เมนู

พุทธศาสนสุภาษิต
เล่ม 3
1. อัตตาวรรค คือ หมวดตน
1. อตฺตา หิ อติตโน นาโถ โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ.

ตนแล เป็นที่พึ่งของตน คนอื่น ใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้ ก็บุคคล
มีตนฝึกฝนดีแล้ว ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้ยาก.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. 25/36.

2. นตฺถิ อตฺตสมํ เปมํ นตฺถิ ธญฺญสมํ ธนํ
นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา วุฏฺฐิ เว ปรมา สรา.

สิ่งที่รัก ( อื่น ) เสมอด้วยตนไม่มี, ทรัพย์ ( อื่น ) เสมอด้วย
ข้าวเปลือกไม่มี, แสงสว่าง ( อื่น ) เสมอด้วยปัญญาไม่มี, ฝนแล
เป็นสระอย่างยิ่ง.
( พุทฺธ ) สํ. ส. 15/9.

3. ยสฺส อจฺจนฺตทุสฺสีลฺยํ มาลุวา สาลมิโวตฺถตํ
กโรติ โส ตถตฺตานํ ยถา นํ อิจฺฉตี ทิโส.

ผู้ใดมีความไร้ศีลธรรมครอบคลุม เหมือนย่านทรายคลุมไม้สาละ
ผู้นั้นชื่อว่าทำตนเหมือนถูกผู้ร้ายคุมตัว.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. 25/37.

2. อัปปมาทวรรค คือ หมวดไม่ประมาท
4. อปฺปมตฺตา สตีมนฺโต สุสีลา โหถ ภิกฺขโว
สุสมาหิตสงฺกปฺปา สจิตฺตมนุรกฺขถ.

ภิกษุทั้งหลาย ! พวกเธอจงเป็นผู้ไม่ประมาท มีสติ มีศีลดีงาม
ตั้งความดำริไว้ให้ดี คอยรักษาจิตของตน.
( พุทฺธ ) ที. มหา 10/142.
5. อปฺปมาทรตา โหถ สจิตฺตมนุกฺขถ
ทุคฺคา อุทฺธรถตฺตานํ ปงฺเก สนฺโนว กุญฺชโร.

ท่านทั้งหลาย จงยินดีในความไม่ประมาท คอยรักษาจิต
ของตน, จงถอนตนขึ้นจากหล่ม เหมือนช้างที่ตกหล่มถอนตนขึ้น
ฉะนั้น.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. 25/58.

6. อปฺปมาทรโต ภิกฺขุ ปมาเท ภยทสฺสิ วา
สญฺโญชนํ อณุํ ถูลํ ฑหํ อคฺคีว คจฺฉติ.

ภิกษุยินดีในความไม่ประมาท หรือเห็นภัยในความประมาท
ย่อมเผาสังโยชน์น้อยใหญ่ไป เหมือนไฟไหม้เชื้อน้อยใหญ่ไปฉะนั้น.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. 25/19.

7. อปฺปมาทรโต ภิกฺขุ ปมาเท ภยทสฺสิ วา
อภพฺโพ ปริหานาย นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก.

ภิกษุยินดีในความไม่ประมาท หรือเห็นภัยในความประมาท
เป็นผู้ไม่ควรเพือจะเสื่อม ( ชื่อว่า ) อยู่ใกล้พระนิพพานทีเดียว.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. 25/19.
8. เอวํวิหารี สโต อปฺปมตฺโต
ภิกฺขุ จรํ หิตฺวา มมายิตานิ
ชาติชรํ โสกปริทฺทวญฺจ
อิเธว วิทฺวา ปชเหยฺย ทุกฺขํ.

ภิกษุผู้มีธรรมเป็นเครื่องอยู่อย่างนี้ มีสติ ไม่ประมาท ละความ
ถือมั่นว่าของเราได้แล้วเที่ยวไป เป็นผู้รู้ พึงละชาติ ชรา โสกะ
ปริเทวะ และทุกข์ ในโลกนี้ได้.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. 25/535. ขุ. จู. 30/92.

9. อุฏฺฐาเนนปฺปมาเทน สญฺญเมน ทเมน จ
ทีปํ กยิราถ เมธาวี ยํ โอโฆ นาภิกีรติ.

คนมีปัญญา พึงสร้างเกาะ ที่น้ำหลากมาท่วมไม่ได้ ด้วยความ
หมั่น ความไม่ประมาท ความสำรวม และความข่มใจ.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. 25/18.
3. กัมมวรรค คือ หมวดกรรม
10. อุฏฺฐาตา กมฺมเธยฺเยสุ อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ
สุสํวิหิตกมฺมนฺโต ส ราชวสตึ วเส.

ผู้หมั่นในการงาน ไม่ประมาท เป็นผู้รอบคอบ จัดการงาน
เรียบร้อย. จึงควรอยู่ในราชการ.
( พุทฺธ ) ขุ. ชา. มหา. 28/339.
11. ปาปญฺเจ ปุริโส กยิรา น นํ กยิรา ปุนปฺปุนํ
น ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ ทุกฺโข ปาปสฺส อุจฺจโย.

ถ้าคนพึงทำบาป ก็ไม่ควรทำบาปนั้นบ่อย ๆ ไม่ควรทำความพอ
ใจในบาปนั้น เพราะการสั่งสมบาป นำทุกข์มาให้.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. 25/30.

12. โย ปุพฺเพ กตกลฺยาโณ กตตฺโถ นาวพุชฺฌติ
ปจฺฉา กิจฺเจ สมุปฺปนฺเน กตฺตารํ นาธิคจฺฉติ.

ผู้อื่นทำความดีให้ ทำประโยชน์ให้ก่อน แต่ไม่สำนึกถึง
( บุญคุณ ) เมื่อมีกิจเกิดขึ้นภายหลัง จะหาผู้ช่วยทำไม่ได้.
( โพธิสตฺต ) ขุ. ชา. เอก. 27/29.

13. สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน
อตฺตานํ อุปมํ กตฺวา น หเนยฺย น ฆาตเย.

สัตว์ทั้งปวง หวาดต่ออาญา ล้วนกลัวต่อความตาย ควรทำตน
ให้เป็นอุปมาแล้ว ไม่ฆ่าเขาเอง ไม่พึงให้ผู้อื่นฆ่า ( ผู้อื่น ).
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. 25/32.

4. กิเลสวรรค คือ หมวดกิเลส
14. อนิจฺจา อทฺธุวา กามา พหุทุกฺขา มหาวิสา
อโยคุโฬว สนฺตตฺโต อฆมูลา ทุกฺขปฺผลา.

กามทั้งหลาย ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน มีทุกข์มาก มีพิษมาก ดัง
ก้อนเหล็กที่ร้อนจัด เป็นต้นเค้าแห่งความคับแค้น มีทุกข์เป็นผล.
( สุเมธาเถรี ) ขุ. เถรี. 26/503.

15. อวิชฺชาย นิวุโต โลโก เววิจฺฉา ( ปมาทา ) นปฺปกาสติ
ชปฺปาภิเลปนํ พฺรูมิ ทุกฺขมสฺส มหพฺภยํ.

โลกถูกอวิชชาปิดบังแล้ว ไม่ปรากฏ เพราะความตระหนี่
( และความประมาท ) เรากล่าวความอยากว่า เป็นเครื่องฉาบทาโลก
ทุกข์เป็นภัยใหญ่ของโลกนั้น.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. 25/530. ขุ. จู. 30/9.
16. อิจฺฉาย พชฺฌตี โลโก อิจฺฉาวินยาย มุจฺจติ
อิจฺฉาย วิปฺปหาเนน สพฺพํ ฉินฺทติ พนธนํ.

โลกถูกความอยากผูกมัดไว้ จะหลุดได้เพราะกำจัดความอยาก,
เพราะละความอยากเสียได้ จึงชื่อว่าตัดเครื่องผูกทั้งปวงได้.
( พุทฺธ ) สํ. ศ. 15/56.
17. อิจฺฉา นรํ ปริกสฺสติ อิจฺฉา โลกสฺมิ ทุชฺชหา
อิจฺฉาพทฺธา ปุถู สตฺตา ปาเสน สกุณี ยถา.

ความอยากย่อมชักลากนรชนไป ความอยากละได้ยากในโลก,
สัตว์เป็นอันมากถูกความอยากผูกมัดไว้ ดุจนางนกถูกบ่วงรัดไว้ฉะนั้น.
( พุทฺธ ) สํ. ส. 15/61.