อุปกรณ์วินัยมุข
อภิสมาจาร
สิกขาบทแผนกนี้ มาในขันธกะเป็นพื้น ไม่ได้บอกจำนวน
จัดตามกิจหรือวัตถุ เรียกว่า ขันธกะอันหนึ่ง ๆ คือ
1. ว่าด้วยอุโบสถ จัดไว้พวกหนึ่ง เรียกว่า อุโบสถขันธกะ.
2. ว่าด้วยจีวร จัดไว้พวกหนึ่ง เรียกว่า จีวรขันธกะ.
มาในบาลีอื่นนอกจากขันธกะ คือ
1. ในนิทานต้นบัญญัติแห่งสิกขาบทที่มาในพระปาฏิโมกข์.
2. ในวินีตวัตถุเรื่องสำหรับเทียบเคียงตัดสินอาบัติในคัมภีร์วิภังค์.
3. ในอรรถกถาที่เรียกว่า บาลีมุตตกะ.
สิกขาบทแผนกนี้ มีรูปเป็น 2 คือ
1. เป็นข้อห้าม.
2. เป็นข้ออนุญาต.
ข้อห้ามที่ปรับอาบัติมีเพียง 2 คือ
1. ถุลลัจจัย.
2. ทุกกฏ.
กัณฑ์ที่ 11
กายบริหาร
กายบริหารมี 14 คือ
1. อย่าพึงไว้ผมยาว จะไว้ได้เพียง 2 เดือนหรือ 2 นิ้ว.
2. อย่าพึงไว้หนวดไว้เครา พึงโกนเสีย เช่นเดียวกับผม.
3. อย่าพึงไว้เล็บยาว พึงตัดเสียด้วยมีดเล็กพอเสมอเนื้อ และอย่า
พึงขัดเล็บให้เกลี้ยงเกลา.
4. อย่าพึงไว้ขนจมูกยาว [ออกนอกรูจมูก] พึงถอนเสียด้วยแหนบ1.
5. อย่าพึงให้นำเสียซึ่งขนในที่แคบ คือในร่มผ้าและที่รักแร้ เว้น
ไว้แต่อาพาธ.
6. อย่าพึงผัดหน้า ไล้หน้า ทาหน้า ย้อมหน้า เจิมหน้า ย้อมตัว เว้นไว้
แต่อาพาธ.
7. อย่าพึงแต่งเครื่องประดับต่าง ๆ เป็นต้นว่า ตุ้มหู สายสร้อย
สร้อยคอ สร้อยเอว เข็มขัด บานพับ [สำหรับรัดแขน] กำไลมือ
และแหวน.
8. อย่าพึงส่องดูเงาหน้า ในกระจกหรือในวัตถุอื่น อาพาธเป็นแผล
ที่หน้า ส่องทำกิจได้.
9. อย่าพึงเปลือยกายในที่ไม่บังควรและในเวลาไม่บังควร [เปลือย
1. ถอนขนจมูกทำให้เสียสายตา พึงตัดด้วยกรรไกรดีกว่า.
เป็นวัตร ต้องถุลลัจจัย เปลือยทำกิจแก่กันและกันและในเวลาฉัน
ต้องทุกกฏ ในเรือนไฟและในน้ำ ทรงอนุญาต].
10. อย่าพึงนุ่งห่มผ้าอย่างคฤหัสถ์.
11. ถ่ายอุจจาระแล้ว เมื่อมีน้ำอยู่ จะไม่ชำระไม่ได้ เว้นไว้แต่หา
น้ำไม่ได้ หรือน้ำมี แต่ไม่มีภาชนะจะตัก เช่นนี้ เช็ดเสียด้วยไม้
หรือด้วยของอื่นเพียงเท่านั้นก็ได้.
12. อย่าพึงให้ทำสัตถกรรม [ผ่าตัดทวารหนักด้วยศัสตรา] ในที่แคบ
[ทวารหนัก] หรือในที่ใกล้ที่แคบเพียง 2 นิ้ว อย่าพึงให้ทำ
วัตถิกรรม [ ผูกรัดที่ทวารหนัก ] ให้ทำ ต้องถุลลัจจัย.
13. เป็นธรรมเนียมของภิกษุต้องใช้ไม้ชำระฟัน.
14. น้ำที่ดื่มให้กรองก่อน.
ข้อห้ามการแต่งผมมีดังนี้
1. ไม่ให้หวีผมด้วยหวีหรือด้วยแปรง.
2. ไม่ให้เสยผมด้วยนิ้วมือโดยอาการว่าหวี.
3. ไม่ให้แต่งผมด้วยน้ำมันเจือขี้ผึ้ง หรือด้วยน้ำมันเจือน้ำ.
4. ไม่ให้ตัดผมด้วยกรรไกร เว้นไว้แต่อาพาธ.
5. ไม่ให้ถอนผมหงอก.
ข้อห้ามการแต่งหนวดมีดังนี้
1. ไม่ให้แต่งหนวด.
2. ไม่ให้ตัดหนวดด้วยกรรไกร.
ข้อห้ามภิกษุผู้อาบน้ำมีดังนี้
1. ไม่ให้สีกายในที่ไม่บังควร เช่นต้นไม้ เสา ฝาเรือน และแผ่น
กระดาน.
2. ไม่ให้สีกายด้วยของไม่บังควร เช่นทำไม้ทำเป็นรูปมือหรือจักเป็น
ฟันมังกร และเกลียวเชือกที่คม.
3. ไม่ให้เอาหลังต่อหลังสีกัน.
ข้อห้ามการนุ่งห่มผ้าอย่างคฤหัสถ์มีดังนี้
1. ห้ามเครื่องนุ่มห่มของคฤหัสถ์ เช่นกางเกง เสื้อ ผ้าโพก หมวด
ผ้านุ่งผ้าห่มสีต่าง ๆ ชนิดต่าง ๆ.
2. ห้ามอาการนุ่งห่มต่าง ๆ ที่มิใช่ของภิกษุ
ประโยชน์แห่งการเคี้ยวไม้ชำระฟันมี 5 คือ
1. ฟันดูไม่สกปรก.
2. ปากไม่เหม็น.
3. เส้นประสาทรับรสหมดจดดี.
4. เสมหะไม่หุ้มอาหาร.
5. ฉันอาหารมีรส.
กัณฑ์ที่ 12
บริขารบริโภค
จีวร
ประมาณจีวรที่ใช้ในเมืองเรามีดังนี้
1. สังฆาฏิ ยาวไม่เกิน 6 ศอก กว้างไม่เกิน 4 ศอก.
2. อุตราสงค์ ยาวไม่เกิน 6 ศอก กว้างไม่เกิน 4 ศอก.
3. อันตรวาสก ยาวไม่เกิน 6 ศอก กว้างไม่เกิน 2 ศอก.
[สำหรับพระขนาดกลาง สังฆาฏฺกับอุตราสงค์ ลดด้านยาว 1
คืบ ด้านกว้าง 8 นิ้ว อันตรวาสก ลดลงเพียงยาว 4 ศอกขึ้นไป
ถึง 8 นิ้ว กว้าง 1 ศอกคืบ 4 นิ้ว เป็นพอดี].
ผ้าสำหรับทำจีวรมี 6 ชนิด คือ
1. โขมะ ผ้าทำด้วยเปลือกไม้ เช่นผ้าลินิน.
2. กัปปาสิกะ ผ้าทำด้วยฝ้าย.
3. โกเสยยะ ผ้าทำด้วยใยไหม เช่นแพร.
4. กัมพละ ผ้าทำด้วยขนสัตว์ ยกผมและขนมุษย์ เช่นผ้าสักหลาด
และกำมะหริด.
5. สาณะ ผ้าทำด้วยเปลือกป่าน [ ผ้าชนิดนี้เป็นผ้าเนื้อสาก ] .
6. ภังคะ ผ้าทำด้วยของ 5 อย่างนั้นแต่อย่างใดอย่างหนึ่งปนกัน เช่น
ผ้าด้ายแกมไหม.
เครื่องนุ่งห่มที่ทำด้วยของอื่น ห้ามไม่ให้ใช้ คือ
1. คากรอง [กุสจีร].
2. เปลือกต้นไม้กรอง [วากจีร].
3. ผลไม้กรอง [ผลกจีร].
4. ผ้ากำพลทำด้วยผมคน [เกสกมฺพล].
5. ผ้ากำพลทำด้วยหางขนสัตว์ [วาลกมฺพล].
6. ปีกนกเค้า [อุลูกปกฺข].
7. หนังสือ [อชินขิป].
8. ทำด้วยปอ [โปตฺถก].
นุ่งห่มผ้าเหล่านี้เป็นวัตร ต้องถุลลัจจัย เป็นแต่สักว่านุ่งห่ม
ต้องทุกกฏ.
จีวรนั้นโปรดให้ตัดเป็นกระทงมีชื่อดังนี้
1. อัฑฒมณฑล คีเวยยกะ.
2. มณฑล วิวัฏฏะ.
3. อัฑฒมณฑล ชังเฆยยกะ.
4. มณฑล อนุวิวัฏฏะ.
5. อัฑฒมณฑล พาหันตะ.
6. มณฑล อนุวิวัฏฏะ.
7. อัฑฒกุสิ.
8. กุสิ.