เมนู

ประมวลปัญหาและเฉลยสังคีติ
นักธรรม และ ธรรมศึกษาชั้นโท - เอก

ข้อความทั่วไป
ถาม. สังคีติกถาว่าด้วยเรื่องอะไร ? และเป็นอุบายให้สำเร็จ
ประโยชน์อย่างไร ?
ตอบ. ว่าด้วยเรื่องสังคายนา เป็นอุบายให้สำเร็จประโยชน์แก่
ชนผู้เกิดในภายหลังจักได้ประพฤติปฏิบัติตาม.
ท. 2477
ถ. สังคายนาหมายความว่ากระไร ? การที่พระอรหันต์ได้พร้อม
ใจกันทำเช่นนั้น ด้วยมีความมุ่งหมายอย่างไร ?
ต. สังคายนา หมายความว่าร้อยกรอง คือร้อยกรองธรรมวินัย
ให้เข้าเป็นหมวดหมู่. การที่พระอรหันต์ได้พร้อมใจกันทำเช่นนั้น ด้วย
มีความมุ่งหมายจักช่วยกันสะสางธรรมวินัย และจัดไว้ให้เป็นระเบียบ
จักได้เป็นเครื่องยังพระพุทธศาสนา ให้จิรัฏฐิติกาลไปสิ้นกาลนาน.
เพราะคำสอนอันเป็นพระบรมพุทโธวาทในครั้งนั้นยังกระจัดกระจายอยู่
ต่างองค์ต่างจำมา แม้การที่จะสั่งสอนประชาชน ก็สั่งสอนกันด้วย
วาจาให้จำไว้โดยไม่มีอักขระที่จะเป็นเครื่องช่วยความจำ เมื่อเป็นเช่น
นี้ ถ้าจะไม่รีบทำสังคายนาเพื่อสอบสวนทบทวนกันเสียบ้าง ต่อไป

อาจลบเลือนเข้าทุกที ในไม่นานก็จักไม่รู้ว่า ไหนเป็นคำสอนของพระ
พุทธเจ้า ไหนไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า ก็จะมีแต่เสื่อมทรามลง
ไปโดยเร็ว ท่านมีความประสงค์จักยังพระพุทธศาสนาให้ตั้งมั่นได้นาน
ถึงได้ช่วยกันรีบจัดทำ.
ส. ป.
ถ. ตามที่เราได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนารุ่งเรืองอยู่จนทุกวันนี้
เป็นผลเนื่องจากอะไร ?
ต. เนื่องมาจากการสังคายนากันมาโดยลำดับ 1 มีผู้สั่งสอนกัน
ต่อมา 1 มีผู้เล่าเรียน 1 พุทธบริษัทผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามธรรม
วินัย 1.
ท. 2474
ถ. พระพุทธศาสนาที่เจริญมาแล้วแต่ปางก่อนก็ดี ที่จักเจริญ
ต่อไปในภายหน้าก็ดี ทั้งนี้เพราะอาศัยอะไร ?
ต. ส่วนที่เจริญมาแล้ว อาศัยพระเถรานุเถระทั้งหลายพรัก
พร้อมกันทำสังคายนาในคราวที่ควรทำ และช่วยกันบริหารต่อ ๆ มา
ด้วยการศึกษาอบรมประพฤติปฏิบัติชอบตามธรรมวินัย และแนะนำ
สั่งสอนชุมนุมให้เว้นชั่วประพฤติชอบ ส่วนที่จักเจริญต่อไปข้างหน้า
นั้น ก็ต้องอาศัยพระเถรานุเถระและพุทธมามกะทั้งปวง ช่วยกันทำ
ตามอย่างบุรพชนที่ทำมาแล้วนั้นแล.
ท. 2476
ถ. จงหาหลักมาพิสูจน์ว่า พระพุทธศาสนาที่เป็นมาแล้วหรือที่ตั้ง

อยู่เดี๋ยวนี้ และต่อไปข้างหน้า ด้วยเหตุอย่างไร จึงจะบริสุทธิ์บริบูรณ์ ?
ต. ด้วยมีผู้ประพฤติปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์ให้ดำรง
ถาวรมาได้ตลอดทุกวันนี้ ถ้ายังมีผู้ศรัทธาเลื่อมใสปฏิบัติตาม พระ
ศาสนาก็ยังไม่สิ้นสูญ คงปรากฏประดิษฐานอยู่ได้ด้วยอาศัยกุลบุตร
สืบต่อ ๆ กันทะนุบำรุงปฏิบัติตามใน 3 กาล เมื่อสัทธรรมปฏิรูปเกิด
ขึ้น พระสงฆ์ก็ช่วยกันชำระกำจัดเสีย ร้อยกรองพระธรรมวินัยที่แท้
จริงไว้เป็นหลักฐาน.
อ. 2466
ถ. เมื่อได้ทราบเรื่องราวพระพุทธศาสนาที่เป็นมาแล้ว จากที่
นั้น ๆ ทำให้นึกถึงการดำเนินแห่งสังขตธรรมอย่างไร ?
ต. ทำให้นึกถึงความแปรปรวนของสังขตธรรม ที่ไม่ทันสมัย
หรือทานกำลังเหตุไม่อยู่ ย่อมแปรไปข้างฝ่ายเสื่อม ที่ทันสมัยหรือ
ทานกำลังเหตุอยู่ ย่อมแปรไปข้างฝ่ายเจริญ ดังพระพุทธศาสนาที่
เป็นมาแล้ว ก็มีความเสื่อมกับความเจริญผลัดกัน เมื่อใดอำนาจแห่ง
อกุศโลบายของคนที่มุ่งจะทำลายพระพุทธศาสนา โดยวิธีชักชวนหรือ
จูงใจคนที่โง่เขลาเบาปัญญาให้เห็นผิดเป็นชอบเกิดมีขึ้นแล้ว เมื่อนั้น
คนผู้โง่เขลาก็จะหลงดำเนินไปในทางผิด นี้เป็นทางที่จะให้พระพุทธ-
ศาสนาเสื่อมด้อยลง ถ้าผู้ที่ได้รับมอบภาระพระศาสนา มีท่านผู้เป็น
ประมุขแห่งศาสนาเป็นต้น พร้อมด้วยท่านผู้เป็นประมุขแห่งชาติเป็น
ศาสนูปถัมภก มีปรีชามามารถยิ่ง และไม่เพิกเฉยต่อกรณีย์ของตนแล้ว
ก็อาจต้านทานอกุศโลบายและเหนี่ยวรั้งเอาคนผู้ทรามด้วยปัญญาเข้าหา

ทางที่ชอบ ด้วยการแนะนำสั่งสอนให้เห็นผิดเป็นชอบได้ เนื่องด้วย
เหตุเช่นนี้ จึงได้มีการสังคายนาพระธรรมวินัยตั้งแต่ต้นเป็นลำดับมา ดัง
ปรากฏในตำนาน นี้เป็นทางนำให้พระศาสนาดำเนินขึ้นสู่ความเจริญ
แต่ก็อาจผลัดเปลี่ยนกันไปตามยุคตามคราว เพราะเหตุผลดังกล่าว
ข้างต้น.
อ. 2467
ถ. การเคารพสงฆ์มีคุณดีอย่างไร ? พระสาวกองค์ไหนได้รับ
เกียรติยศในเพราะคุณข้อนี้ ? จงอ้างเรื่องให้เห็นสม.
ต. การเคารพสงฆ์มีคุณดีให้ได้สำคัญมติของสงฆ์ว่าเป็นเนตติ
อันตนควรเชื่อถือและทำตาม เพื่อรักษาทิฏฐิสามัญญตา คือความเป็น
ผู้มีความเห็นร่วมกัน ไม่วิวาทกับใคร ๆ เพราะความเห็นผิด เป็นทาง
ดำเนินถึงความพร้อมเพรียงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั้งเป็นปฏิปทา
ที่ควรเป็นแบบอย่างของผู้อื่นในการรักษาสามัคคี เพื่อความตั้งอยู่
ยั่งยืนแห่งพระธรรมวินัย. พระอานนท์ได้รับเกียรติยศในเพราะคุณ
ข้อนี้ มีเรื่องเล่าว่า ครั้งทำประถมสังคีติ พระเถระทั้งหลายพากันปรับ
อาบัติแก่ท่านเป็นหลายวัตถุ เพราะข้อบกพร่องของท่านในปรินิพพาน
สมัยบ้าง เพราะข้อที่ท่านทำไม่ถูกใจบ้าง มีตัวอย่างเช่นเมื่อใกล้จะ
ปรินิพพาน พระศาสดาประทานพระบรมพุทธานุญาตไว้ว่า เมื่อ
พระองค์ล่วงไปแล้ว สงฆ์จำนงอยู่จะถอนสิกขาบทเล็กน้อยเสียบ้าง
ก็ได้ ท่านไม่ทันคิด ไม่ได้กราบทูลถามว่าสิกขาบทเล็กน้อยนั้นเพียง
ไหน และท่านช่วยธุระพระนางมหาปชาบดีโคตมี สมเด็จพระศาสดา

ทรงอนุญาตให้มาตุคามอุปสมบทเป็นภิกษุณี ท่านเห็นว่า ตามเรื่องที่
เป็นมาท่านไม่ต้องอาบัติ แต่ท่านยอมแสดงเพราะเชื่อพระเถระทั้งหลาย
ดังนี้.
อ. 2468
ถ. การทำสังคายนา ย่อมเป็นเหตุให้พระศาสนาตั้งอยู่ถาวรได้
ประการหนึ่ง แต่เพียงเท่านั้นน่าจะยังไม่พอ จะต้องประกอบด้วยเหตุ
อะไรอีก จึงจะทำให้พระศาสนาเจริญถาวรสืบไป.
ต. ต้องประกอบด้วยเหตุ คือภิกษุสามเณรตั้งใจศึกษาเล่าเรียน
พระศาสนานั้นโดยเอื้อเฟื้อ เมื่อมีความรู้แล้ว ตนเองก็ต้องปฏิบัติตาม
และถ้าสามารถก็แนะนำสั่งสอนผู้อื่นต่อไป.
ท. 2479
ถ. พระพุทธศาสนายั่งยืนสืบมาจนบัดนี้ ด้วยอาการอย่างไร ?
ต. พระพุทธศาสนายั่งยืนมาจนบัดนี้ ด้วยบริษัท 4 เหล่า มี
พระเจ้าแผ่นดินเป็นอัครศาสนูปถัมภกช่วยกันบริหารสืบมา ด้วยอาการ
ทำสังคายนาเป็นคราว ๆ และนับถือปฏิบัติเนื่องโดยลำดับมาจนทุกวันนี้.
ท. 2466
ถ. พระสงฆ์เป็นผู้มีหน้าที่สืบอายุพระพุทธศาสนาโดยตรง นอก
จากหน้าที่ร้อยกรองพระธรรมวินัย ซึ่งเรียกว่าสังคายนาแล้ว จะพึงมี
หน้าที่เกี่ยวข้องกับพระธรรมวินัยอย่างไรอีก เพื่อพระธรรมวินัยจะได้
เจริญถาวรสืบไป ?
ต. คือศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยแล้วและปฏิบัติตาม ถ้ามี

ความสามารถก็แนะนำสั่งสอนผู้อื่นต่อไป.
ท. 2478
ถ. การจัดระเบียบธรรมไว้เป็นหมวด ๆ ซึ่งเรียกว่าสังคีติหรือ
สังคายนา ครั้งพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ มีพระสาวกองค์ใด
ริเริ่มไว้บ้าง ? โดยปรารภเหตุอะไร ?
ต. มีพระสารีบุตรอัครสาวกเริ่มจัดขึ้นก่อน. โดยปรารภเหตุ
นิครนถนาฏบุตรทำกาลกิริยา สาวกแตกกระจัดกระจาย จึงแสดงสังคีติ
สูตรจัดระเบียบธรรมไว้เป็นหมวด ๆ และได้รับพุทธานุมัติของพระ
ศาสดา แต่พระสารีบุตรปรินิพพานก่อนพระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธ
องค์ปรินิพพานแล้ว พระมหากัสสปะจึงทำขึ้นโดยทำนองนั้น.
ท. 2474
ถ. พระสาวกองค์ไหน ซึ่งเป็นเจ้าแบบเจ้าแผน วางแบบอย่าง
สังคายนาไว้ก่อนพุทธปรินิพพาน ?
ต. พระสารีบุตรเป็นเจ้าแบบเจ้าแผนวางแบบอย่างไว้ มีสังคีติ-
สูตรเป็นตัวอย่าง.
ท. 2477
ถ. การสังคายนาพระธรรมวินัย ที่ท่านทำกันมาแต่ประถมสังคีติ
กาลได้มาจากไหน หรือท่านริกันขึ้นเอง ?
ต. ท่านไม่ได้ริขึ้นเอง น่าจะดำเนินตามคำปรารภของพระ
สารีบุตร เมื่อครั้งนิครนถนาฏบุตรทำกาลกิริยา สาวกแตกกระจัดกระ
จายกันด้วยอำนาจลัทธิ ท่านจึงแสดงสังคีติสูตรจัดระเบียบธรรมไว้เป็น