เมนู

6. เวทคูปญฺโห

[6] ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เวทคู อุปลพฺภตี’’ติ? ‘‘โก ปเนส, มหาราช, เวทคู นามา’’ติ? ‘‘โย, ภนฺเต, อพฺภนฺตเร ชีโว จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ, โสเตน สทฺทํ สุณาติ, ฆาเนน คนฺธํ ฆายติ, ชิวฺหาย รสํ สายติ, กาเยน โผฏฺฐพฺพํ ผุสติ, มนสา ธมฺมํ วิชานาติ, ยถา มยํ อิธ ปาสาเท นิสินฺนา เยน เยน วาตปาเนน อิจฺเฉยฺยาม ปสฺสิตุํ, เตน เตน วาตปาเนน ปสฺเสยฺยาม, ปุรตฺถิเมนปิ วาตปาเนน ปสฺเสยฺยาม, ปจฺฉิเมนปิ วาตปาเนน ปสฺเสยฺยาม, อุตฺตเรนปิ วาตปาเนน ปสฺเสยฺยาม, ทกฺขิเณนปิ วาตปาเนน ปสฺเสยฺยามฯ เอวเมว โข, ภนฺเต, อยํ อพฺภนฺตเร ชีโว เยน เยน ทฺวาเรน อิจฺฉติ ปสฺสิตุํ, เตน เตน ทฺวาเรน ปสฺสตี’’ติฯ

เถโร อาห ‘‘ปญฺจทฺวารํ, มหาราช, ภณิสฺสามิ, ตํ สุโณหิ, สาธุกํ มนสิกโรหิ, ยทิ อพฺภนฺตเร ชีโว จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ, ยถา มยํ อิธ ปาสาเท นิสินฺนา เยน เยน วาตปาเนน อิจฺเฉยฺยาม ปสฺสิตุํ, เตน เตน วาตปาเนน รูปํ เยว ปสฺเสยฺยาม, ปุรตฺถิเมนปิ วาตปาเนน รูปํ เยว ปสฺเสยฺยาม, ปจฺฉิเมนปิ วาตปาเนน รูปํ เยว ปสฺเสยฺยาม, อุตฺตเรนปิ วาตปาเนน รูปํ เยว ปสฺเสยฺยาม, ทกฺขิเณนปิ วาตปาเนน รูปํ เยว ปสฺเสยฺยาม, เอวเมเตน อพฺภนฺตเร ชีเวน โสเตนปิ รูปํ เยว ปสฺสิตพฺพํ, ฆาเนนปิ รูปํ เยว ปสฺสิตพฺพํ, ชิวฺหายปิ รูปํ เยว ปสฺสิตพฺพํ, กาเยนปิ รูปํ เยว ปสฺสิตพฺพํ, มนสาปิ รูปํ เยว ปสฺสิตพฺพํ; จกฺขุนาปิ สทฺโท เยว โสตพฺโพ, ฆาเนนปิ สทฺโท เยว โสตพฺโพ, ชิวฺหายปิ สทฺโท เยว โสตพฺโพ, กาเยนปิ สทฺโท เยว โสตพฺโพ, มนสาปิ สทฺโท เยว โสตพฺโพ; จกฺขุนาปิ คนฺโธ เยว ฆายิตพฺโพ, โสเตนปิ คนฺโธ เยว ฆายิตพฺโพ, ชิวฺหายปิ คนฺโธ เยว ฆายิตพฺโพ, กาเยนปิ คนฺโธ เยว ฆายิตพฺโพ, มนสาปิ คนฺโธ เยว ฆายิตพฺโพ; จกฺขุนาปิ รโส เยว สายิตพฺโพ, โสเตนปิ รโส เยว สายิตพฺโพ, ฆาเนนปิ รโส เยว สายิตพฺโพ, กาเยนปิ รโส เยว สายิตพฺโพ, มนสาปิ รโส เยว สายิตพฺโพ; จกฺขุนาปิ โผฏฺฐพฺพํ เยว ผุสิตพฺพํ, โสเตนปิ โผฏฺฐพฺพํ เยว ผุสิตพฺพํ, ฆาเนนปิ โผฏฺฐพฺพํ เยว ผุสิตพฺพํ, ชิวฺหายปิ โผฏฺฐพฺพํ เยว ผุสิตพฺพํ, มนสาปิ โผฏฺฐพฺพํ เยว ผุสิตพฺพํ; จกฺขุนาปิ ธมฺมํ เยว วิชานิตพฺพํ, โสเตนปิ ธมฺมํ เยว วิชานิตพฺพํ, ฆาเนนปิ ธมฺมํ เยว วิชานิตพฺพํ, ชิวฺหายปิ ธมฺมํ เยว วิชานิตพฺพํ, กาเยนปิ ธมฺมํ เยว วิชานิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติฯ

‘‘น โข เต, มหาราช, ยุชฺชติ ปุริเมน วา ปจฺฉิมํ, ปจฺฉิเมน วา ปุริมํ, ยถา วา ปน, มหาราช, มยํ อิธ ปาสาเท นิสินฺนา อิเมสุ ชาลวาตปาเนสุ อุคฺฆาฏิเตสุ มหนฺเตน อากาเสน พหิมุขา สุฏฺฐุตรํ รูปํ ปสฺสาม, เอวเมเตน อพฺภนฺตเร ชีเวนาปิ จกฺขุทฺวาเรสุ อุคฺฆาฏิเตสุ มหนฺเตน อากาเสน สุฏฺฐุตรํ รูปํ ปสฺสิตพฺพํ, โสเตสุ อุคฺฆาฏิเตสุ…เป.… ฆาเน อุคฺฆาฏิเต…เป.… ชิวฺหาย อุคฺฆาฏิตาย…เป.… กาเย อุคฺฆาฏิเต มหนฺเตน อากาเสน สุฏฺฐุตรํ สทฺโท โสตพฺโพ, คนฺโธ ฆายิตพฺโพ, รโส สายิตพฺโพ, โผฏฺฐพฺโพ ผุสิตพฺโพ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ

‘‘น โข เต, มหาราช, ยุชฺชติ ปุริเมน วา ปจฺฉิมํ, ปจฺฉิเมน วา ปุริมํ, ยถา วา ปน, มหาราช, อยํ ทินฺโน นิกฺขมิตฺวา พหิทฺวารโกฏฺฐเก ติฏฺเฐยฺย, ชานาสิ ตฺวํ, มหาราช, ‘อยํ ทินฺโน นิกฺขมิตฺวา พหิทฺวารโกฏฺฐเก ฐิโต’’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชานามี’’ติฯ ‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อยํ ทินฺโน อนฺโต ปวิสิตฺวา ตว ปุรโต ติฏฺเฐยฺย, ชานาสิ ตฺวํ, มหาราช, ‘อยํ ทินฺโน อนฺโต ปวิสิตฺวา มม ปุรโต ฐิโต’’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชานามี’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อพฺภนฺตเร โส ชีโว ชิวฺหาย รเส นิกฺขิตฺเต ชาเนยฺย อมฺพิลตฺตํ วา ลวณตฺตํ วา ติตฺตกตฺตํ วา กฏุกตฺตํ วา กสายตฺตํ วา มธุรตฺตํ วา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเนยฺยา’’ติฯ ‘‘เต รเส อนฺโต ปวิฏฺเฐ ชาเนยฺย อมฺพิลตฺตํ วา ลวณตฺตํ วา ติตฺตกตฺตํ วา กฏุกตฺตํ วา กสายตฺตํ วา มธุรตฺตํ วา’’ติฯ ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติฯ

‘‘น โข เต, มหาราช, ยุชฺชติ ปุริเมน วา ปจฺฉิมํ, ปจฺฉิเมน วา ปุริมํ, ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส มธุฆฏสตํ อาหราเปตฺวา มธุโทณิํ ปูราเปตฺวา ปุริสสฺส มุขํ ปิทหิตฺวา [ปิทหิตฺวาว (ก.)] มธุโทณิยา ปกฺขิเปยฺย, ชาเนยฺย, มหาราช, โส ปุริโส มธุํ สมฺปนฺนํ วา น สมฺปนฺนํ วา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติฯ ‘‘เกน การเณนา’’ติฯ ‘‘น หิ ตสฺส, ภนฺเต, มุเข มธุ ปวิฏฺฐ’’นฺติฯ

‘‘น โข เต, มหาราช, ยุชฺชติ ปุริเมน วา ปจฺฉิมํ, ปจฺฉิเมน วา ปุริม’’นฺติฯ ‘‘นาหํ ปฏิพโล ตยา วาทินา สทฺธิํ สลฺลปิตุํ; สาธุ, ภนฺเต, อตฺถํ ชปฺเปหี’’ติฯ

เถโร อภิธมฺมสํยุตฺตาย กถาย ราชานํ มิลินฺทํ สญฺญาเปสิ – ‘‘อิธ, มหาราช, จกฺขุญฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิญฺญาณํ, ตํสหชาตา ผสฺโส เวทนา สญฺญา เจตนา เอกคฺคตา ชีวิตินฺทฺริยํ มนสิกาโรติ เอวเมเต ธมฺมา ปจฺจยโต ชายนฺติ, น เหตฺถ เวทคู อุปลพฺภติ, โสตญฺจ ปฏิจฺจ สทฺเท จ…เป.… มนญฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิญฺญาณํ, ตํสหชาตา ผสฺโส เวทนา สญฺญา เจตนา เอกคฺคตา ชีวิตินฺทฺริยํ มนสิกาโรติ เอวเมเต ธมฺมา ปจฺจยโต ชายนฺติ, น เหตฺถ เวทคู อุปลพฺภตี’’ติฯ

‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติฯ

เวทคูปญฺโห ฉฏฺโฐฯ

7. จกฺขุวิญฺญาณาทิปญฺโห

[7] ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยตฺถ จกฺขุวิญฺญาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิญฺญาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ยตฺถ จกฺขุวิญฺญาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิญฺญาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’’ติฯ

‘‘กิํ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, ปฐมํ จกฺขุวิญฺญาณํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา มโนวิญฺญาณํ, อุทาหุ มโนวิญฺญาณํ ปฐมํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา จกฺขุวิญฺญาณ’’นฺติ? ‘‘ปฐมํ, มหาราช, จกฺขุวิญฺญาณํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา มโนวิญฺญาณ’’นฺติฯ

‘‘กิํ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, จกฺขุวิญฺญาณํ มโนวิญฺญาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถาหํ อุปฺปชฺชามิ, ตฺวมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชาหี’ติ, อุทาหุ มโนวิญฺญาณํ จกฺขุวิญฺญาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถ ตฺวํ อุปฺปชฺชิสฺสสิ, อหมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชิสฺสามี’’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราช, อนาลาโป เตสํ อญฺญมญฺเญหี’’ติฯ

‘‘กถํ , ภนฺเต นาคเสน, ยตฺถ จกฺขุวิญฺญาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิญฺญาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘นินฺนตฺตา จ, มหาราช, ทฺวารตฺตา จ จิณฺณตฺตา จ สมุทาจริตตฺตา จา’’ติฯ

‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, นินฺนตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิญฺญาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิญฺญาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ? โอปมฺมํ กโรหี’’ติฯ ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, มหาราช, เทเว วสฺสนฺเต กตเมน อุทกํ คจฺเฉยฺยา’’ติ? ‘‘เยน, ภนฺเต, นินฺนํ, เตน คจฺเฉยฺยา’’ติฯ ‘‘อถาปเรน สมเยน เทโว วสฺเสยฺย, กตเมน ตํ อุทกํ คจฺเฉยฺยา’’ติฯ ‘‘เยน, ภนฺเต, ปุริมํ อุทกํ คตํ, ตมฺปิ เตน คจฺเฉยฺยา’’ติฯ

‘‘กิํ นุํ โข, มหาราช, ปุริมํ อุทกํ ปจฺฉิมํ อุทกํ อาณาเปติ ‘เยนาหํ คจฺฉามิ, ตฺวมฺปิ เตน คจฺฉาหี’ติ, ปจฺฉิมํ วา อุทกํ ปุริมํ อุทกํ อาณาเปติ ‘เยน ตฺวํ คจฺฉิสฺสสิ, อหมฺปิ เตน คจฺฉิสฺสามี’’’ติฯ