสังคายนาย ฝ่ายพระ
อานนท์เป็นวัตถุแห่งความโศกเศร้าของมหาชน พระเถรเจ้าไปถึงไหน
ก็มีคนร้องไห้รำพันถึงสมเด็จพระพุทธองค์ไปถึงนั่น. เมื่อพระสังคีติกา-
จารย์เจ้าไปถึงพระนครราชคฤห์พร้อมกันแล้ว ก็เข้าไปถวายพระพร
ทูลขอหัตถกรรมพระเจ้าอชาตศัตรุราช ปฏิสังขรณ์มหาวิหาร 18 ตำบล
เสร็จแล้ว ก็เข้าไปถวายพระพรทูลให้ทรงทราบความดำริจะกระทำ
สังคายนาย. บรมกษัตริย์ก็ทรงอนุโมทนา รับเป็นภารธุระฝ่ายอาณาจักร
แล้วตรัสสั่งให้ปลูกพระมณฑปอันใหญ่ งามไปด้วยจิตรกรรมอลังการ
แทบถ้ำสัตตบัณณคูหา ข้างเขาเวภารบรรพต เสร็จแล้วก็ดำรัสสั่ง
ให้เผดียงแก่พระสงฆ์. ตกลงเป็นอันได้เริ่มการกระทำสังคายนาย ใน
เดือนที่ 2 แห่งพระวัสสา. ในเวลาปัจจุสมัยใกล้รุ่งจะเป็นวันสงฆ-
สันติบาต พระอานนท์ปรารภความเพียรโดยสามารถ ก็ได้สำเร็จ
พระอรหัตทันเวลา ตกว่าการกสงฆ์ล้วนแต่องค์พระอรหันต์ทั้ง 500.
พระสงฆ์ปรึกษากันให้สังคายนายพระวินัยก่อนแล้วจึงพระธรรม เลือก
พระอุบาลีเป็นผู้วิสัชนาพระวินัย เลือกพระอานนท์เป็นผู้วิสัชนาพระ
ธรรม พระมหากัสสปเป็นผู้ถามต่างพระองค์สมมติอาตมาแล้วก็ถาม
และวิสัชนาตามหน้าที่ โดยวาระอันมาถึง พระวินัยจัดเป็นปิฎกหนึ่ง
พระธรรมแยกเป็นพระสุตตันตปิฎกและอภิธรรมปิฎก รวมเรียกว่าพระ
ไตรปิฎก ยกขึ้นสู่สังคายนายโดยลำดับกัน. เมื่อจบตอนหนึ่ง ๆ นั้น